สนทนาธรรมที่สระบุรี...[๑] ความเมตตาจากท่านอาจารย์
ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กลุ่มสนทนาธรรมทอแสง จากลพบุรีได้กราบเรียนเชิญท่าน
อาจาย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ไปสนทนาธรรมที่โรงแรมศุภาลัย ป่าสัก รีสอรท์ สระบุรี เป็นเวลา ๒ คืน ๓ วัน คุณคำปั่นกล่าวว่า ท่านอาจารย์ดวงเดือน มีความห่วงใยท่านอาจารย์สุจินต์มาก เพราะท่านอายุ ๘๓ แล้ว มีความปรารถนาให้ท่านได้พักผ่อนบ้าง ยิ่งระยะหลังมีท่านที่อยู่กรุงเทพบ้าง อยู่ต่างจังหวัดบ้าง มาเรียนเชิญท่านไปสนทนาธรรม ท่านอาจารย์มีเมตตาเสมอที่จะไปสนทนาธรรมโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้ทุกท่านได้มีความเห็นถูกเข้าใจถูกในความจริงที่มีอยู่จริง ซึ่งก็คือธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้เป็นสัทธรรมเป็นความจริง เมื่อคุณคำปั่นได้เรียนให้ท่านอาจารย์ทราบถึงความห่วงใยของท่านอาจารย์ดวงเดือน ท่านอาจารย์ได้กล่าวตอบว่า
"ชีวิตจะมีโอกาสได้ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นอีกนานเท่าไหร่" ด้วยความสำนึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์สุจินต์ สิ่งที่จะตอบแทนท่านได้ ก็คือ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์
"ชีวิตจะมีโอกาสได้ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นอีกนานเท่าไหร่" ด้วยความสำนึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์สุจินต์ สิ่งที่จะตอบแทนท่านได้ ก็คือ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์
สิ่งที่จะตอบแทนท่านได้ ก็คือ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ
ขออนุโมทนา
ได้มีโอกาสไปร่วมฟังพระธรรมในครั้งนี้เพียงวันเดียว เป็นลาภอันประเสริฐ ตามที่ อ.คำปั่นได้กล่าวจริงๆ ยิ่งทราบความที่ท่านอาจารย์กล่าวยิ่งสำนึกในพระคุณของท่าน มากขึ้นอีก
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
เรียน พี่เรณูค่ะ
ในห้องสนทนาธรรม เมื่อคุณคำปั่น กล่าวในสิ่งที่ท่านอาจารย์ ได้กล่าว ... หลายท่านถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ น้ำตาคลอ เมตตาเองก็น้ำตาคลอ น้ำตาแห่งความสำนึกถึงพระคุณของท่าน ความมีเมตตา ความอดทน อดทนที่จะเกื้อกูล ประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นให้ได้เข้าใจพระธรรม ให้เกิดความเห็นถูกเข้าใจถูกในพระธรรม โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การตอบแทนพระคุณของพระพุทธเจ้า ท่านอาจารย์และผู้ให้ความรู้นั่นคือการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจและที่สำคัญที่สุดคือการน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมที่ได้ศึกษา อันเป็นไปเพื่อละขัดเกลากิเลส ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกๆ ประการ ศึกษาเพื่อเข้าใจความจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา จึงจะชื่อว่าเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์จากพระธรรมและเป็นการตอบแทนพระคุณอันสูงสุดคือการน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ชื่อว่าเป็นผู้กตัญญู ครับ
พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา-บุคคลบัญญัติ เล่ม ๓ - หน้าที่ 269
ผู้แสดงธรรม ชื่อว่า บุพพการี ผู้ปฏิบัติธรรมชื่อว่า กตัญญูกตเวที พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อว่า บุพพการีในโลกนี้ พร้อมทั้ง เทวโลก พระอริยสาวก ชื่อว่า กตัญญูกตเวที
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ
ผู้ที่มีความรักในพระพุทธเจ้าควรทำอย่างไร [เรื่องพระติสสะ]
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
"ชีวิตจะมีโอกาสได้ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นอีกนานเท่าไหร่"
ซาบซึ้งจริงๆ ค่ะ ท่านอาจารย์ของเรา .. ยอดเยี่ยมจริงๆ
ภาพท่านอาจารย์ ณ ศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ทแอนด์สปา เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๒ วันนั้น คุณคำปั่น พูดนำการสนทนาได้ดีมากๆ ครับ โดยเฉพาะตอนท้าย ที่พูดถึงคำกล่าวของท่านอาจารย์นั้น ไพเราะอย่างยิ่ง ยอมรับว่า น้ำตาซึมด้วยความปีติเช่นกัน ครับ
กราบท่านอาจารย์ และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านในวันนั้น และในวันนี้ด้วย ครับ
ดูก่อนคฤหบดีบุตรอาจารย์ผู้เป็นทิศเบื้องขวาอันศิษย์บำรุงด้วยสถาน ๕ คือ
ด้วยลุกขึ้นยืนรับ ๑
ด้วยเข้าไปยืนคอยต้อนรับ ๑
ด้วยการเชื่อฟัง ๑
ด้วยการปรนนิบัติ ๑
ด้วยการเรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ ๑
ขอขอบคุณพี่เมตตามากที่เขียนถึงเรื่องนี้ค่ะ
นุ่นรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตากรุณาของท่านอาจารย์สุจินต์ อ.คำปั่น คุณลุงนิภัท อ.ธิดารัตน์ อ.อรรณพ รวมถึงพี่ๆ ทุกคน ทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่ และพี่ๆ ที่เป็นกัลยาณมิตรจากทางกรุงเทพฯ (โดยเฉพาะพี่เมตตา และพี่จิ๋ม) ที่มีความปรารถนาดี ให้คำแนะนำ อธิบาย ขยายความเพื่อให้ชาวลพบุรีมีความเข้าใจในธรรมะที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น นุ่นรู้สึก ว่าเวลา 3 วัน 2 คืนนี้ช่างสั้นเหลือเกิน คงเพราะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุขจาก การได้ฟังพระธรรมที่แท้จริง ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เข้าใจในสิ่งที่เคยไม่เข้าใจหรือเข้าใจ ไม่ถูก อยากต่อเวลาแห่งความสุขที่ได้เข้าใจพระธรรมนี้ออกไปอีกนานๆ
สุดท้าย ขอกราบขอบพระคุณพี่แดง กาญจนา และพี่สงบ เชื้อทอง ที่เมตตากรุณาต่อนุ่น และพวกเราชาวลพบุรีทุกคน จะไม่มีวันลืมพระคุณของพี่ทั้งสองที่ทำให้มีการ สนทนาธรรมในครั้งนี้ขึ้นเลยค่ะ นอกจากความซาบซึ้งใจที่มิอาจจะบรรยายได้ในความ เมตตากรุณาของท่านอาจารย์ คณะวิทยากร และพี่ๆ กัลยาณมิตรทุกท่านแล้ว นุ่นขอ ตอบแทนพระคุณของทุกท่านด้วยการตั้งใจฟังพระธรรมทุกวันค่ะ
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์์ มา ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ในชีวิตประจำวัน ปฎิบัติบูชา ด้วย กาย วาจา ใจ ซักฟอกจิตให้ค่อยๆ สกปรกน้อยลง
อนุโมทนาค่ะ
ดิฉัน อ่านแล้วก็น้ำตาไหลเช่นกันค่ะ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างเหลือล้นค่ะ
ขอบคุณน้องนุ่นค่ะที่ให้โอกาสพี่และพี่สงบได้เจริญกุศล แต่ความจริงคนที่จัดการที่ มูลนิธิฯ คือ พี่เดือนฉายและน้องกุสุมา (จู) พี่สาวน้องเมตตาค่ะ พี่และพี่สงบเป็นแค่ผู้ ประสานงานระหว่างมูลนิธิ น้องนุ่น และที่ศุภาลัยค่ะ
ต้องกราบอนุโมทนาพี่กาญจนาและพี่สงบอย่างสูงค่ะที่เป็นหัวเรือใหญ่ มิเช่นนั้น การสนทนาธรรมซึ่งเป็นหนึ่งในมงคล ๓๘ ก็คงจะมีขึ้นไม่ได้ ขออนุโมทนาในกุศลจิตพี่เดือนฉายและพี่กุสุมาที่คอยช่วยเหลือ จัดการประสานงานทางมูลนิธิค่ะ
ขอกราบท่านอาจารย์สุจินต์ ด้วยความเคารพขอให้ท่านอาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงค่ะ
ขอกราบอนุโมทนาค่ะ
"ชีวิตจะมีโอกาสได้ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นอีกนานเท่าไหร่" ด้วยความสำนึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์สุจินต์ สิ่งที่จะตอบแทนท่านได้ ก็คือ ฟังพระธรรมให้เข้าใจขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์
กราบอนุโมทนาค่ะ