ตะปูตรึงใจ

 
JANYAPINPARD
วันที่  29 ก.ค. 2553
หมายเลข  16829
อ่าน  3,438

ในการฟังธรรมที่ มูลนิธิฯ..มีข้อความที่ผู้ฟังฟังแล้วเกิดความสนใจ ......

ตะปูตรึงใจ

ถ้าเป็นคำในหมู่วัยรุ่น..คงจะต้องค้นหาว่าเป็นอะไร ..ที่ตรึงใจ..

เผลอๆ ๆ อยากมีและอยากใด้ไว้สำหรับตนเองหรือตรึงใจคนอื่น...

ตะปูที่ว่านี้...ท่านคิดว่าเป็นอะไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 29 ก.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ตะปูตรึงใจตะปู ตรึงใจ คือใจที่ถูกตรึงไว้ด้วย อกุศล จิตที่หยาบกระด้าง จิตที่ลังเลสงสัย จิตที่เป็นโทสะ ชื่อว่าเป็นตะปูตรึงใจ ตรึงใจเอาไว้ไม่ให้เกิดกุศลธรรม ตรึงใจเอาไว้ไม่ให้เกิดปัญญา ตรึงใจไว้ให้อยู่กับความไม่รู้คืออวิชชา ไม่ให้ละกิเลสและทำให้เสื่อมจากกุศลธรรมประการต่างๆ เพราะถูกตะปูคือกิเลสที่หยาบกระด้างตรึงไว้ ให้ใจหยาบกระด้างด้วยอกุศลธรรม

ตะปูตรึงใจ มี 5 ประการดังนี้

1. บุคคลย่อมสงสัย เคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า เมื่อจิตสงสัยและไม่เลื่อมใสใน พระพุทธเจ้า บุคคลนั้น ก็ย่อมไม่ศึกษาพระธรรม ไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมและไม่ขัดเกลากิเลส การที่บุคคลไม่ศึกษาพระธรรม...ไม่ขัดเกลากิเลส เป็นตะปูตรึงใจข้อที่ 1 ตรึงใจไว้ให้ไม่เจริญในกุศลธรรมและและตรึงใจไว้ให้เจริญใน อกุศลธรรม เพราะความสงสัยและไม่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า เช่น เมื่อมีบุคคลที่ไม่เชื่อว่า พระพุทธเจ้ามีจริง ไม่เชื่อใน พระคุณของพระพุทธเจ้า เมื่อไม่เชื่อหรือสงสัย เขาก็จะไม่เห็นประโยชน์ของการศึกษาพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าแสดง ไว้ และเมื่อไม่ศึกษาพระธรรม ก็ไม่มีทางขัดเกลากิเลส ละกิเลสได้เลย นั่นจึงเป็นตะปูตรึงใจของเขาไว้ให้อยู่กับอกุศลธรรม อยู่กับความไม่รู้ ไม่มีทางดับกิเลสได้เลยครับ

2. บุคคลย่อมสงสัย เคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อไม่เลื่อมใสในพระธรรม เมื่อจิตสงสัยและไม่เลื่อมใสในพระธรรม บุคคลนั้นก็ย่อมไม่ศึกษาพระธรรม ไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมและไม่ขัดเกลากิเลส การที่บุคคลไม่ศึกษาพระธรรม.... ไม่ขัดเกลากิเลสเป็นตะปูตรึงใจข้อที่ 2 ตรึงใจไว้ให้ไม่เจริญในกุศลธรรมและและ ตรึงใจไว้ให้เจริญในอกุศลธรรมเพราะความสงสัยและไม่เลื่อมใสในพระธรรม เช่น เมื่อบุคคลไม่เชื่อหรือสงสัยว่าพระไตรปิฎกเป็นคำสอนที่ถูก อาจจะเปลี่ยนไปเพราะมีการสังคายนาหลายครั้งเมื่อเขาคิดอย่างนี้แล้ว บุคคลนั้นก็ย่อมไม่ศึกษพระธรรม จึงไม่มีทางขัดเกลากิเลส ละกิเลสได้เลย นั่นจึงเป็น ตะปูตรึงใจของเขาไว้ให้อยู่กับ อกุศลธรรม อยู่กับความไม่รู้ ไม่มีทางดับกิเลสได้เลยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 29 ก.ค. 2553

3. บุคคลย่อมสงสัย เคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อไม่เลื่อมใสในพระสงฆ์ เมื่อจิตสงสัยและไม่เลื่อมใสในพระสงฆ์ บุคคลนั้นก็ย่อมไม่ศึกษาพระธรรม ไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมและไม่ขัดเกลากิเลส การที่บุคคลไม่ศึกษาพระธรรม.... ไม่ขัดเกลากิเลสเป็นตะปูตรึงใจข้อที่ 3 ตรึงใจไว้ให้ไม่เจริญใน กุศลธรรม และและตรึงใจไว้ให้เจริญในอกุศลธรรมเพราะความสงสัยและไม่เลื่อมใสในพระสงฆ์ เช่น บุคคลมีความสงสัยหรือไม่เชื่อว่ามีบุคคลที่บรรลุเป็นพระอริยสงฆ์จริงหรือไม่ เมื่อสงสัยหรือไม่เชื่อว่ามีการบรรลุธรรมจริง ก็ไม่สนใจศึกษาพระธรรมและก็ไม่สามารถขัดเกลากิเลส ย่อมเป็น ตะปูตรึงใจให้ไม่พ้นไปจากความไม่รู้และอกุศลอื่นๆ ครับ4. บุคคลย่อมสงสัย เคลือบแคลง ไม่ปลงใจเชื่อไม่เลื่อมใสในสิกขาเมื่อจิตสงสัยและไม่เลื่อมใสในสิกขา บุคคลนั้น ก็ย่อมไม่ศึกษาพระธรรม ไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมและไม่ขัดเกลากิเลส การที่บุคคลไม่ศึกษาพระธรรม...ไม่ขัดเกลากิเลส เป็นตะปูตรึงใจข้อที่ 4 ตรึงใจไว้ให้ไม่เจริญใน กุศลธรรมและและตรึงใจไว้ให้เจริญใน อกุศลธรรม เพราะความสงสัยและไม่เลื่อมใสในสิกขา

สิกขาในที่นี้คือ อธิศีล สิกขา อธิจิตสิกา และอธิปัญญาสิกขา สรุปคือข้อประพฤติปฏิบัติในการดับกิเลสนั่นก็คืออริยมรรค มีองค์ 8 หรือสติปัฏฐานครับ หากว่าบุคคลมีความสงสัยหรือ ไม่เชื่อว่าสติปัฏฐาน เป็นหนทางเดียวในการดับกิเลส ก็จะไม่ประพฤติปฏิบัติตามทางสายกลาง ก็จะไม่สามารถดับกิเลสได้ เป็นตะปูตรึงใจเขาไว้ให้อยู่ในความไม่รู้ และกิเลสประการต่างๆ ครับ และหากว่าบุคคลไม่เชื่อ หรือสงสัยว่า การระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่มีในขณะนี้ เป็นหนทางดับกิเลส เมื่อไม่เชื่อหรือสงสัย ก็จะไม่ประพฤติปฏิบัติ ตามหนทางนี้ ก็ไม่สามารถดับกิเลสได้ เป็นตะปูตรึงใจของบุคคลนั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 29 ก.ค. 2553

5. บุคคลเป็นผู้มีความโกรธ มีจิตกระทบกระทั่งคือมีความโกรธในบุคคลต่างๆ ในบุคคล

ที่ศึกษาธรรมร่วมกัน ก็เป็นตะปูตรึงใจข้อที่ 5 บุคคลนั้นก็ย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระ

ธรรม ไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมและไม่ขัดเกลากิเลส การที่บุคคลไม่ศึกษา

พระธรรม...ไม่ขัดเกลากิเลส เป็นตะปูตรึงใจข้อที่ 5 ตรึงใจไว้ให้ไม่เจริญในกุศลธรรม

และตรึงใจไว้ให้เจริญในอกุศลธรรม ตรึงใจในความไม่รู้ และกิเลสเพราะความเป็นผู้ที่

มากด้วยโกรธและความผูกโกรธ ประโยชน์ของการศึกษาธรรมคือ เพื่อขัดเกลากิเลสด้วยความจริงใจ ขออนุโมทนา

เชิญคลิกอ่านที่นี่...ตะปูตรึงใจ ๕ ประการ [เจโตขีลสูตร] อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ผิน
วันที่ 30 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
opanayigo
วันที่ 30 ก.ค. 2553

อกุศล

(กิเลสพันห้า ตัณหาร้อยแปด กลาง หยาบ ละเอียด)

" ตรึง " เอาไว้

ไม่สามารถเป็น กุศล ได้

..........................

เป็นคำเตือนใจ (บางขณะ)

..........................

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 30 ก.ค. 2553

ตะปู ๕ ดอก + หอกอีก ๓๐๐ เล่ม..............เห็นทีจะไปไม่รอด T_T

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 30 ก.ค. 2553

คำว่าตะปูตรึงใจ...มีหลายความหมาย เช่น....

หมายถึงกิเลส

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๑
- หน้าที่ 182

คำว่า ปภินฺนขีลสฺส แปลว่า ผู้มีกิเลสดุจตะปูตรึงใจอันทำลายได้แล้ว

หมายถึงอาสวะ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 517

ไม่มีอาสวะเพราะไม่มีกิเลสดุจตะปูตรึงใจ ๕ อย่าง และไม่มีอาสวะ ๔ อย่าง.

หมายถึง
โอฆะ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๓ - หน้าที่ 489

ได้ตัดบ่วง คือโอฆะ ตะปูตรึงจิตอันมั่นคง และภูเขาที่ทำลายได้ยากแล้ว ข้ามไป

ถึงฝั่ง คือนิพพาน เป็นผู้เพ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
prakaimuk.k
วันที่ 30 ก.ค. 2553

เป็นคำเตือนใจ เป็นตะปูแทงใจ ชัดเจนจริงๆ ค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 30 ก.ค. 2553

และท่าน อ.อรรณพ อธิบายตะปูตรึงใจ 4 ได้แก่ คันถะ.......................................................................................................................
จากข้อความใน พระอภิธัมมัตถสังคหะ

คันถะ มีความหมายว่า ผูกมัดหรือทำให้เป็นปม อีกนัยหนึ่งหมายความว่า เป็นห่วงที่ร้อยรัดไว้ในระหว่าง จุติ-ปฏิสนธิ ให้เกิดก่อต่อเนื่องกันไม่ให้พ้นไปจาก วัฏฏทุกข์ได้เชิญคลิกอ่าน...คันถะ [พระอภิธัมมัตถสังคหะ]

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pamali
วันที่ 30 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
สมศรี
วันที่ 30 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
khampan.a
วันที่ 30 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Khaeota
วันที่ 30 ก.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุโมทนาค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Jans
วันที่ 31 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 31 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
pornpaon
วันที่ 31 ก.ค. 2553

ใจไม่เป็นอิสระเพราะถูกตรึงไว้ด้วยตะปูกิเลส

ถอนได้ด้วยปัญญา (ที่ตอนนี้ตนเองยอมรับว่า "ไม่มีเลย" จริงๆ )

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
เมตตา
วันที่ 31 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
คุณ
วันที่ 1 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
aditap
วันที่ 3 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
ชีวิตคือขณะจิต
วันที่ 3 ส.ค. 2553
เราอาจถอนตะปูนี้เสียได้ เพราะผู้ที่ตอกตะปูนี้คือเรา
 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
orawan.c
วันที่ 4 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 18 ส.ค. 2553

ตะปูเป็นอุปกรณ์ในการยึด.....เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์..ตะปูที่เป็นอกุศลธรรมเป็นกิเลสตรึงใจหรือจิตให้เกิดดับในสังสารวัฏฏ์...แม้ไม่อยากมีตะปูประเภทนี้แต่ก็มี..ตราบใดที่ยังมีกิเลส..หากยังชื่นชมในพยัญชนะ...ตะปูตรึงใจ....ไม่เข้าใจในอรรถ..ก็ยังไม่เห็นว่าเป็นโทษพระพุทธองศ์ ตรัสให้เห็นโทษ....หนทางของการถอนตะปูหรือกิเลสคืออริยมรรคมีองค์ 8.....

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยและอนุโมทนาทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
pirmsombat
วันที่ 20 ส.ค. 2553

ขอบคุณมากและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
michii
วันที่ 25 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
Belief
วันที่ 21 ต.ค. 2553
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 26  
 
เซจาน้อย
วันที่ 18 มี.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 27  
 
สิริพรรณ
วันที่ 23 มิ.ย. 2560

กราบนอบน้อมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

ต้องศึกษาพระธรรมโดยละเอียดด้วยความเคารพต่อไป

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ