อนาถบิณฑิกคหบดีเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 410
ข้อความบางตอนจาก
สุทัตตสูตร
อนาถบิณฑิกคหบดีเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าครั้งแรก
ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีได้ดำริว่า วันนี้เป็นกาลไม่ควรเพื่อจะเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พรุ่งนี้เถิด เราจึงจักเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ตามเวลา ท่านคฤหบดีนอนรำพึงถึงพระพุทธเจ้า สำคัญว่าสว่างแล้วลุกขึ้นในราตรีถึง ๓ ครั้ง. ลำดับนั้น ท่านคฤหบดีเดินไปทางประตูป่าช้า พวกอมนุษย์เปิดประตูให้.
[๘๒๗] ครั้นเมื่อ อนาถบิณฑิกคฤหบดีออกจากเมืองไป แสงสว่างก็ อันตรธานไป ความมืดปรากฏขึ้น ความกลัว ความหวาดเสียว ขนพองสยอง เกล้าบังเกิดขึ้น ท่านคฤหบดีจึงใคร่ที่จะกลับเสียจากที่นั้น. ครั้งนั้น ยักษ์ชื่อสีวกะไม่ปรากฏร่างได้ส่งเสียงให้ได้ยินว่า ช้างแสนหนึ่ง ม้าแสนหนึ่ง รถเทียม ด้วยม้าอัสดรแสนหนึ่ง หญิงสาวที่สอดสวมแก้วมณี และกุณฑลแสนหนึ่ง ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ อัน จำแนกแล้ว ๑๖ ครั้ง แห่งการยกย่างเท้าไปก้าวหนึ่ง ท่านจงก้าวหน้าไปเถิด คฤหบดีท่านจงก้าวหน้า ไปเถิด คฤหบดี การก้าวหน้าไปของท่านประเสริฐ การถอย หลังไม่ประเสริฐเลย
ครั้งนั้นแล ความมืดได้หายไป แสงสว่าง ปรากฏขึ้น แก่ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี ความกลัว ความหวาดเสียว และขนพองสยองเกล้าก็ระงับไป.
[๘๒๘] แม้ครั้งที่ ๒ แสงสว่างหายไป ความมืดปรากฏขึ้นแก่ท่าน อนาถบิณฑิกคฤหบดี ความกลัว ความหวาดเสียว และขนพองสยองเกล้า บังเกิดขึ้น ท่านคฤหบดีจึงใคร่ที่จะกลับเสียจากที่นั้นอีก. แม้ครั้งที่ ๒ ยักษ์ชื่อสิวกะไม่ปรากฏร่างได้ส่งเสียงให้ได้ยินว่า ช้างแสนหนึ่ง …….
ครั้งนั้นแล ความมืดได้หายไป แสงสว่างปรากฏขึ้นแก่ท่านอนาถ-บิณฑิกคฤหบดี ความกลัว ความหวาดเสียว และขนพองสยองเกล้าก็ระงับไป.
[๘๒๙] แม้ครั้งที่ ๓ แสงสว่างหายไป ความมืดปรากฏขึ้นแก่ท่าน อนาถบิณฑิกคฤหบดี ความกลัว ความหวาดเสียว และขนพองสยองเกล้า บังเกิดขึ้น ท่านคฤหบดีจึงใคร่ที่จะกลับเสียจากที่นั้นอีก. แม้ครั้งที่ ๓ ยักษ์ชื่อสิวกะไม่ปรากฏร่างได้ส่งเสียงให้ได้ยินว่า ช้างแสนหนึ่ง ม้าแสนหนึ่ง ฯลฯ ……
ครั้งนั้นแล ความมืดได้หายไป แสงสว่างได้ปรากฏขึ้นแก่ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี ความกลัว ความหวาดเสียว และขนพองสยองเกล้าก็ระงับไป.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญอ่านเพิ่เติม ...
สุทัตตสูตร อนาถบิณฑิกคหบดีเขาเฝาพระพุทธเจาครั้งแรก และอรรถกถา
ขอเชิญรับฟัง ...