ความจริงแห่งชีวิต [013] กัมมชรูป ๙

 
พุทธรักษา
วันที่  10 มิ.ย. 2552
หมายเลข  12630
อ่าน  1,524

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กัมม​ชรูป ๙ รูป​นี้ เป็น​อุ​ปา​ทาย​รูป ฉะนั้น จึง​ต้อง​เกิด​ร่วม​กับอ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ รูป ดังนี้ คือ

๑. จักขุทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​จักขุ​ปสาท​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + จักขุ​ปสาท​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

๒. โสตทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​โสต​ปสาท​รูปซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + โสต​ปสาท​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

๓. ฆานทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​ฆาน​ปสาท​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + ฆาน​ปสาท​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

๔. ชิวหาทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​ชิวหา​ปสาท​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + ชิวหา​ปสาท​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

๕. กายทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​กาย​ปสาท​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + กาย​ปสาท​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

๖. อิตถีภาวทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​อิตถี​ภาว​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + อิตถี​ภาว​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป
๗. ปุริสภาวทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​ปุ​ริ​สภาว​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + ปุ​ริ​สภาว​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

๘. หทยทสกกลาป (กลุ่ม​ของ​หทย​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๑๐ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + หทย​รูป + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

๙. ชีวิตนวกกลาป (กลุ่ม​ของ​ชีวิต​รูป​ซึ่ง​มี​รูป​รวม ๙ รูป) คือ อ​วิ​นิพ​โภค​รูป ๘ + ชี​วิ​ติ​นท​ริย​รูป

กัมม​ชก​ลาป​เหล่า​นี้​เกิด​พร้อม​กับ​อุ​ปาท​ขณะ​ของ​ปฏิสนธิ​จิต​ตาม​ควร​แก่​ภพ​ภู​มิ​นั้นๆ และ​เกิด​ทุก​อนุ​ขณะ​ของ​จิต​ทุก​ดวง คือ อุ​ปาท​ขณะ ฐิติ​ขณะ และ​ภังค​ขณะ​ของจิต​ดวง​หนึ่งๆ และ​จะ​หยุด​เกิด​ก่อน​จุติ​จิต ๑๖ ขณะ​จิต ฉะนั้น กัมม​ชรูป​ทั้งหมด​จึง​ดับ​พร้อม​กับ​จุติ​จิต

กัมม​ชรูป​ที่​เกิด​พร้อม​กับ​ปฏิสนธิ​จิต​ใน​ภูมิ​มนุษย์​ซึ่ง​เป็น​ชลาพุช​กำเนิด (เกิด​ใน​ครรภ์) มี ๓ กลาป คือ หทย​ท​สก​กลาป กาย​ท​สก​กลาป ภาว​ท​สก​กลาป เมื่อ​เจริญเติบโต​ขึ้น จักขุ​ท​สก​กลาป โสต​ท​สก​กลาป ฆาน​ท​สก​กลาป ชิวหาท​สก​กลาป ก็​เกิด​ตาม​ควร​แก่​กาล​ของ​กลาป​นั้นๆ

ผู้​ที่​ปฏิสนธิ​เป็น​โอป​ปา​ติก​กำเนิด (เกิด​เป็น​กาย​ที่​มี​อวัยวะ​ครบ​ทันที) เช่น เทวดา เปรต อสุรกาย และ​ผู้​ที่​เกิด​ใน​นรก มี​กัมม​ชรูป​ครบ​ทั้ง ๗ กลาป ​พร้อม​กัน​ทันที​ในขณะ​ที่​ปฏิสนธิ คือ หทย​ท​สก​กลาป กาย​ท​สก​กลาป ภาว​ท​สก​กลาป จักขุ​ท​สก​กลาป โสต​ท​สก​กลาป ฆาน​ท​สก​กลาป ชิ​วหา​ท​สก​กลาป แต่​ถ้า​กรรม​ประเภท​ใด​ไม่เป็น​ปัจจัย​ให้​รูป​ประเภท​ใด​เกิด ก็​เว้น​รูป​กลาปนั้นๆ ทั้ง​ใน​ปฏิสนธิ​กาล (ขณะ​ปฏิสนธิ​จิต​เกิด) และ​ใน​ป​วัต​ติ​กาล คือ ขณะ​หลัง​ปฏิสนธิ

ขอเรียนถามว่า

๑. ถ้ามีการสูญเสียรูป ๓ กลาปนี้ คือ หทยทสกกลาป ๑ กายทสกกลาป ๑ ภาวทสกกลาป ๑ จะเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ คือ ต้องตายถูกต้องไหมคะ

๒. ถ้าเป็นไปเช่นนั้น อะไรคือเหตุนั้นคะ

ผู้​ที่​ปฏิสนธิ​เป็น​พรหม​บุคคล​ใน​รูป​พรหม​ภูมิ​เป็น​โอป​ปา​ติก​กำเนิด มี​กัมม​ชรูป ๔ กลาป​เท่านั้น คือ หทย​ท​สก​กลาป จักขุ​ท​สก​กลาป โสตท​สกกลาป และ​ชีวิต​นวก​กลาป เว้น​ฆาน​ปสาท​รูป ชิวหา​ปสาท​รูป กายปสาท​รูป ภาว​รูป ซึ่ง​เป็น​ผล​ของ​การ​ระงับ​ความ​เพลิดเพลิน​ยินดี​ใน​กามอารมณ์​ด้วย​กำลัง​ของ​ฌาน​จิต​ที่​เป็น​ปัจจัย​ให้​เกิด​เป็น​รูป​พรหม​บุคคล

ขอเรียนถามว่า

เหตุใดผู้ที่ปฏิสนธิเป็นพรหมบุคคลในรูปพรหมภูมิ จึงมีจักขุทสกกลาป ๑ โสตทสกกลาป ๑ เพราะยังไม่เข้าใจค่ะ ว่ารูปสองกลาปนี้ไม่เป็นเหตุให้เกิดความยินดีพอใจในกามอารมณ์ได้อย่างไร

ผู้​ที่​เป็น​อสัญ​ญ​สัต​ตา​พรหม คือ พรหม​ที่​มี​แต่​รูป​ธรรม ไม่มี​นามธรรมเลย​นั้น มี​กัมม​ชก​ลาป ๑ กลาป คือ ชีวิต​นวก​กลาป การ​เกิด​เป็น​อสัญ​ญสัต​ตา​พรหม​นั้น เป็น​ผล​ของ​ปัญจม​ฌานที่คลาย​ความ​ยินดี​ใน​นามธรรม เพราะ​เห็น​โทษ​ของ​นามธรรม​ที่​เป็น​ไป​ตาม​กิเลส จึง​ปรารถนา​ที่จะไม่มี​นามธรรม เมื่อ​ปัญจม​ฌาน​กุศล​จิต​ไม่​เสื่อม ​และ​ปัญจม​ฌาน​กุศล​จิต​เกิด​ก่อน​จุติ​จิต ด้วย​ความ​หน่าย​ใน​นามธรรม​ จึง​เป็น​ปัจจัย​ให้​รูป​ปฏิสนธิ​ใน​อสัญ​ญ​สัต​ตา​พรหม​ภูมิ มีอายุ ๕๐๐ กัป​ป์ เมื่อ​ไม่มี​นามธรรม​เกิด​เลย จึง​ไม่มี​การ​เคลื่อน​ไหว​ใดๆ ทั้ง​สิ้น เมื่อ​จุติ (ก่อน​เป็น​อสัญ​ญ​สัต​ตา​พรหม) ด้วย​อิริยาบถ​ใด รูป​ปฏิสนธิ​ขอ​งอ​สัญญสัต​ตา​พรหม ก็​เป็นอิริยาบถ​นั้น​จนกว่ารูป​จะ​จุติ และ​กุศล​กรรม​หนึ่ง​จึง​เป็น​ปัจจัย​ให้​ปฏิสนธิ​จิต ​และ​กัมม​ชรูป​เกิด​ใน​กาม​สุคติ​ภูมิ วนเวียน​เป็น​กิเลส กรรม วิบาก​ต่อ​ไป ตราบ​ใด​ที่​ยัง​ไม่​ได้​ดับ​กิเลส​เป็น​สมุจ​เฉท


โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จัดพิมพ์เผยแพร่ โดย คณะกรรมการ ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ครบ ๗๕ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

ขอเชิญอ่านหรือดาวน์โหลดหนังสือ ...

ปรมัตถธรรมสังเขป

ขอเชิญอ่านตอนต่อไป ...

ความจริงแห่งชีวิต


ขอเรียนถามว่า

๑. เฉพาะกุศลกรรมเท่านั้นหรือ ที่เป็นปัจจัยทำให้อสัญญสัตตาพรหมปฏิสนธิ.?

๒. พระเสขบุคคลเกิดในอสัญญสัตตาพรหมได้หรือไม่จากการเจริญปัญจมฌานกุศลจิต และถ้าได้ ท่านจะสามามารถเจริญวิปัสสนาเพื่อการบรรลุอริยสัจจธรรมเป็นพระอริยบุคคลที่สูงขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร คะ

ขอความกรุณาแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณและอนุโมทนา ค่ะ.

... ขออนุโมทนา ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 11 มิ.ย. 2552

๑. เฉพาะกุศลธรรมขั้นปัญจมฌานที่เห็นโทษในนามธรรมเท่านั้น

๒. พระอริยบุคคลไม่มีในอสัญญสัตตาพรหมภูมิ เพราะไม่ใช่ทางและไม่มีนามธรรม การอบรมเจริญปัญญาจึงไม่มีครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Jarunee.A
วันที่ 9 เม.ย. 2567

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ