นิพพานอยู่ในตัวเรานี่ จริงไหม
ถ้าจะกล่าวว่านิพพานอยู่ในตัวเรานี่ จริงไหม จะให้นิพพานปรากฏกับตนเองได้ไหม หลายคนอยากไปนิพพาน ไม่ทราบว่านิพพานดีอย่างไร
พระนิพพานเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิด จึงไม่มีการตั้งอยู่ ณ ที่ใด ใน ๓๑ ภพภูมิ พระนิพพานเป็นอารมณ์ของโลกุตตรจิต แต่ไม่ควรกล่าวว่านิพพานอยู่ในตัวเรา พระนิพพานไม่เป็นอารมณ์ของโลภะ ผู้อยากไปนิพพานแสดงว่าไม่เข้าใจลักษณะ ของพระนิพพาน
พระนิพพาน เป็น นามธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่เกิดดับ จึงไม่ใช่ จิต เจตสิก รูปไม่ใช่สภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่สถานที่ ที่จะไปถึงได้ด้วยรูปร่างกายนี้ แม้ในความฝัน ก็ไม่มีผู้ใดจะฝันถึงพระนิพพานได้
เป็นความเข้าใจผิดของคนทั่วไปที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรมว่าพระนิพพานเป็นเมืองแก้ว คิดเอาเองว่า พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวก ปรินิพพานแล้ว ก็ ไปอยู่ที่นั่น ถ้านั่งสมาธิ หรือการ เข้าฌานระดับสูงๆ ได้ ก็สามารถไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ที่นั่น บ้างก็ว่านั่งสมาธิให้เพ่ง ที่ศูนย์กลางกาย (เหนือสะดือ 2 นิ้ว) แล้วจะเห็นพระนิพพาน ทั้งหมดเป็นความเห็นผิด ที่ภาษาบาลี เรียกว่า "มิจฉาทิฏฐิ"
แสดงว่าปัจจุบันคนที่ทำสมาธิ ส่วนใหญ่เป็นมิจฉาสมาธิ เพราะเห็นชอบเพ่งที่ ศูนย์กลางกาย
ส่วนมากคนที่ทำสมาธิ เพราะอยากจะสงบ แต่จริงๆ แล้วเขาไม่รู้ว่าความสงบ คืออะไร สงบจากอกุศลคือโลภะ โทสะ โมหะ ชั่วขณะที่จิตเป็นกุศล แต่เพราะต้องการสงบจึงทำ ขณะนั้นก็ไม่สงบแล้วเพราะมีโลภะแทรก ถ้าทำด้วยความไม่รู้ ไม่ใช่ปัญญา ไม่ทำดีกว่าค่ะ
ขอเชิญอ่านได้ที่
ข้อความบางตอน
ยังไม่สายสำหรับหลายๆ คนที่จะเริ่มต้นศึกษาพระธรรมวันนี้ ไม่สายสำหรับคนเริ่ม เพราะว่า เริ่มเมื่อไหร่ก็เข้าใจเมื่อนั้น ทีละเล็กทีละน้อย แต่ถ้าไม่เริ่มเลย แล้วก็จากโลกนี้ไป ก็ไม่ได้อะไรเลยจากโลกนี้ นอกจากกิเลส และความไม่รู้มากมายทุกวันทุกขณะที่เห็น ที่ได้ยิน เป็นต้น
ข้อความบางตอน
คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะเพียงฟังแล้วเข้าใจได้โดยตลอด แต่ต้องอาศัยการไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความค่อยๆ เข้าใจขึ้น จึงจะเริ่มรู้จักพระองค์จริงๆ เพราะฉะนั้น ก็เป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการที่จะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เชิญคลิกฟังที่นี่ครับ