ถ้าโลกแตก มนุษย์ สัตว์ ตายหมด ไม่มีที่อยู่ จิต วิญญาณ จะไปเกิดที่ใด

 
wkedkaew
วันที่  13 ก.ค. 2553
หมายเลข  16724
อ่าน  5,274
ถ้าโลกแตก มนุษย์ สัตว์ ตายหมด ไม่มีที่อยู่ จิต วิญญาณ ทั้งหลายจะไปเกิดที่ใดภพใด

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 13 ก.ค. 2553

ตามหลักพระธรรมแสดงว่า โลก หรือภพภูมิ มีหลากหลายมาก ไม่ใช่มีเพียงโลกมนุษย์นี้เท่านั้น ยังมีภพภูมิเบื้องต่ำอีก ๔ และภพเบื้องสูงอีก ๒๖ ภูมิ แต่โดยย่อสรุปเป็น ภพ ๓ คือ กามภพ
รูปภพ อรูปภพ ดังนั้นมีบางกาลที่โลกถูกทำลาย หมู่สัตว์ก็ย่อมเกิดในภพเบื้องสูงขึ้นตามสมควรแก่เหตุครับ

ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มที่...

โลกถูกทำลายและเริ่มตั้งขึ้นใหม่

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
คนรักธรรมะ
วันที่ 13 ก.ค. 2553

เรียนคุณ prachern.s (ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ค่ะ)

ขออนุโมทนาค่ะ เข้าไปอ่านพระสูตรแล้วเข้าใจยาก (นึกภาพตามไม่ออกเลยค่ะ) โดยเฉพาะส่วนที่ยกมาด้านล่าง

...ครั้นแล้ว โดยกาลล่วงยาวนาน มหาเมฆตั้งขึ้นยังฝนละเอียดๆ ให้ตกเป็นครั้งแรก. มหาเมฆยังสายฝนประมาณเท่าก้านบัว ไม้เท้าสาก และต้นตาลเป็นต้นให้ตกโดยลำดับ ทำที่ที่ถูกไหม้ทั้งหมดให้เต็มแล้วหายไป. ตั้งขึ้นทำน้ำนั้นทั้งเบื้องล่างและเบื้องขวางให้เป็นก้อนเป็นทางโดยรอบเช่นกับหยาดน้ำในใบบัว. หากถามว่า ทำห้วงน้ำใหญ่ถึงเพียงนั้นให้เป็นก้อนได้อย่างไร?ตอบว่า เพราะเปิดเป็นช่องไว้. ให้ช่องในที่นั้นๆ แก่ห้วงน้ำนั้น. น้ำนั้นถูกลมพัดรวมทำให้เป็นก้อนสิ้นไป ย่อมไหลลงเบื้องล่างตามลำดับ. เมื่อน้ำไหลลงๆ พรหมโลกย่อมปรากฏในที่ของพรหมโลก.อนึ่ง เทวโลกย่อมปรากฏในที่แห่งกามาวจรเทวโลกในเบื้องบน. เมื่อน้ำไหลลงสู่พื้นดินดังก่อน ลมแรงย่อมเกิดขึ้น. ลมแรงเหล่านั้นปิดกั้นทำให้น้ำไม่ไหลออก ดุจน้ำที่ขังอยู่ในธมกรกที่ปิดปากไว้. เมื่อน้ำหวานหมดไป ยังง้วนดิน (รสปฐวึ) ให้ตั้งขึ้นเบื้องบน...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
govit2553
วันที่ 13 ก.ค. 2553

โลกนี้ยังมี แล้วโลกอื่นจะไม่มีหรือ เพราะจักรวาล มันไร้ขอบเขต

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
choonj
วันที่ 14 ก.ค. 2553

เข้าใจว่าโลกที่ถูกไฟทำลายในอดีตหลายๆ ล้านปีมีอยู่หลายครั้ง แต่ละครั้งก็จะ มีความร้ายแรงแตกต่างกันไป แล้วก็ทุกครั้งโลกก็เริ่มต้นขึ้นไหม่ เช่นในพระสูตรที่ยก มานี้ ไฟทำลายถึงโลกสวรรค์ เมื่ออ่านพระสูตรแล้วก็จะมีความคล้ายคลึงกับการคำ นวนของนักวิทยาศาสตร์ เมื่อมีลูกอุกาบาตร์ชนโลก ซึ่งผมจะพยายามเล่าให้ฟังดังนี้ ในจักรวาลมีดาวเคราะน้อยอยู่หลายพันดวง วันดีคืนดีก็จะมีดวงหนึ่งโคจรมา ชนโลก ขนาดของดาวมีพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศไทย เมื่อดาวชนโลกก็จะระเบิดใหญ่โต มโหฬาร หลายพันเท่าของระเบิดประรัมณูที่ทิ้งในญี่ปุ่น การระเบิดนั้นก็จะมีลักษณะ คล้ายกับที่เราโยนหินลงในน้ำ ก็จะมีน้ำกระเด็นขึ้นมาเมื่อหินจมลง แร่ธาตุของดาว เคราะด้วยแรงชนจะกลายเป็นของเหลวมีความร้อนมหาสานภายในไม่กี้วินาที ความ ร้อนนี้ก็จะกระเด็นเหมื่อนน้ำที่กระเด็นเมื่อหินจมลง แต่ความเร็วนั้นภายในหนี่งวินาที่ไป ได้เป็นพันกีโล ภายในไม่กี่ชัวโมงทั้วโลกก็จะลุกเป็นไฟ ไฟที่ลุกนั้นไม่เหมื่อนไฟที่ลุก แล้วไหม้ลามไป แต่จะเหมื่อนทุกอย่างติดไฟพร้อมกันทั้วโลกใบนี้ ไม่มีที่ไหนจะไม่มีไฟ ที่ร้อนแรงมากๆ โลกก็กำลังถูกเผา ด้วยความร้อนของไฟ สิ่งที่มีชีวิตบนพื้นโลกจักตายหมด แต่นักวิทยาศาสตร์คำ นวนว่าใต้ดินลึกลงไปไม่กี่สิบเมตร ความร้อนไม่ร้องอย่างที่คิด เป็นที่อยู่ของสิ่งที่มีชีวิต ได้ เมื่อโลกเกิดใหม่ก็สัตว์พวกนี้แหลาะเป็นบรรพบุรุษ เวลาที่ใช้นี้เป็นล้านปีเลยที่ เดียว ก็ไม่แน่ว่าอาจไปเกิดเป็นสัตว์ใต้ดินนี้ หรือบนสวรรค์หรือในนรก ก็ได้ที่ไฟไปไม่ ถึง แรงระเบิดจะทำให้ของเหลวที่เป็นไฟและเถ่าถ่านต่างๆ พุ่งไปทุกทิศ บางทิศ ออกนอกโลกเลย บางส่วนไม่ออกก็จะตกลงมาเป็นลูกไฟ เหมื่อนฝนไฟไปทั่วโลก ส้ำ เติมสัตว์โลกไปอีก

ที่นี้เมือโลกถูกเผาอยู่ ไฟก็จะดับทำไห้เกิด คาบอนไดร์ออกไซร์ฯลฯ ขึ้นไปปิด ชั้นบรรญากาศ เหมือนกับขณะนี้ที่ทำให้โลกร้อน โลกก็จะมือมิดกลายเป็นยุกค์น้ำแข็ง เพราะแสงอาทิตย์ไม่ผ่านมายังพื้นโลก ยุกค์น้ำแข็งก็จะอยู่ไปอีกเป็นล้านปี ดาวเคราะห์ชนโลกคำนวนว่าตกลงในทะเลเหนือแมกชิโก ทำให้พื้นดินแยกกลาย เป็นแผ่นดินไหว และซืนามิ มีคลื่นสูงเป็นหลายร้อยชั้นซื่งไม่เคยมีมาก่อน และเมื่อหิน ตกลงน้ำกระเด็นขึ้น น้ำก็จะกลับมาแทนที่เดิม ก็จะทำให้การทำลายมากขึ้นต่อเนื่องกัน ฯลฯ

เอามาจากสารคดีฝรั่งที่เขาคำนวนมาให้อ่านเล่นสนุกๆ อาจไม่เหมื่อนเลยทีเดียว เหมื่อนพระสูตรมั้ยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
hadezz
วันที่ 14 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

เวลาที่ยาวนานนานมากจนไม่ได้ทำใจให้คิดไกลไปกว่านั้น

ขอแค่ปัจจุบันเท่านั้นพอ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ajarnkruo
วันที่ 14 ก.ค. 2553

ข้อความบางตอนจาก ... จินตสูตร

[๑๗๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อเธอทั้งหลายจะคิด พึงคิดว่า

นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความคิดนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่งความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย

พึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกข-นิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 14 ก.ค. 2553

อาจินไตย 4 ประการไม่ควรคิด

1. พุทธวิสัย

2. ฌานวิสัย

3. วิบากแห่งกรรม

4. ความคิดเรื่องของโลก

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
วิริยะ
วันที่ 14 ก.ค. 2553

เรียนถามความเห็นที่ 7

จากอจินไตยสองข้อแรก คือ พุทธวิสัย และ ฌานวิสัย อยากทราบว่า คำว่า วิสัย หมายถึงอะไรคะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaran
วันที่ 15 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
prachern.s
วันที่ 15 ก.ค. 2553

เรียนความเห็นที่ ๘

คำว่า วิสัยในที่นี้หมายถึง ความรู้ ความสามารถ เช่น พุทธวิสัย คือ ความสามารถของพระพุทธเจ้า มีมาก น่าอัศจรรย์ เหนือกว่า สามัญชนทั่วไป

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วิริยะ
วันที่ 15 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
wkedkaew
วันที่ 15 ก.ค. 2553

ขอขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
kinder
วันที่ 16 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
รากไม้
วันที่ 18 ก.ค. 2553

โลกนี้ทั้งโลก ก็ดับหมดไม่เหลืออะไรให้เห็นว่านับเป็นโลกได้อีก ...เมื่อวันที่เราตาย วันที่จิตเคลื่อนจากภพนี้ไปสู่ภพใหม่

ประโยชน์อันใดที่จะคิดถึงความเปลี่ยนแปลงของโลก นับต่อจากวันที่เราตายไปแล้ว

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
thesun1986
วันที่ 20 ก.ค. 2553

ไม่ต้องไปไกลถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่วันนี้เราทำดี เว้นชั่ว ทำจิตใจให้เบิกบานก็พอแล้วครับ เพราะเราเองนั้นไม่รู้รู้ว่าจะตายเมื่อไร วันนี้ หรือวันพรุ่งก็ไม่รู้แน่ชัด เพราะฉะนั้นแล้ว จงทำดีเถอะครับ เตรียมตัวให้พร้อมทุกเมื่อ เมื่อถึงคราวที่ตาย เราจะได้ไม่ลำบากเอาน่ะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
govit2553
วันที่ 21 ก.ค. 2553

บุคคลควรละความโกรธ สละมานะ

ก้าวล่วงสังโยชน์ ได้หมดทุกอย่าง

ความทุกข์ย่อมไม่รุมเร้าคนนั้น ผู้ไม่ติดอยู่ในนามรูป

ผู้ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล๑

ภิกษุละบัญญัติแล้ว ไม่เข้าถึงวิมาน

ตัดตัณหาในนามรูปนี้ได้แล้ว

เทวดาและมนุษย์ในโลกนี้ก็ดี ในโลกอื่นก็ดี

ในสวรรค์ก็ดี ในสถานที่อันเป็นที่อาศัยแห่งสัตว์ทั้งปวงก็ดี

พากันเที่ยวค้นหาก็ไม่พบภิกษุนั้น

ผู้ตัดเครื่องผูกขาดแล้ว ไม่มีความทุกข์ ไม่มีตัณหา

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
เมตตา
วันที่ 21 ก.ค. 2553

ภิกษุละบัญญัติแล้ว ไม่เข้าถึงวิมาน

ตัดตัณหาในนามรูปนี้ได้แล้ว

เทวดาและมนุษย์ในโลกนี้ก็ดี ในโลกอื่นก็ดี

ในสวรรค์ก็ดี ในสถานที่อันเป็นที่อาศัยแห่งสัตว์ทั้งปวงก็ดี

พากันเที่ยวค้นหาก็ไม่พบภิกษุนั้น

ผู้ตัดเครื่องผูกขาดแล้ว ไม่มีความทุกข์ ไม่มีตัณหา

...ขออนุโมทนาค่ะ...

คำถามของเจ้าของกระทู้นี้ ข้าพเจ้าเคยเรียนถามท่านอาจารย์ตอนมาฟังพระธรรม

ใหม่ๆ ค่ะ ไม่ต้องกลัวไม่มีที่อยู่...ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทดัง

พระภิกษุผู้ตัดเครื่องผูกขาดแล้ว ไม่มีความทุกข์ ไม่มีตัณหา ก็ไม่ต้องเกิดอีกต่อไป

หาที่อยู่ไม่พบ ส่วนผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ก็ต้องท่องเที่ยวไปในภพภูมิต่างๆ ในจักวาลนี้และในอนันตจักวาล...

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
chaiyakit
วันที่ 22 ก.ค. 2553

รบกวนถามหน่อยครับ คำว่าโลกอื่นๆ กับ ภพภูมิอื่นๆ ความหมายเดียวกันใช่ใหมครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
tanakase
วันที่ 22 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
khampan.a
วันที่ 23 ก.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสรู้และทรงแสดงนั้น มีความละเอียดลึกซึ้งยากที่จะตรัสรู้ตามได้ เป็นธรรมอันบัณฑิตเท่านั้นที่จะรู้ได้ ธรรมจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ได้ฟังได้ศึกษาและมีความเข้าใจเท่านั้นที่จะได้สาระจากพระธรรม ประโยชน์สูงสุดของการศึกษาพระธรรม คือ เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ซึ่งเป็นปัญญาของแต่ละบุคคล "เข้าใจพระธรรม ตามกำลังปัญญาของตนเอง" ครับ ..

ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

มนุษย์ทั้ง ๔ ทวีป? โลกสาม

ความหมายของ...ภพภูมิ

จักรวาลกับโลกธาตุต่างกันอย่างไร

..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
คุณ
วันที่ 29 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ก.ย. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ