ทางอื่น ไม่มี [คาถาธรรมบท]
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 99
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระคาถานี้ว่า “ทางนี้เท่านั้น (คือ มรรคมีองค์ ๘) เพื่อความหมดจดแห่งทัสสนะ (คือมรรคและผล) ทางอื่นไม่มี, เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลาย จงดำเนินตามทางนี้ เพราะทางนี้เป็นที่ยังมารและเสนามารให้หลง, ด้วยว่า ท่านทั้งหลาย ดำเนินไปตามทางนี้แล้ว จักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้; เราทราบทางเป็นที่สลัดลูกศร (คือกิเลส) แล้ว จึงบอกแก่ท่านทั้งหลาย, ท่านทั้งหลาย พึงทำความเพียรเครื่องเผากิเลส, พระตถาคตทั้งหลายเป็นแต่ผู้บอก, ชนทั้งหลายผู้ดำเนินไปแล้ว มีปกติเพ่งพินิจอยู่ ย่อมหลุดพ้นจากเครื่องผูกของมาร (กล่าวคือ วัฏฏะ) ”
(จาก ... พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท)
ขออนุญาตเรียนถามท่านวิทยากรค่ะ คาถาที่ว่า ... "มีปกติ เพ่งพินิจ อยู่" หมายความว่าอย่างไรคะ.
เรียนความเห็นที่ 1
คำว่า "มีปกติ เพ่งพินิจ อยู่"
ในอรรถกถาของสูตรนี้ได้อธิบายถึงเรื่องฌาน ๒ อย่าง ซึ่งฌานหมายถึงการเพ่ง ฌานมี ๒ อย่าง คือ อารัมมณูปนิชฌาน - เพ่งอารมณ์ และ ลักขณูปนิชฌาน - เพ่งลักษณะ ในฌาน ๒ อย่างนั้น สมาบัติ ๘ เข้าไปเพ่งอารมณ์ มีปฐวีกสิณ เป็นต้น ชื่อว่า อารัมมณูปนิชฌาน. วิปัสสนามรรคและผล ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน. ดังนั้นเพราะมีปกติเพ่งพินิจด้วยฌานและวิปัสสนาย่อมถึงความหลุดพ้นได้ครับ
ข้อความจากอรรถกถาของสูตรที่ถามครับ
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่มที่ ๔๓ - หน้าที่ 102
เพราะฉะนั้น ชนทั้งหลายผู้ปฏิบัติแล้ว ด้วยสามารถแห่งทางที่พระตถาคตเจ้าเหล่านั้นตรัสบอกแล้ว มีปกติเพ่งด้วยฌานสองอย่าง ย่อมหลุดพ้นจากเครื่องผูกแห่งมารกล่าวคือวัฏฏะอันเป็นไปในภูมิสาม.
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ ... อารัมมณูปนิชฌาน-ลักขณูปนิชฌาน