สมาธิในมรรคผลเป็นสมาธิที่มีผลมาก [มหาปรินิพพานสูตร]
[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 247
ข้อความบางตอนจาก ..
มหาปรินิพพานสูตร
... เล่ากันว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อเสด็จอยู่บนภูเขาคิชฌกูฏใกล้กรุงราชคฤห์ กระทำธรรมีกถานี้แลเป็นอันมากแก่ภิกษุทั้งหลาย ด้วยพระดำรัสว่า ศีล มีอยู่ด้วยประการฉะนี้, สมาธิ มีอยู่ด้วยประการฉะนี้ ปัญญามีอยู่ด้วยการฉะนี้ สมาธิอันศีลอบรมแล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ปัญญาอันสมาธิอบรมแล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก จิตอันปัญญาอบรมแล้ว ก็หลุดพ้นด้วยดีโดยแท้จากอาสวะทั้งหลาย กล่าวคือ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ ดังนี้...
คำอธิบายจากอรรถกถา
บทว่า เอตเทว พหุลํ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อทรงโอวาทภิกษุทั้งหลายจึงทรงทำธรรมีกถาอย่างนี้นี่แหละบ่อยๆ เพราะใกล้ปรินิพพาน.
บทว่า อิติ สีลํ แปลว่า ศีลอย่างนี้ ศีลเท่านี้. ในข้อนั้น พึงทราบว่าจตุปาริสุทธิศีล ชื่อว่าศีล. จิตเตกัคคตา ชื่อว่าสมาธิ. วิปัสสนา ชื่อว่าปัญญา พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า สีลปริภาวิโต ดังนี้ ภิกษุทั้งหลายตั้งอยู่ในศีลอันใด ย่อมบังเกิดสมาธิที่สัมปยุตด้วยมรรค สมาธิที่สัมปยุตด้วยผล สมาธินั้น อันศีลนั้นอบรมแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ภิกษุทั้งหลายตั้งอยู่ในสมาธิใด ย่อมบังเกิดปัญญาที่สัมปยุตด้วยมรรค ปัญญาที่สัมปยุตด้วยผล ปัญญานั้น อันสมาธินั้นอบรมแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ภิกษุทั้งหลายตั้งอยู่ในปัญญาอันใด ย่อมบังเกิดมรรคจิต ผลจิต จิตนั้นอันปัญญานั้นอบรมแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายโดยชอบทีเดียว. ..
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น