อักโกสกสูตร .. พระพุทธเจ้าไม่รับคำด่าของพราหมณ์

 
บ้านธัมมะ
วันที่  16 ก.พ. 2553
หมายเลข  15506
อ่าน  14,473

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ

ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ

สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

••• ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย •••

สนทนาธรรมที่ ...

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่โรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง วันเสาร์ ๒๐ ก.พ. ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.

... นำสนทนาโดย ...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๒๐๑

๒. อักโกสกสูตร

ว่าด้วยพระพุทธเจ้าไม่รับคำด่าของพราหมณ์

[๖๓๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในพระวิหารเวฬุวันอันเป็นที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต กรุงราชคฤห์. อักโกสกภารทวาชพรหมณ์ได้สดับมาว่า ได้ยินว่า พราหมณภารทวาชโคตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในสำนักของพระสมณโคดมแล้ว ดังนี้ก็โกรธ ขัดใจ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ด่าบริภาษพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยวาจาอันหยาบคาย มิใช่ของสัตบุรุษ.

[๖๓๒] เมื่ออักโกสกภารทวาชพราหมณ์กล่าวอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะอักโกสกภารทวาชพราหมณ์ว่า ดูก่อนพราหมณ์ ท่านย่อมสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน มิตรและอำมาตย์ ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกของท่าน ย่อมมาบ้างไหม. อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ตอบว่า พระโคดมผู้เจริญ มิตรและอำมาตย์ ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกของข้าพระองค์ย่อมมาเป็นบางคราว.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ ท่านย่อมสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านจัดของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มต้อนรับมิตรและอำมาตย์ ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกเหล่านั้นบ้างหรือไม่.

อ. พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์จัดของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มต้อนรับมิตรและอำมาตย์ ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกเหล่านั้นบ้างในบางคราว.

พ. ดูก่อนพราหมณ์ ก็ถ้าว่ามิตรและอำมาตย์ ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกเหล่านั้นไม่รับ ของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มนั้นจะเป็นของใคร.

อ. พระโคดมผู้เจริญ ถ้าว่ามิตรและอำมาตย์ ญาติสาโลหิต ผู้เป็นแขกเหล่านั้นไม่รับของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มนั้น ก็เป็นของข้าพระองค์อย่างเดิม.

พ. ดูก่อนพราหมณ์ ข้อนี้ก็อย่างเดียวกัน ท่านด่าเราผู้ไม่ด่าอยู่ ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธอยู่ ท่านหมายมั่นเราผู้ไม่หมายมั่นอยู่ เราไม่รับเรื่องมีการด่าเป็นต้นของท่านนั้น ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นก็เป็นของท่านผู้เดียว ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นก็เป็นของท่านผู้เดียว แล้วตรัสต่อไปว่า ดูก่อนพราหมณ์ ผู้ใดด่าตอบบุคคลผู้ด่าอยู่ โกรธตอบบุคคลผู้โกรธอยู่ หมายมั่นตอบบุคคลผู้หมายมั่นอยู่ ดูก่อนพราหมณ์ ผู้นี้เรากล่าวว่าย่อมบริโภคด้วยกัน ย่อมการทำตอบกัน เรานั้นไม่บริโภคร่วม ไม่กระทำตอบด้วยท่านเป็นอันขาด ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นเป็นของท่านผู้เดียว ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้นเป็นของท่านผู้เดียว.

อ. บริษัทพร้อมด้วยพระราชา ย่อมทราบพระโคดมผู้เจริญ อย่างนี้ว่าพระสมณโคดมเป็นพระอรหันต์ ก็เมื่อเป็นเช่นนั้น ไฉนพระโคดมผู้เจริญจึงยังโกรธอยู่เล่า.

[๖๓๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ผู้ไม่โกรธ ฝึกฝนตนแล้ว มีความเป็นอยู่สม่ำเสมอ หลุดพ้นแล้ว เพราะรู้ชอบ สงบ คงที่อยู่ ความโกรธจักมีมาแต่ที่ไหน ผู้ใดโกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ลามกกว่าบุคคลนั้นแหละ เพราะการโกรธตอบนั้น บุคคลไม่โกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ชื่อว่า ย่อมชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธ แล้วเป็นผู้มีสติสงบเสียได้ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ แก่ตนและแก่บุคคลอื่น เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์อยู่ทั้งสองฝ่าย คือ ของตนและของบุคคลอื่น ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรมย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่า เป็นคนเขลา ดังนี้

[๖๓๔] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเจ้าอย่างนี้แล้ว อักโกสกภารทาวชพราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระโคดมผู้เจริญทรงประกาศพระธรรมโดยปริยายเป็นอันมากเปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำเปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยคิดว่า คนมีจักษุย่อมเห็นรูปฉฉะนั้น ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระโคดมผู้เจริญ พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอข้าพระองค์พึงได้บรรพชา พึงได้อุปสมบทในสำนักของพระโคดมผู้เจริญ.

อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ ได้บรรพชา ได้อุปสมบทแล้ว ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ท่านอักโกสกภารทวาชะอุปสมบทแล้วไม่นานแล หลีกไปอยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ไม่นานเท่าไรนัก ก็กระทำให้แจ้งซึ่งคุณวิเศษยอดเยี่ยม เป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ซึ่งกุลบุตรทั้งหลายออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบมีความต้องการ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องรู้ยิ่งเองในปัจจุบันนี้เข้าถึงอยู่ ได้ทราบว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ก็แหละ ท่านพระอักโกสกภารทวาชะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้แล

จบอักโกสกสูตร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 16 ก.พ. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

อักโกสกสูตร (ว่าด้วยพระพุทธเจ้าไม่รับคำด่าของพราหมณ์)

อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ เกิดความโกรธ ขัดใจ ไม่พอใจ เมื่อได้ทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ยังพราหมณ์ภารทวาชโคตร ผู้เป็นพี่ชายของตนให้บวช จึงได้เข้าไปด่าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ด้วยถ้อยคำอันหยาบคาย พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสสนทนากับพราหมณ์ เพื่อให้เห็นตามความเป็นจริง ว่า เมื่อมีแขกมาเยี่ยมที่บ้านของตน ผู้เป็นเจ้าของบ้านย่อมทำการต้อนรับด้วยวัตถุต่างๆ ทั้งของเคี้ยวของบริโภคและเครื่องดื่ม ถ้าหากแขกไม่รับสิ่งของเหล่านั้น สิ่งของเหล่านั้นย่อม (ตก) เป็นของเจ้าของบ้าน ฉันใด เมื่อพราหมณ์ด่าพระองค์ด้วยถ้อยคำอันหยาบคายอย่างนี้ พระองค์ไม่รับคำด่าของพราหมณ์ คำด่าดังกล่าวเป็นของพราหมณ์เพียงคนเดียวเท่านั้น ฉันนั้น ... พระผู้มีพระภาคเจ้า แม้จะถูกด่า ถูกว่า พระองค์ก็ไม่ทรงโกรธตอบ พร้อมทั้งทรงเป็นที่พึ่งให้กับอักโกสกภารทวาชพราหมณ์ด้วย ซึ่งในที่สุดอักโกสกภารทวาชพราหมณ์ก็เกิดความเลื่อมใส ขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา ในกาลต่อมาท่านก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Jans
วันที่ 16 ก.พ. 2553

..... บุคคลไม่โกรธตอบ

บุคคลผู้โกรธแล้ว ชื่อว่าย่อมชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 16 ก.พ. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 16 ก.พ. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สุภาพร
วันที่ 17 ก.พ. 2553

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
rojanasak
วันที่ 17 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาครับ

ดั่งเช่นเปรียบกับพระ (องคุลิมาล) ที่ออกบิณฑบาตรแล้วโดนชาวเมืองขว้างปาเข้าของใส่ท่านจนศีรษะแตกท่านก็ไม่โกรธ กระผมขออนุญาตสนทนาธรรมด้วยนะขอรับมิได้มีเจตนาจะอวดความฉลาดน้อยแต่ประการใดๆ ทั้งสิ้นขอรับ

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาสาธุครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
jerm
วันที่ 19 ก.พ. 2553

ขอเสนอแก้ไขถ้อยคำใน ข้อ (๖๓๓) บรรทัดที่ ๔ ถ้อยคำว่า ...ความโกรธแล้ว ผู้นั้นเป็น...เป็นถ้อยคำว่า...ความโกรธจักมีมาแต่ที่ไหน ... อนึ่งเมื่อเข้าไปดูใน "พระ-ไตรปิฎก " ตามพระสูตรนี้ หน้า ๒๐๓ ก็สมควรแก้ไขเช่นเดียวกัน รวมทั้งในบรรทัดที่๓ ถ้อยคำว่า ...เพราะรู้ตอบ...ควรแก้ไขเป็น ...เพราะรู้ชอบ...โปรดพิจารณาด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jerm
วันที่ 19 ก.พ. 2553

เมื่อได้ฟังพระธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นความโกรธ และได้เห็นธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
prachern.s
วันที่ 19 ก.พ. 2553

ขอขอบคุณความเห็นที่ ๘

แก้เป็น "ความโกรธจักมีมาแต่ที่ไหน" ตามหนังสือพระไตรปิฎกฉบับ มมร. ฉบับซีดีรอม มีข้อผิดพลาดเยอะมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 19 ก.พ. 2553

ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้วเป็นผู้มีสติสงบเสียได้ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ แก่ตนและแก่บุคคลอื่น เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์อยู่ทั้งสองฝ่าย คือ ของตนและ ของบุคคลอื่น ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรมย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่า เป็นคนเขลาดังนี้....หากไม่มีพระธรรมก็ไม่รู้ว่าเป็นคนเขลา....และคิดว่าการโกรธตอบ เช่นด้วยวาจาที่เท่าทัน เป็นไหวพริบเป็นความฉลาด ทั้งที่ทำให้ตนเองทุกข์และสร้างทุกข์ให้คนอื่นเป็นความประพฤติไม่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายจริงๆ ...ความโกรธเป็นธรรมะที่พบในชีวิตประจำวัน.......ที่เป็นประโยชน์ในการสนทนาธรรมที่ใหม่ชั่วคราว (ติดแอร์) ณ.โรงเรียนมัทธยมวัดดาวคะนอง เสาว์นี้.............

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 19 ก.พ. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ประสาน
วันที่ 19 ก.พ. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
hadezz
วันที่ 20 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
paderm
วันที่ 20 ก.พ. 2553

....หากไม่มีพระธรรมก็ไม่รู้ว่าเป็นคนเขลา....และคิดว่าการโกรธตอบ เช่นด้วยวาจาที่เท่าทัน เป็นไหวพริบเป็นความฉลาด ทั้งที่ทำให้ตนเองทุกข์และสร้างทุกข์ให้คนอื่น เป็นความประพฤติไม่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายจริงๆ ...

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
nopwong
วันที่ 5 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
prumvuthyv
วันที่ 9 พ.ค. 2556

เมื่อไร่ถูกด่าก็ไม่โกรธ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
prumvuthyv
วันที่ 11 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
danai2523
วันที่ 14 พ.ค. 2558

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
ทิศเบื้องขวา
วันที่ 31 พ.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ จะพยายามฝึกขัดเกลาให้มีความโกรธลดลง

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ก.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ก.ค. 2564
 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
Jarunee.A
วันที่ 4 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ