ความจริงแห่งชีวิต [98] กัมมปัจจัย ทำให้เกิด ผล (วิบากจิต และ เจตสิก)

 
พุทธรักษา
วันที่  19 ส.ค. 2552
หมายเลข  13258
อ่าน  1,096

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อรรถ​ของ​จิต​ประการ​ที่ ๓ ที่ว่า ชื่อว่าจิต เพราะเป็นธรรมชาติอันกรรมกิเลสสั่งสมวิบาก

กิเลส​เป็น​สภาพ​ธรรม​ที่​ไม่​บริสุทธิ์ เศร้า​หมอง "เศร้า​หมอง" คือ ไม่​ผ่องแผ้ว ไม่​บริสุทธิ์ เช่น ขณะที่เกิดความยินดี ความติดข้องต้องการ ขณะที่กำลังอยากได้สิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นสบายใจหรือไม่สบายใจ ถ้า​ไม่อยากได้ ไม่เกิดโลภะ จะสบายใจกว่า​นั้น เพราะไม่ต้องหลงยึดติด ไม่ต้องติดข้อง ไม่ต้องคิดอยากได้ แต่ขณะที่กำลังติดข้องอยากได้นั้น อวิชชาไม่สามารถจะเห็นได้ว่า ขณะนั้นเป็นสภาพธรรมที่เศร้า​หมอง ไม่บริสุทธิ์ ไม่สบายใจ เดือดร้อนแล้วเพราะความติดข้องต้องการ ไม่ว่า​จะเกิดความพอใจสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขณะนั้นก็เป็นความติดข้อง เป็นความเศร้า​หมอง เป็นความเดือดร้อน เป็นอกุศลธรรม และบางทีบางท่านก็เข้าใจว่า​เป็นศรัทธา ซึ่งถ้า​สติปัฏฐานไม่เกิด ปัญญา​ไม่พิจารณา จะไม่รู้ว่า​ขณะนั้นเป็นโลภะซึ่งเป็นอกุศล หรือว่า​เป็นศรัทธา​ซึ่งเป็นกุศล

ในชีวิตประจำวันของบรรพชิตและคฤหัสถ์ ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่จะพ้นไปจากโลภะไม่ได้เลย ขณะใดที่พอใจสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เป็นโลภะสำหรับคฤหัสถ์ฉันใด บรรพชิตผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ก็ฉันนั้น

กิเลสที่เกิดขึ้นแต่ละขณะนั้น เมื่อขณะใดมีกำลังแรงกล้า​ก็เป็นอกุศลกรรมทางกายบ้าง ทางวาจา​บ้าง ถ้า​ไม่มีกิเลส อกุศลกรรมทางกายทางวาจา​ก็เกิดขึ้นไม่ได้เลย และเมื่อได้กระทำกรรมไปแล้ว แม้ว่า​จิตและเจตสิกซึ่งเกิดร่วมกันกระทำกรรมนั้นๆ สำเร็จไปแล้ว ดับไปแล้วก็ตาม แต่การสะสมของกรรมที่สืบต่ออยู่ในจิตทุกๆ ขณะที่เกิดดับสืบต่อกันไปเรื่อยๆ นั้นก็เป็น กัมม​ปัจจัย คือ เป็น​สภาพ​ธรรม​ที่​ทำให้​ผล คือ​วิบาก​จิต​และ​เจตสิก​เกิด​ขึ้น ฉะนั้น จึง​ต้อง​รู้​ว่าขณะ​ใด​เป็น​กิเลส ขณะ​ใด​เป็น​กรรม ขณะ​ใด​เป็น​วิบาก จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้โผฏฐัพพะเป็นวิบากจิต เป็นผลของกรรม ทุกคนอยากจะเห็นแต่สิ่งที่น่า​พอใจ แม้เห็นแล้วเท่า​ไรๆ ก็ไม่พอ แต่แม้ว่า​จะมีจักขุปสาทซึ่งเกิดเพราะกรรมเป็นปัจจัย แต่อารมณ์ที่กระทบกับจักขุปสาท และปรากฏแก่จักขุวิญญาณนั้น ย่อมแล้วแต่กัมมปัจจัย เมื่อกุศลกรรมเป็นปัจจัยก็ทำให้จักขุวิญญาณกุศลวิบากเกิดขึ้นเห็นสิ่งที่น่า​พอใจ ขณะใดที่ได้ยินเสียงที่น่า​พอใจก็เป็นผลของกุศลกรรม ขณะใดที่ได้ยินเสียงที่ไม่น่า​พอใจก็เป็นผลของอกุศลกรรม ขณะนี้และขณะต่อไปจะเป็นกุศลวิบากหรืออกุศลวิบาก ก็ย่อมแล้วแต่ว่า​กุศลกรรมหรืออกุศลกรรมจะเป็นปัจจัยให้วิบา​กนั้นๆ เกิดขึ้นทางทวารใด


โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จัดพิมพ์เผยแพร่ โดย คณะกรรมการ ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ครบ ๗๕ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

ขอเชิญอ่านหรือดาวน์โหลดหนังสือ ...

ปรมัตถธรรมสังเขป

ขอเชิญอ่านตอนต่อไป ...

ความจริงแห่งชีวิต

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่ และสรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Jarunee.A
วันที่ 25 พ.ค. 2567

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ