แม่ที่ทำให้เกิดทุกภพชาติ คือ ตัณหา

 
kanchana.c
วันที่  24 พ.ค. 2552
หมายเลข  12459
อ่าน  933

ในการสนทนาธรรมวันอาทิตย์ที่ ๒๔ พ.ค. ๕๒ มีผู้ฟังหญิงท่านหนึ่งกล่าวยกย่องท่านอาจารย์ว่า ท่านอาจารย์เป็นแม่ทางธรรม ที่ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจพระธรรม เธอมีความซาบซึ้งประทับใจมาก เราฟังแล้วก็อดซาบซึ้งจนน้ำตาไหลไปด้วยไม่ได้ ท่านอาจารย์บอกว่า อย่าลืมแม่ที่ทำให้เกิดทุกภพชาติ คือ ตัณหา ซึ่งแม่คือตัณหานี้ควรฆ่า แล้วท่านถามพวกเราต่อว่า เคยโกรธคุณแม่ไหม ทุกคนตอบว่า เคย ท่านบอกว่า ท่านขอเป็นกัลยาณมิตร ผู้หวังดีต่อกันตลอดเวลาดีกว่า เพราะเป็นแม่ก็ยังโกรธกันได้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pannipa.v
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
choonj
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ผู้หญิงท่านนั้นได้เริ่มด้วยว่า มีแม่อยู่สามคน คนหนึ่งให้กำเนิด คนหนึ่งเลี้ยงดู ส่วนแม่ของเขาที่ไห้กำเนิดและเลี้ยงดูเป็นคนเดียวกัน และแม่คนที่สามคือ อ. ที่ให้ปัญญา พูดแล้วเขาก็ร้องไห้เพราะทราบซึ้งบุญคุณ อ.บอกว่าก็เป็นแม่มีลูกมาก ยังมีแม่คนที่ สี่ รู้แล้วจะฆ่าแม่ไหม แม่คนที่สี่คือ อวิชา อวิชาทำไห้ยังต้องเกิดอยู่ ก็ไม่ต้องแปลกใจมีหลายคนเรียก อ. ว่าแม่เช่น ท่านบุสวงส์ที่สอนธรรมอยู่กำพูชา อ.นิภัทร บอกว่าเป็นลูกคนโต ผมมี่แม่ที่ไห้กำเนิดคนหนึ่ง มีแม่ที่เลี้ยงดูคนหนึ่ง และเมื่อมาฟังธัมใหม่ๆ ก็มีความรู้สึกว่าเหมื่อนแม่สอนลูก ผู้ที่ไห้ปัญญาเป็นคุณอันยิ่งไหญ่ ปัญญาเท่านั้นที่สามารถอยู่ร่วมโลกกับเขาได้ไม่เดือดร้อน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
dron
วันที่ 25 พ.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
สุภาพร
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Komsan
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงนั้น มีความละเอียดลึ้งซึ้ง เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก สำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง ถึงแม้พระองค์จะใช้พยัญชนะที่เหมือนกัน แต่ความประสงค์มุ่งหมายนั้นต่างกัน อย่างเช่นคำว่า มารดา โดยทั่วไปแล้วคนส่วนมากจะไม่สงสัย เพราะหมายถึงแม่ผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูบุตรธิดา เป็นผู้มีพระคุณต่อบุตรธิดาเป็นอย่างยิ่ง และ มารดา อีกนัยหนึ่ง ทรงหมายถึง ตัณหา ที่ทำให้มีการเกิดในสังสารวัฏฏ์ จากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่งอย่างไม่มีวันจบสิ้น ตัณหา จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดอย่างแท้จริง ถ้าไม่มีกิเลส คือ โลภะ หรือ ตัณหาแล้ว ย่อมไม่มีการเกิดอีกอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่จะดับตัณหาได้อย่างเด็ดขาดไม่เกิดอีกเลยนั้น คือ พระอรหันต์ พระอรหันต์ เป็นผู้ฆ่ามารดา (คือตัณหา) ได้แล้ว เป็นผู้ไม่มีทุกข์ ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความในประเด็นนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

เรื่องพระลกุณฏกภัททิยเถระ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
paderm
วันที่ 25 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 25 พ.ค. 2552

อย่าลืมแม่ที่ทำให้เกิดทุกภพชาติ คือ ตัณหา ซึ่งแม่คือตัณหานี้ ควรฆ่า แล้วท่านถามพวกเราต่อว่า เคยโกรธคุณแม่ไหม ทุกคนตอบว่า เคยท่านบอกว่า ท่านขอเป็นกัลยาณมิตรผู้หวังดีต่อกันตลอดเวลาดีกว่า เพราะเป็นแม่ก็ยังโกรธกันได้

...กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ...

ขออนุโมทนาคุณ kanchana.c

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 25 พ.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
orawan.c
วันที่ 26 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ING
วันที่ 26 พ.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
wannee.s
วันที่ 26 พ.ค. 2552

ตราบใดที่ยังมีตัณหาและอวิชชาก็ยังต้องมีการเกิด สังสารวัฏฏ์ก็ยืดยาวไม่มีวันจบสิ้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
petcharath
วันที่ 26 พ.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
พุทธรักษา
วันที่ 26 พ.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.

[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฏก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค. หน้าที่ 97

กุฏิกาสูตร ว่าด้วยมารดาเหมือนกระท่อม..เป็นต้น.

เทวดากล่าวว่า กระท่อมของท่าน ไม่มีหรือรังของท่าน ไม่มีหรือ เครื่องสืบต่อของท่าน ไม่มีหรือท่าน เป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก หรือ.

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า แน่ละ กระท่อมของเรา ไม่มีแน่ละ รังของเรา ไม่มีแน่ละ เครื่องสืบต่อของเรา ไม่มีแน่ละ เราเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก.

เทวดากล่าวว่า ข้าพเจ้า กล่าวแก่ท่านว่า อะไร เป็นกระท่อมข้าพเจ้า กล่าวแก่ท่านว่า อะไร เป็นรังข้าพเจ้า กล่าวแก่ท่านว่า อะไร เป็นเครื่องสืบต่อ ข้าพเจ้า กล่าวแก่ท่านว่า อะไร เป็นเครื่องผูก

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ท่านกล่าว มารดา ว่า เป็นกระท่อม ท่านกล่าว ภรรยา ว่า เป็นรัง ท่านกล่าว บุตร ว่า เป็นเครื่องสืบต่อ ท่านกล่าว ตัณหาว่า เป็นเครื่องผูกแก่เรา.


(ขอขอบพระคุณ ท่าน...ผู้เอื้อเฟื้อรูปภาพค่ะ)

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
ประสาน
วันที่ 27 พ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
เมตตา
วันที่ 27 พ.ค. 2552

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านผู้เป็นยอดกัลยาณมิตร ท่านผู้ชี้หนทางถูกต้องคือ สัมมาทิฎฐิ

ขอบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมา ขอให้ได้พบยอดกัลยาณมิตรอย่างท่านทุกภพชาติเทอญ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
h_peijen
วันที่ 29 พ.ค. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
คุณ
วันที่ 5 มิ.ย. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
ING
วันที่ 2 ต.ค. 2552

กราบอนุโมทนากับทุกท่านค่ะ ยังไม่เคยเห็นท่านอาจารย์พูดคำใดแล้วไม่เป็นประโยชน์เลยค่ะ

สาธุ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ