เรื่อง ท่านพระมหากัสสปะ ผู้มีคุณควรแก่จีวรของพระศาสดา
[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 302
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ประทานอุปสมบทแก่พระมหากัสสปเถระด้วยโอวาท ๓ ประการ ครั้นประทานแล้วก็เสด็จออกจากโคนต้นพหุปุตตกนิโครธ เสด็จเดินทางมีพระเถระเป็นปัจฉาสมณะ พระสรีระของพระศาสดา ตระการตาด้วยพระมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ สรีระของพระมหากัสสป ประดับด้วยมหาปุริสลักษณะ ๗ ประการ พระมหากัสสปนั้นเดินตามเสด็จพระศาสดา เหมือนเรือพ่วงไปตามเรือใหญ่สีทองฉะนั้น พระศาสดาเสด็จเดินทางไปหน่อยหนึ่งแล้วแวะลง (ข้างทาง) แสดงอาการจะประทับนั่งที่โคนไม้แห่งหนึ่ง พระเถระระว่า
พระศาสดามีพระประสงค์จะประทับนั่ง จึงกระทำสังฆาฏิอันเป็นผ้าเก่าที่ตนห่มให้เป็น ๔ ชั้น ปูลาดถวาย. พระศาสดาประทับนั่งบนผ้าสังฆาฏินั้นแล้ว เอาพระหัตถ์ลูบคลำเนื้อผ้าตรัสว่า กัสสป สังฆาฏิอันทำด้วยผ้าเก่าผืนนี้ของเธอนุ่มดี พระเถระระว่า พระศาสดาตรัสถึงสังฆาฏิของเรานุ่ม คงจักประสงค์จะห่ม จึงกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห่มสังฆาฏิเถิด. พระศาสดาตรัสว่า กัสสป เธอจะห่มอะไร พระเถระกราบทูลว่า ข้าพระองค์ได้ผ้านุ่งของพระองค์ จึงจักห่ม พระศาสดาตรัสว่า กัสสป ก็เธอจักอาจทรงผ้าบังสุกุลที่ใช้จนเก่าผืนนี้อย่างนี้ได้หรือ ด้วยว่ามหาปฐพีได้ไหวจนถึงน้ำรองแผ่นดิน ในวันที่เราชักผ้าบังสุกุลผืนนี้. ธรรมดาว่าจีวรที่เก่าเพราะใช้ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายนี้ ถึงเก่าแล้ว คนที่มีคุณนิดหน่อยไม่อาจครองได้ จีวรเก่าดังกล่าวนี้ อันบุคคลผู้อาจสามารถในการบำเพ็ญข้อปฏิบัติ ผู้ถือผ้าบังสุกุลมาแต่เดิม จึงจะควรรับเอา แล้วทรงเปลี่ยนจีวรกับพระเถระ
ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปลี่ยนจีวรอย่างนี้แล้ว ทรงห่มจีวรที่พระเถระห่มแล้ว พระเถระห่มจีวรของพระศาสดา ในสมัยนั้นมหาปฐพีนี้ แม้ไม่มีจิตใจ ก็ไหวจนถึงน้ำรองแผ่นดิน เหมือนจะกล่าวว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ทรงทำสิ่งที่ทำได้ยาก จีวรที่พระองค์ห่มแล้ว ชื่อว่าเคยได้ประทานแก่พระสาวกไม่มี (คือไม่เคยมีการประทานจีวรที่ทรงห่มแล้วแก่สาวก) ข้าพระองค์ไม่อาจรองรับคุณของพระองค์ได้. แม้พระเถระก็มิได้กระทำเย่อหยิ่งว่า เดี๋ยวนี้เราได้จีวรสำหรับใช้สอยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย สิ่งที่เราจะพึงทำให้ยิ่งขึ้นไปในบัดนี้ยังจะมีอยู่หรือ จึงได้สมาทานธุดงค์คุณ ๑๓ ข้อในสำนักของพระพุทธเจ้านั่นแหละ เป็นปุถุชนเพียง ๗ วันในอรุณที่ ๘ ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยสูตรทั้งหลายมีอาทิอย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กัสสปเปรียบเหมือนพระจันทร์เข้าไปสู่ตระกูลทั้งหลาย หลีกกาย หลีกใจจากอกุศลธรรมทั้งหลายเป็นผู้ใหม่อยู่เสมอ ไม่คนองในตระกูลทั้งหลาย