ว่าด้วยพุทธการกธรรม ๑๐ [ธรรมสังคณี]
พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 96
(ข้อความบางตอนจาก)
ว่าด้วยพุทธการกธรรม ๑๐
อันพุทธการกธรรมจักมีเท่านั้นก็หามิได้ เราจักเลือกเฟ้นธรรมทั้งหลาย บ่มโพธิญาณแม้อื่นๆ เมื่อเราเลือกเฟ้นธรรมในครั้งนั้น ได้เห็นขันติบารมีอันเป็นพุทธการกธรรมข้อที่ ๖อันพระมเหสีทั้งหลายในกาลก่อนปฏิบัติแล้วส้องเสพแล้ว จึงสอนตนว่า เธอจงสมาทานพุทธการกธรรมข้อที่ ๖ นี้ ทำให้มั่นก่อน เธอมีใจไม่เป็นสองในขันติบารมีนั้น จักบรรลุสัมโพธิญาณ ธรรมดาว่า แผ่นดินย่อมทนสิ่งที่สะอาดบ้าง สิ่งที่ไม่สะอาดบ้าง ทั้งหมดที่เขาทิ้งไป ย่อมไม่ทำความยินดียินร้ายแม้ฉันใด ถึงท่านก็ฉันนั้นเหมือนกัน ต้องอดทนต่อการนับถือ และความดูหมิ่นของชนทั้งปวง ท่านบำเพ็ญขันติบารมีแล้ว จักบรรลุสัมโพธิญาณ ...
... อันพุทธการกธรรมทั้งหลายจักไม่มีเท่านี้แน่ เราจักเลือกเฟ้นธรรมแม้อื่นๆ บ่มโพธิ-ญาณ เมื่อเราเลือกเฟ้นในครั้งนั้น ได้เห็นเมตตาบารมี อันเป็นพุทธการกธรรมข้อที่ ๙อันพระมเหสีทั้งหลายในกาลก่อนปฏิบัติแล้วส้องเสพแล้ว จึงสอนตนว่า เธอจงเป็นผู้ไม่มีใครเสมอด้วยเมตตา สมาทานพุทธการกธรรมข้อที่ ๙ นี้ ให้มั่นก่อน ถ้าท่านปรารถนาบรรลุโพธิญาณ ธรรมดาว่าน้ำย่อมแผ่ความเย็นไปสม่ำเสมอ และย่อมชำระล้างมลทินคือธุลีในชนทั้งหลายทั้งคนดีและคนชั่วแม้ฉันใดเธอก็จงเป็นฉันนั้นนั่นแหละ พึงเจริญเมตตา-บารมี เจริญเมตตาไปสม่ำเสมอในชน ผู้ทำประโยชน์และผู้ไม่ทำประโยชน์แล้ว ท่านจักบรรลุสัมโพธิญาณ ...
... อันพุทธการกธรรมทั้งหลาย จักไม่มีเพียงเท่านี้แน่ เราจักเลือกเฟ้นธรรมแม้อื่นๆ บ่มโพธิญาณ เมื่อเราเลือกเฟ้นในครั้งนั้น ได้เห็นอุเบกขาบารมี อันเป็นพุทธการกธรรมข้อที่ ๑๐ อันพระมเหสีเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนปฏิบัติแล้ว ส้องเสพแล้ว จึงสอนตนว่าเธอเป็นผู้คงที่มั่นคง สมาทานพุทธการก-ธรรมข้อที่ ๑๐ นี้ให้มั่นก่อนแล้ว จักบรรลุสัมโพธิญาณ ธรรมดาแผ่นดิน เว้นจากความยินดียินร้ายเหล่านั้นทั้งสอง ย่อมวางเฉยสิ่งอันไม่สะอาด และ สิ่งสะอาดที่บุคคลโยนไปแล้ว แม้ฉันใด เธอก็จงเป็นฉันนั้นนั่นแหละ บำเพ็ญอุเบกขาบารมี เป็นผู้คงที่ในสุขและทุกข์ในกาลทุกเมื่อแล้ว จักบรรลุสัมโพธิญาณ ...
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ