วิธีนี้ไม่ฮวบฮาบ
(พระพุทธรูป ณ วัดพระธาตุดอยคำ จ. เชียงใหม่)
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย...
ข้อความบางตอนจาก แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๒๐
บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
วิธีนี้ไม่ฮวบฮาบ
ความแยบคาย เป็นเรื่องของ "ปัญญา"
หมายความว่า ปัญญา มีขั้นการฟังปัญญา มีขั้นการพิจารณาปัญญา มีขั้นที่กำลังมีสติระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ
ความแยบคายนี้เกิดจากการฟังด้วย ถ้าฟังไม่แยบคาย ฟังไม่เข้าใจ ก็ไม่มีอะไรที่จะอุปการะในขณะที่มีสติ แต่ว่าความแยบคายที่เกิดจากการฟัง ติดตามอุปการะในขณะที่มีสติไม่ให้เขวไป ไม่ให้คลาดเคลื่อนไป
มีความแยบคาย คือ การพิจารณาเหตุผล ถูกต้อง ชัดเจนว่า ปัญญานั้นจะต้องรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏซึ่งเป็นชีวิตจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนี้การระลึกได้เกิดขึ้นขณะใด ก็รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ พิจารณาสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่นึกเขวไปว่าอยากจะไปที่โน่นเพื่อจะได้สงบมากขึ้น เพราะเหตุว่าเพียงนึกอย่างนั้นก็เป็นนามชนิดหนึ่ง แล้วก็ดับไป
"อนิจจตา" ควรระลึกถึงอนิจจตาเนืองๆ เมื่อดับไปแล้ว อะไรกำลังปรากฏอีก ทำไมจะต้องรอ ทำไมจะต้องคอย เพราะเหตุว่า ขณะนี้ เป็นชีวิตจริงๆ ยังไม่ได้เป็นบรรพชิต ยังอยู่กับบ้าน กำลังมีนามชนิดนี้ปรากฏ กำลังมีรูปชนิดนั้นกำลังปรากฏไม่ต้องสนใจในอดีตที่ดับไป หรืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ว่าพิจารณา รู้ลักษณะ ของสิ่งที่กำลังปรากฏ
นี่เป็นการละความต้องการในผล ซึ่งทุกคนใจเร็วด่วนได้ ที่คิดว่าจะไปฮวบฮาบ ละความไม่รู้เยอะๆ ทีเดียว โดยที่ว่าแท้ที่จริงแล้ว ความไม่รู้สะสมพอกพูนไว้มากทีเดียว
เพราะฉะนั้น การที่จะละ การที่จะคลายมีทางเดียวเท่านั้น คือ การเจริญสติรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏจริงๆ จนกว่าจะหมดความไม่รู้ จนกว่าจะหมดความเห็นผิดนั้น วิธีนี้ไม่ฮวบฮาบ เป็นปัญญาจริงๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น แต่ไม่ใช่ห้ามว่าไม่ให้ไปไหน ทุกคนมีการไปอยู่ทุกๆ วันเป็นชีวิตจริงๆ แต่ละขณะที่มีเย็น ร้อน อ่อน แข็งเคร่ง ตึง ไหว มีเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส ทุกขณะเจริญสติปัฏฐานได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
[๕๓๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อัจจายิกกรณียะ (กิจที่ต้องรีบทำ) ของคฤหบดีชาวนา ๓ นี้ อัจจายิกกรณียะ ๓ คืออะไรบ้าง คือ
๐ คฤหบดีชาวนารีบๆ ไถคราดพื้นที่นาให้ดี
๐ ครั้นแล้วรีบๆ ปลูกพืช
๐ ครั้นแล้วรีบๆ ไขน้ำเข้าบ้าง ไขน้ำออกบ้าง
นี้แล อัจจายิกกรณียะ ของคฤหบดีชาวนา ๓ แต่ว่าคฤหบดีชาวนานั้น ไม่มีฤทธิ์หรืออานุภาพ ที่จะบันดาลให้ข้าวงอกในวันนี้ ตั้งท้องพรุ่งนี้ สุกมะรืนนี้ ที่ถูก ย่อมมีสมัยที่ข้าวนั้นเปลี่ยนสภาพไปตามฤดู ย่อมจะงอกบ้าง ตั้งท้องบ้าง สุกบ้าง
ฉันเดียวกันนั่นแล ภิกษุทั้งหลาย อัจจายิกกรณียะของภิกษุ ๓ นี้ คืออะไรบ้าง คือ
๐ การบำเพ็ญ อธิศีลสิกขา
๐ การบำเพ็ญ อธิจิตตสิกขา
๐ การบำเพ็ญ อธิปัญญาสิกขา
นี้แล อัจจายิกกรณียะของภิกษุ ๓ แต่ภิกษุนั้นไม่มีฤทธิ์หรืออานุภาพ ที่จะบันดาลให้จิตของตนเลิกยึดถือ หลุดพ้นจากอาสวะในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ได้ ที่ถูก ย่อมมีสมัย ที่เมื่อภิกษุนั้น
๐ ศึกษาอธิศีลไป
๐ ศึกษาอธิจิตไป
๐ ศึกษาอธิปัญญาไป
จิตย่อมจะเลิกยึดถือ หลุดพ้นจากอาสวะได้ เพราะเหตุนั้น ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกในข้อนี้ว่า ฉันทะของเราในการบำเพ็ญอธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขาและอธิปัญญาสิกขาต้องกล้าแข็ง ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
จบอัจจายิกสูตรที่ ๑
โลณผลวรรคที่ ๕
๑. อัจจายิกสูตร ว่าด้วยกิจรีบด่วนของชาวนาและภิกษุ
อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๔๗๔
คลิกเพื่ออ่าน --> ไม่มีทางจะเร่งรัดปัญญาได้เลย
ขออุทิศส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์
กำลังมีรูปชนิดนั้นกำลังปรากฏไม่ต้องสนใจในอดีตที่ดับไป หรืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ว่าพิจารณา รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ
อนุโมทนาค่ะ