ไม่ยึดถือว่าเป็นตัวตน ย่อมเป็นประโยชน์กว่า

 
สารธรรม
วันที่  27 ธ.ค. 2551
หมายเลข  10782
อ่าน  3,639

(พระบรมสารีริกธาตุ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เดลลี อินเดีย)

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ข้อความบางตอนจาก แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๗๒๔ บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ไม่ยึดถือว่าเป็นตัวตน ย่อมเป็นประโยชน์กว่า

างท่านก็กล่าวว่า ไปเสียก่อนเถอะ ไปแสวงหาอาจารย์ แล้วอาจารย์ท่านก็สอนเอง ว่าความสงบขั้นสูง จะต้องอาศัยการปฏิบัติอย่างไร พึ่งบุคคลอื่นโดยคิดว่า ไปเสียก่อน แล้วท่านจะสอนให้ว่าปฏิบัติอย่างไร ความสงบจึงจะเกิดได้

ต่ขอให้พิจารณาตามความเป็นจริงว่า ความสงบของใคร ความสงบของท่าน ต้องเกิดจากปัญญาของท่าน ที่เข้าใจเรื่องความสงบว่า ความสงบนั้นคือ จิตที่เป็นกุศล ที่สงบจากอกุศล ในขณะที่ให้ทานก็เป็นความสงบของจิต แต่ว่าเป็นไปในการให้ ในขณะที่วิรัติทุจริตก็เป็นความสงบของจิต ซึ่งเป็นไปกับการงดเว้นทุจริต แต่ว่าในชีวิตประจำวัน ท่านไม่ได้ให้ทานตลอดเวลา ท่านไม่ได้วิรัติทุจริตตลอดเวลา เพราะว่าไม่มีวัตถุจะให้วิรัติ เพราะฉะนั้น จะต้องเป็นปัญญาที่รู้สภาพของจิตจริงๆ ว่าขณะใดเป็นกุศล แล้วเจริญอบรมกุศล ซึ่งเป็นการภาวนาซึ่งไม่ใช่ขั้นของทาน หรือศีล แต่เป็นขั้นที่จะให้จิตสงบในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะเป็นบาท เป็นปัจจัยให้ท่านเป็นบุคคลซึ่งสงบขึ้น โดยที่ไม่ได้หวังว่า ทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไรอย่างนี้ ไปสู่สำนักหนึ่งสำนักใดแล้วอาจารย์จะทำให้ท่านปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดจนกระทั่งท่านสามารถที่จะสงบขึ้นได้ นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย และถ้าปกติประจำวันไม่สงบ แล้วก็จะไปหวังว่า ไปที่หนึ่งที่ใดแล้วจะสงบ ย่อมไม่สามารถที่จะระลึก แล้วก็เจริญความสงบของจิต ซึ่งท่านรู้ว่าขณะนั้นไม่สงบ ให้สงบยิ่งขึ้น (โดย) เพิ่มความสงบในชีวิตประจำวันได้ พราะ (การเจริญความสงบของจิต) ไม่ใช่เรื่องรีบร้อน แต่เป็น "เรื่องที่จะต้องรู้ตามความเป็นจริง" ในลักษณะของจิตที่สงบก่อนที่จะเจริญสมถภาวนาได้

รรมเป็นเรื่องละเอียด เพราะฉะนั้น ท่านที่ยังสงสัยว่าจะไม่ใช่ตัวตนได้อย่างไร ไม่สามารถที่จะหมดความสงสัยได้โดยเร็ว หรือว่าโดยง่าย ต้องอาศัยการศึกษาให้เข้าใจในเหตุผลเป็นเบื้องต้น แล้วก็ยังไม่พอ ต้องปฏิบัติ คือ อบรมเจริญปัญญาขั้นที่สามารถประจักษ์ในลักษณะของสภาพธรรม โดยปรากฏในลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ เป็นแต่เพียงสภาพธรรม และผู้ที่จะดับการยึดถือในสภาพธรรมเป็นตัวตน สัตว์ บุคคลได้เป็นสมุจเฉทได้คือไม่เกิดอีกเลยนะคะ คือพระอรหันต์

พราะฉะนั้น ก่อนอื่น "เพียงคิด" เพราะต้องเป็นผู้ที่พิจารณาธรรมด้วย การฟังธรรมแล้ว จะต้องคิดพิจารณาในเหตุในผล ในขั้นต้นเพียงคิดก่อนว่า การที่จะยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน กับ การที่จะไม่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน อย่างไหนจะเป็นประโยชน์กว่ากัน

ย่างไหนจะเป็นประโยชน์กว่าคะ การไม่ยึดถือดีกว่าแล้วก็เป็นความจริงด้วย เพราะฉะนั้น ก็จะต้องตามศึกษาค้นคว้าพิจารณาต่อไปจนกระทั่งสามารถที่จะเพิ่มความรู้ในธรรมแล้วก็เห็นว่า ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ แต่ต้องเริ่มจากการเห็นประโยชน์ว่าถ้าไม่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน ย่อมเป็นประโยชน์กว่า


(กุสินารา)

[๕๖๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ โคตมกเจดีย์ ใกล้พระนครเวสาลี ฯลฯ
ตรัสพระธรรมเทศนาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

(๑) เราแสดงธรรมเพื่อความรู้ยิ่งเห็นจริง มิใช่เพื่อความไม่รู้ยิ่งเห็นจริง

(๒) เราแสดงธรรมประกอบด้วยเหตุ มิใช่ไร้เหตุ

(๓) เราแสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ (คือความอัศจรรย์ที่ผู้ปฏิบัติตาม ย่อมได้รับผลสมแก่ความปฏิบัติ) มิใช่ไม่มีปาฏิหาริย์


ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเราแสดงธรรมเพื่อความรู้ยิ่งเห็นจริง มิใช่เพื่อความไม่รู้ยิ่งเห็นจริง แสดงธรรมประกอบด้วยเหตุ มิใช่ไร้เหตุ แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ มิใช่ไม่มีปาฏิหาริย์ (เช่นนั้น) โอวาทานุศาสนีของเรา จึงควรที่บุคคลจะพึงประพฤติกระทำตาม และ ควรที่ท่านทั้งหลาย จะยินดี จะมีใจเป็นของตน จะโสมนัสว่า

พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว

พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว

พระสงฆ์เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว.


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระธรรมเทศนานี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นชื่นชมยินดีภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้ายิ่งนัก ก็แลเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไวยากรณเทศนานี้อยู่ * สหัสสีโลกธาตุ ได้หวั่นไหวแล้ว.

จบโคตมสูตรที่ ๓

๓. โคตมสูตร

ว่าด้วยอาการที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม ๓ อย่าง

อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ หน้าที่ ๕๔๙

คลิกเพื่ออ่าน -->

ยามต้องการเหตุผลย่อมปรารถนาบัณฑิต

ขออุทิศส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์

* สหัสสีจูฬนิกาโลกธาตุ (โลกธาตุอย่างเล็กมีพันจักรวาล)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 27 ธ.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เซจาน้อย
วันที่ 28 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
opanayigo
วันที่ 28 ธ.ค. 2551
อนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 29 ธ.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ไม่มีเรา
วันที่ 30 ธ.ค. 2551

ขอโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 31 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 6 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ