คนเราตายแล้วไปไหน ได้รับคำตอบมากมาย
ในวงสนทนาธรรม มีคำถามว่า "คนเราตายแล้วไปที่ไหน" ได้รับคำตอบมากมาย ยังไม่ตกผลึก ใคร่ขอความกระจ่างจากท่านผู้รู้ด้วยครับ
อนุโมทนา สาธุ
ในสมัยครั้งพุทธกาลมีผู้ที่เห็นผิดว่ามีคนมีสัตว์จริงๆ เขาไปทูลถามพระพุทธเจ้าว่าสัตว์ตายแล้วไปไหน พระพุทธองค์ไม่ทรงพยากรณ์ เพราะโดยปรมัตถ์สัตว์ไม่มี ดังนั้นถ้าเห็นผิดว่ามีคนมีสัตว์ เชื่อว่าคนนี้ตายแล้วคนนี้คนเดิมไปเกิดใหม่ เป็นความเห็นผิด (สัตสตทิฏฐิ) หรือถ้าเชื่อว่าคนตายแล้วไม่เกิดอีกก็เป็นความเห็นผิดอีกเช่นกัน คือเห็นว่าขาดสูญ (อุทเฉททิฏฐิ) ...
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่
มีหลายคนอยากรู้ว่าตายแล้วไปไหนล้วไปไหน
ตายจากโลกนี้แล้วจิตวิญญาณไปสู่ ณ ที่ใดแล้วไปไหน
อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ
แม้นี้ก็เป็นรัตนะอันประณีตคือพระพุทธเจ้า ด้วยคำสัตย์นี้
ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์ทั้งหลาย
ผู้ที่ตอบว่ายังมีสัตว์เกิดโดยไม่เข้าใจในสภาพธรรมที่มีจริง เป็น จิต เจตสิก รูปก็เป็นความเห็นผิดว่าเที่ยง มีสัตว์ บุคคลเกิดจริงๆ ผู้ที่ตอบว่าตายแล้วไม่เกิดอีก แต่ไม่เข้าใจความจริงว่ามีแต่สภาพธรรม.....ทุกอย่างอาศัยเหตุปัจจัย ก็เป็นความเห็นผิดว่าขาดสูญ ตายแล้วไม่เกิดอีกเลย ไม่ว่าใคร
ถ้าจะตอบให้ถูกคือ ตายแล้วไปไหนคือหากมีเหตุปัจจัยคือกิเลสอยู่ ก็ยังมีการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก รูป หากไม่มีเหตุปัจจัยให้เกิดคือไม่มีกิเลสแล้ว จิต เจตสิก รูปก็ไม่เกิดขึ้นอีก
สาธุ
อิทมฺปิ พุทเธ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถฺ โหตุ โดยประการแม้นี้ พระพุทธเจ้าเป็นรัตนะอันประณีตคือประเสริฐสุด ด้วยคำสัตย์นี้ขอความสวัสดีจงมี
สัตว์บางพวกผู้มีกรรมอันลามก ย่อมไปเกิดในอบายภูมิ ผู้มีกรรมดี ย่อมไปเกิดในสุคติภูมิ ส่วนผู้ที่ดับกิเลสหมดเป็นสมุจเฉท ย่อมปรินิพพาน ไม่มีการเกิดอีกค่ะ
ท่านอาจารย์สุจินต์ กล่าวอยู่เสมอว่า เมื่อจิตจุติแล้วจิตปฏิสนธิทันทีไม่มีระหว่างคั่น อะไรคือเหตุและผล แต่สำหรับตัวเองเชื่ออย่างหนึ่งว่า คนเราตายแล้วเกิดใหม่แน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่า ตายแล้วไปไหนเท่านั้น และไม่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น เพราะปัญญายังน้อยอยู่มากๆ ผลที่ได้จากการฟังธรรมจากท่านอาจารย์มีคุณมหาศาล อย่างน้อยที่สุด ก็เลี่ยงที่จะทำอกุศล เพราะอกุศลก็ไม่หนีไปไหนหรอก อกุศลนั้น ก็กลับมาหาเราอยู่ดี
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)