ความจริงแห่งชีวิต [37] จิต ไม่ได้สั่ง ให้รูปเกิด

 
พุทธรักษา
วันที่  30 มิ.ย. 2552
หมายเลข  12793
อ่าน  999

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปรมัตถธรรมมี ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ปรมัตถธรรมแต่ละอย่างเป็นปัจจัยให้ปรมัตถธรรมอื่นที่เป็นสังขตธรรมเกิดขึ้น คือ จิตเป็นปัจจัยให้เกิดเจตสิกและเป็นปัจจัยให้เกิดรูป (เว้นบางขณะ) เจตสิกเป็นปัจจัยให้เกิดจิต และเป็นปัจจัยให้เกิดรูป (เว้นบางขณะ) รูปเป็นปัจจัยให้เกิดรูป และเป็นปัจจัยให้เกิดจิตขณะที่รูปเป็นวัตถุ​ คือเป็นที่เกิดของจิต ​และขณะที่รูปเป็นอารมณ์ของจิต ตามควรแก่สภาพของปรมัตถธรรมนั้นโดยปัจจัยต่างๆ กัน เช่น สหชาตปัจจัย เป็นต้น

จิตและเจตสิกเป็นสหชาตปัจจัยให้รูปเกิดพร้อมกับจิตทันทีที่จิตเกิดขึ้นในอุปาทขณะ จิตทุกดวงมี ๓ อนุขณะ (ขณะย่อย) คืออุปาทขณะ (ขณะเกิดขึ้น) ฐีติขณะ (ขณะยังไม่ดับ) ภังคขณะ (ขณะดับ) จิตไม่ได้สั่งให้รูปเกิด จิตตชรูป คือ รูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัยนั้น เกิดพร้อมกับจิตทันทีที่จิตเกิดขึ้นในอุปาทขณะนั้นเอง แต่ทั้งนี้ต้องเว้นปฏิสนธิจิต เพราะในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นนั้นมีแต่กัมมชรูป คือรูปที่เกิดเพราะกรรมเกิดร่วมด้วย ไม่มีจิตตชรูป เมื่อปฏิสนธิจิตดับไปแล้ว จิตจึงเป็นปัจจัยให้รูปเกิดขึ้นพร้อมกับจิต ตั้งแต่ปฐมภวังค์ คือภวังค์ดวงแรกเป็นต้นไป เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ (ปัญจวิญญาณ ๕ x ๒) คือ จิตเห็น ๒ ดวง จิตได้ยิน ๒ ดวง จิตได้กลิ่น ๒ ดวง จิตลิ้มรส ๒ ดวง จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย ๒ ดวง และจุติจิตของพระอรหันต์ นอกจากนั้นแล้ว ​ทุกขณะที่จิตเกิดขึ้นในภูมิที่มีขันธ์ ๕ มีจิตตชรูปเกิดพร้อมกับอุปาทขณะของจิตทุกครั้ง


โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จัดพิมพ์เผยแพร่ โดย คณะกรรมการ ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ครบ ๗๕ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

ขอเชิญอ่านหรือดาวน์โหลดหนังสือ ...

ปรมัตถธรรมสังเขป

ขอเชิญอ่านตอนต่อไป ...

ความจริงแห่งชีวิต

... ขออนุโมทนา ...


ขอขอบพระคุณ ท่าน ผู้เอื้อเฟื้อรูปภาพ ค่ะ.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปริศนา
วันที่ 30 มิ.ย. 2552

จากข้อความนี้

รูปเป็นปัจจัยให้เกิดจิต ในขณะที่รูปเป็นวัตถุ คือเป็นที่เกิดของจิต และในขณะที่รูปเป็นอารมณ์ของจิต

ขอความกรุณา ยกตัวอย่างในชีวิตประจำวัน ว่า รูป เป็นปัจจัยให้เกิดจิต ในขณะที่รูปเป็น อารมณ์ของจิต เช่นกรณีไหนบ้างคะ (ยังไม่เข้าใจน่ะค่ะ)

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
prachern.s
วันที่ 1 ก.ค. 2552

ตามหลักพระธรรมแสดงว่า จิต เจตสิก จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีอารมณ์ ทุกครั้งที่จิตเกิดขึ้นต้องรู้อารมณ์ เช่น ทางตา ถ้าไม่มีรูปารมณ์เป็นปัจจัย จิตเห็นและวิถีจิตทางทวารตาเกิดขึ้นไม่ได้ ทางหู ถ้าไม่มีเสียงปรากฏ วิถีจิตทางหูก็เกิดขึ้นไม่ได้ ทางอื่นๆ ก็เช่นกัน ถ้าไม่มีรูปมากระทบ วิถีจิตทางทวารนั้นๆ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ นี้ชื่อว่า รูปเป็นปัจจัยให้จิตเกิดขึ้นโดยอารัมมณปัจจัย

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 1 ก.ค. 2552

ขอบพระคุณค่ะ ...

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 1 ก.ค. 2552

ขออนุญาตเรียนถามว่า

จิตตามวิถีของจิต เว้นทวิปัญจวิญญาณจิตนั้น มีรูปเกิดขึ้นพร้อมกันด้วย รูปที่ว่านั้นเป็นรูปอะไรครับ

ตัวอย่างเช่น วิถีจิตทางจักขุทวาร เมื่อจักขุทวาราวัชชนจิตเกิดขึ้น จะมีรูปอะไรครับ เมื่อเว้นจักขุวิญญาณจิต สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ โผฏฐัพพนะ ชวนะ ตทาลัมพนะ เกิดขึ้นมีรูปอะไรเกิดบ้างครับ

ส่วนวิถีจิตทางมโนทวาร จะมีรูปที่มีลักษณะแตกต่างออกไปหรือไม่ครับ

ขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prachern.s
วันที่ 1 ก.ค. 2552

เรียน ความเห็นที่ 4 ครับ

รูปที่ว่านั้นหมายถึง จิตตชรูป เช่น มหาภูตรูป สี กลิ่น รส โอชา เป็นต้น ในขณะ สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ โวฏฐัพพนะ ชวนะ ตทาลัมพนะ เป็นปัจจัยให้จิตตชรูปเกิดได้ วิถีจิตทางมโนทวารก็เป็นปัจจัยให้จิตตชรูปเกิดได้เช่นเดียวกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jarunee.A
วันที่ 15 เม.ย. 2567

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ