อักขณสูตร และ สังเวชนียสูตร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  19 ต.ค. 2552
หมายเลข  14003
อ่าน  2,833

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

••• ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย •••

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ ๒๔ ต.ค. ๒๕๕๒

เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.

อักขณสูตร

จาก ... [เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต เล่มที่ ๓๗ หน้า ๔๕๑

... นำสนทนาโดย ...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และคณะวิทยากร

นิคมคาถา

อักขณสูตร

(ว่าด้วยกาลที่ไม่ใช่ขณะจะอยู่ประพฤติพรหมจรรย์)

จาก ... [เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต เล่มที่ ๓๗ หน้า ๔๕๑

ชนเหล่าใด เกิดในมนุษยโลกแล้ว เมื่อพระตถาคตทรงประกาศสัทธรรม ไม่เข้าถึงขณะ ชนเหล่านั้น ชื่อว่าล่วงขณะ ชนเป็นอันมาก กล่าวเวลาที่เสียไปว่า กระทำอันตรายแก่ตน, พระตถาคตเจ้า เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ในกาลบางครั้งบางคราว การที่พระตถาคตเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ๑ การได้กำเนิดเป็นมนุษย์ ๑ การแสดงสัทธรรม ๑ ที่จะพร้อมกันเข้าได้ หาได้ยากในโลก ชนผู้ใคร่ประโยชน์ จึงควรพยายามในกาลดังกล่าวมานั้น ที่ตนพอจะรู้ จะเข้าใจสัทธรรมได้ ขณะอย่าล่วงเลยท่านทั้งหลายไปเสีย เพราะบุคคลที่ปล่อยเวลาให้ล่วงไป พากันยัดเยียดในนรก ก็ย่อมเศร้าโศกหากเขาจะไม่สำเร็จอริยมรรค อันเป็นธรรมตรงต่อสัทธรรมในโลกนี้ได้ เขาผู้มีประโยชน์อันล่วงเสียแล้ว จักเดือดร้อนสิ้นกาลนาน เหมือนพ่อค้าผู้ปล่อยให้ประโยชน์ล่วงไป เดือดร้อนอยู่ ฉะนั้น

คนผู้ถูกอวิชชาหุ้มห่อไว้ พรากจากสัทธรรม จักเสวยแต่สังสาระคือ ชาติและมรณะสิ้นกาลนาน ส่วนชนเหล่าใดได้อัตภาพเป็นมนุษย์แล้ว เมื่อพระตถาคตประกาศสัทธรรม ได้กระทำแล้ว จักกระทำ หรือกระทำอยู่ ตามพระดำรัสของพระศาสดา ชนเหล่านั้นชื่อว่าได้ประสบขณะ คือ การประพฤติพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยมในโลก ชนเหล่าใดดำเนินไปตามมรรคา (หนทาง) ที่พระตถาคตเจ้าทรงประกาศแล้ว สำรวมในศีลสังวรที่พระตถาคตเจ้า ผู้มีจักษุเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ทรงแสดงแล้ว คุ้มครองอินทรีย์ มีสติทุกเมื่อ ไม่ชุ่มด้วยกิเลส ตัดอนุสัยทั้งปวงอันแล่นไปตามกระแสบ่วงมาร ชนเหล่านั้นแล บรรลุความสิ้นอาสวะ ถึงฝั่งคือ นิพพานในโลกแล้ว

จบ อักขณสูตร

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ หน้า ๓๑๕

๘. สังเวชนียสูตร

(ว่าด้วยสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง)

[๑๑๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวช แห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธา ๔ แห่งนี้ ๔ แห่งเป็นไฉน คือ สถานที่ควรเห็นควรให้เกิดความสังเวชแห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธาว่า พระตถาคตประสูติ ณ ที่นี้ ๑ พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ที่นี้ ๑ พระตถาคตทรง ประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยม ณ ที่นี้ ๑ พระตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ณ ที่นี้ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สถานที่ควรเห็น ควรให้เกิด ความสังเวช แห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธา ๔ แห่งนี้แล

จบสังเวชนียสูตรที่ ๘

อรรถกถาสังเวชนียสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในสังเวชนียสูตรที่ ๘ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า ทสฺสนียานิ แปลว่า ที่ควรเห็น.

บทว่า สํเวชนียานิ ได้แก่ สถานที่ให้เกิดความสังเวช.

จบอรรถกถาสังเวชนียสูตรที่ ๘


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 19 ต.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนจะถึงนิคมคาถาแห่งอักขณสูตร (โดยสรุป)

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงกาลมิใช่ขณะจะอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ แก่ภิกษุทั้งหลาย รวม ๘ ประการ ดังนี้ คือ

๑. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม แต่บุคคลผู้นี้เกิดเป็นสัตว์นรก

๒. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม แต่บุคคลผู้นี้เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน

๓. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม แต่บุคคลผู้นี้เกิดเป็นเปรต

๔. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม แต่บุคคลผู้นี้ เกิดในหมู่เทพที่มีอายุยืนนาน (อสัญญีสัตว์)

๕. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม แต่บุคคลผู้นี้ เกิดในปัจจันตชนบท โง่เขลา และอยู่ในที่อันไม่มีบริษัท ๔

๖. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม บุคคลผู้นี้ ถึงจะเกิดในมัชฌิมชนบท แต่เป็นคนมีความเห็นผิด

๗. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม บุคคลผู้นี้ถึงจะเกิดในมัชฌิมชนบท แต่ไม่มีปัญญา เป็นคนโง่เขลา

๘. บุคคลผู้นี้ เกิดในมัชฌิมชนบท มีปัญญา เป็นคนไม่โง่เขลา แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก และ ไม่ได้ทรงแสดงพระสัทธรรม และทรงแสดงต่อไปว่า ขณะที่สมควรอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ มีประการเดียวคือ พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก และทรงแสดงพระสัทธรรม พร้อมกันนั้น บุคคลผู้นี้ได้เกิดในมัชฌิมชนบท เป็นผู้มีปัญญา ไม่โง่เขลา สามารถรู้เนื้อความแห่งคำสุภาษิตและทุพภาษิตได้ ต่อจากนั้น พระองค์จึงได้ตรัสนิคมคาถา (คาถาซึ่งเป็นบทสรุปรวมความทั้งหมด) ดังที่ปรากฏแล้วนั่นแล.

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากพระสูตรโดยตรงได้ที่นี่ครับ

อักขณสูตร

ข้อความโดยสรุป สังเวชนียสูตร

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง คือ สถานที่ประสูติ สถานที่ทรงตรัสรู้ สถานที่ทรงประกาศพระธรรมจักร และ สถานที่ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานว่าเป็นสถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวช สำหรับกุลบุตรผู้มีศรัทธา

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ครับ

การบูชาสังเวชนียสถานทั้ง 4 ทำให้ไม่ไปอบายทั้ง 4 จริงหรือ?

ขึ้นสวรรค์แน่ถ้าไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง4

อานิสงส์การ นมัสการสังเวชนียสถาน

ฯลฯ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
opanayigo
วันที่ 19 ต.ค. 2552

อนุโมทนาค่ะ

ในข้อความอธิบายเพื่อเกิดความเข้าใจ อันเป็นประโยชน์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornpaon
วันที่ 21 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
noynoi
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
คนบ้านนอก
วันที่ 23 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาในพระธรรมและผู้แสดงธรรม ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
hadezz
วันที่ 2 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ม.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ