อุเบกขาบารมี

 
pirmsombat
วันที่  13 ก.ค. 2553
หมายเลข  16722
อ่าน  2,678

ข้อความบางตอนจาการสนทนาธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์..

อุเบกขาบารมี ความเป็นผู้วางเฉย ไม่หวั่นไหว ในสัตว์ ในสังขารทั้งหลายและในโลกธรรมทั้งหลาย ทั้งที่น่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนถ้าเป็นไปได้นี่สบายจริงๆ สงบจริงๆ ไม่หวั่นไหวเลย เพราะว่าปัจจุบันนี้ ที่มีความทุกข์ เพราะหวั่นไหว แต่ถ้ามีใจที่มั่นคง ในเรื่องของกรรม จะเป็นผู้ที่ไม่หวั่นไหวได้ และสำหรับผู้ที่เจริญอุเบกขาบารมีนั้น ไม่สนใจในโทษผิดของผู้นั้น ในอรรถกถาใช้คำว่าในโทษผิดของผู้นั้น คือ ผู้ที่ทำความผิดนั้นๆ บุคคลนั้น ผู้ที่เจริญ อุเบกขาบารมี ไม่สนใจในโทษผิดของผู้นั้น เป็นผู้วางเฉยไม่เดือดร้อน เพราะ รู้ว่าทุกคนมีกรรมเป็นของๆ ตน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
opanayigo
วันที่ 13 ก.ค. 2553

เห็นด้วยค่ะ

อุเบกขา ในภาษาไทยทั่วไป คนส่วนมากมักแปลว่า เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรทั้งสิ้น แต่พระพุทธองค์ มิได้หมายถึงให้อยู่เฉยๆ (โดยไม่เข้าใจ) โดยมิได้ทำไรๆ เลย

แต่ให้พิจารณาในสิ่ง ในกาล ที่ควรทำให้พิจารณาในสิ่ง ในกาล ที่ควรวางเฉย (ด้วยความเข้าใจ ในกรรม ในผลของกรรม) สมควรแก่ฐานานุรูป คือ ความพอดี เพื่อมิให้เสียประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน

ดังข้อความยกมา ;

ควรนิ่ง แม้รู้อยู่ก็ไม่พูด

พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสคาถานี้แล้ว จึงรับสั่งถามพระอานนทเถระว่า ดูก่อนอานนท์ภิกษุทั้งหลายถูกคำว่าเย้ยหยันอย่างนี้แล้ว พูดอย่างไร กราบทูลว่า มิได้พูดอะไรเลย พระเจ้าข้า ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ เราเป็นผู้มีศีลมิใช่หรือ เพราะฉะนั้น ควรนิ่งในเรื่องทั้งหมด แม้รู้อยู่ก็ไม่พูด เพราะคนพาลกับบัณฑิตเข้ากัน ไม่ได้

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 715

อรรถกถาทุฏฐัฏฐกสูตร

ในชีวิตประจำวัน หากรู้สภาพจิต ขณะนั้นของตนเองว่า เป็นกุศล หรือ อกุศล จะเป็นประโยชน์กว่า

ขอบพระคุณ

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
พร้อมเสมอ
วันที่ 13 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 13 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ruttikarn
วันที่ 14 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
hadezz
วันที่ 14 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 14 ก.ค. 2553

เรียนถามท่านผู้รู้

ตัตรมัชฌัตตตา เจตสิก มีลักษณะอย่างไร

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ajarnkruo
วันที่ 14 ก.ค. 2553

เรียน ความเห็นที่ 6

เชิญคลิกอ่านครับ >>>

กรุณาอธิบายตัตรมัชฌัตตตาเจตสิก

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 14 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
พุทธรักษา
วันที่ 15 ก.ค. 2553
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
khampan.a
วันที่ 15 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
saifon.p
วันที่ 17 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
วิริยะ
วันที่ 19 ก.ค. 2553

เรียนถามท่านผู้รู้

ในอุเบากขา 10 อย่างนั้น อย่างแรกคือ ฉฬงคูเบกขา อยากทราบว่า อ่านออกเสียงอย่างไร และ ฉฬงค แปลว่าอะไรคะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
prachern.s
วันที่ 20 ก.ค. 2553

เรียน ความเห็นที่ 12

อ่านออกเสียงว่า ฉะ - ลัง - คุ - เบก - ขา คำแปลส่วนใหญ่นิยมแปลทับศัพท์เดิม ฉฬังคุเบกขา ความหมาย หมายถึง เป็นอุเบกขาของพระอรหันต์ที่ท่านวางเฉยในอารมณ์ทั้งหกคือไม่ยินดีไม่ยินร้าย หลังจากท่านเห็น ได้ยิน เป็นต้น ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
jintana
วันที่ 1 ส.ค. 2553

ขอบพระคุณ คุณ Permsombat และ อ.สุจินต์ค่ะ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันแล้วเป็นสุขและสงบจริงๆ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 14 เม.ย. 2554
ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ก.ค. 2564
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ