ทำอย่างไรให้อยู่ด้วยความรักด้วยความสามัคคี

 
คุณประมาท
วันที่  12 ส.ค. 2549
หมายเลข  1819
อ่าน  2,744

คนเราต่างความคิด ต่างการกระทำ ทำอย่างไรให้อยู่ด้วยความรักด้วยความสามัคคี


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 12 ส.ค. 2549

ทุกคนจะต้องตายควรเมตตากัน

อนนุโสจิยชาดก

[๖๑๒] อายุสังขาร หาได้เป็นไปตามเฉพาะสัตว์ที่ยืน นั่ง นอน หรือเดินอยู่เท่านั้นก็หาไม่ วัยย่อมเสื่อมไปทุกขณะที่ยังหลับตาและลืมตาอยู่.

[๖๑๓] เมื่อวัยเสื่อมไปอย่างนั้นหนอ ในตน ซึ่งเป็นทางอันตรายนั้นหนอ ต้องมีความพลัดพรากจากกันโดยไม่ต้องสงสัย หมู่สัตว์ที่ยังเหลืออยู่ ควรมีเมตตาเอ็นดูกัน ส่วนที่ตายไปแล้ว ไม่ควรจะต้องเศร้าโศกถึง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 12 ส.ค. 2549

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่มที่ ๒ - หน้าที่ 373

โรคสูตร

ว่าด้วยโรค ๒ อย่าง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โรค ๒ อย่างนี้ โรค ๒ อย่างเป็นไฉน คือ

โรคกาย ๑

โรคใจ ๑

ปรากฏอยู่ว่าสัตว์ทั้งหลายผู้ยืนยันว่าไม่มีโรคทางกาย ตลอดเวลา ๑ ปีก็มี ยืนยันว่าไม่มีโรคทางกายตลอดเวลา ๒ ปีก็มี ๓ ปีก็มี ๔ ปีก็มี ๕ ปีก็มี ๑๐ ปีก็มี ๒๐ ปีก็มี ๓๐ ปีก็มี ๔๐ ปีก็มี ๕๐ ปีก็มี ๑๐๐ ปีก็มี ยิ่งกว่า ๑๐๐ ปีก็มี แต่ว่าผู้ที่จะยืนยันว่าไม่มีโรคทางใจ แม้เพียงเวลาครู่เดียวนั้น หาได้ยากในโลก เว้นแต่พระขีณาสพ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 12 ส.ค. 2549
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 12 ส.ค. 2549

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติม

คุณของเมตตา [ปกิณณกกถา]

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 12 ส.ค. 2549

เมตตามีหลายระดับตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงสูงสุด

สำหรับความมีเมตตา มีความหมายหลายระดับตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงสูงสุด ฉะนั้น ต้องอบรมให้มีเมตตาก่อน คือ ในชีวิตประจำวัน มีความเป็นมิตร มีความปรารถนาดีและความหวังดีกับทุกๆ คน และสรรพสัตว์ที่พบเห็น ผู้อบรมเจริญเมตตา จนเมตตามีกำลังมากๆ มีความสงบของจิตในระดับอุปจารและอัปปนาฌาน จึงแผ่เมตตาความปรารถนาดีไปยังสัตว์ทุกหมู่เหล่าทุกทิศไม่มีขอบเขต

ธรรมทัศนะ

วันที่ : ๒๙-๐๖-๒๕๔๙

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 12 ส.ค. 2549

ผู้ที่มีปกติอยู่ด้วยเมตตาย่อมไม่มีความโกรธง่าย

สำหรับผู้ที่มีปกติอยู่ด้วยเมตตาย่อมไม่มีความโกรธง่าย และพระอริยบุคคลตั้งแต่พระอนาคามีบุคคลขึ้นไป ท่านดับโทสะเป็นสมุจเฉท ท่านย่อมไม่มีความโกรธอีกเลย

ธรรมทัศนะ

วันที่ : ๒๙-๐๖-๒๕๔๙

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
sms
วันที่ 12 ส.ค. 2549

พระพุทธพจน์ข้างต้นนับว่าเป็นประโยชน์มาก

ขออนุโมทนา

บางท่านเมื่อได้รับแนะนำจากบัณฑิตแล้ว กลับเป็นผู้มีความเห็นถูกว่า ควรมีเมตตาต่อกัน บางท่านแม้ได้รับคำแนะนำจากบัณฑิต ก็ยังคงเหมือนเดิมก็มี เป็นไปตามการสะสมของคน ในฐานะเพื่อนที่ดี ควรแนะนำเท่าที่จะทำได้ ไม่ควรเป็นทุกข์ร้อนให้มากนัก คงต้องวางอุเบกขา

สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
sms
วันที่ 12 ส.ค. 2549

ทุกคนจะต้องตายควรเมตตากัน ผู้ที่มีปกติอยู่ด้วยเมตตาย่อมไม่มีความโกรธง่าย ในฐานะเพื่อนที่ดีควรแนะนำเท่าที่จะทำได้ สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
คุณประมาท
วันที่ 13 ส.ค. 2549

ขณะที่โทสะเกิด เมตตาย่อมไม่ปรากฏ

พิสูจน์ได้ว่าแม้แต่การคิดถึงความตายก็ไม่ปรากฏเช่นกัน หากต้องเผชิญกับนิมิตที่ทำให้โทสะเกิดบ่อยๆ และปกติเป็นผู้ที่เมตตาไม่เจริญ ทำอย่างไรที่จะไม่ให้ผูกโกรธ และไม่ให้มานะเกิดว่าเราดีกว่าเขา อกุศลของผู้อื่นจะเป็นปัจจัยให้กุศลจิตเกิดได้อย่างไร

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
study
วันที่ 13 ส.ค. 2549

ผู้มีปกติอยู่ด้วยเมตตาย่อมไม่ผูกโกรธและย่อมไม่สำคัญตน อกุศลของผู้อื่นจะเป็นปัจจัยให้กุศลจิตเกิดได้ โดยหลายนัย เช่น เกิดความกรุณาในตัวเขาที่ถูกอกุศลครอบงำ หรือวางเฉยว่าสัตว์ทั้งหลายเป็นไปตามกรรม คือไม่ใส่ใจ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Guest
วันที่ 13 ส.ค. 2549

เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

สัตบุรุษ [สัพภิสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
คุณประมาท
วันที่ 13 ส.ค. 2549

ขออนุโมทนา ในกุศลจิตของทุกท่าน ในทุกคำตอบ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pornpaon
วันที่ 22 เม.ย. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
olive
วันที่ 7 ก.พ. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
คุณ
วันที่ 17 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 7 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
Jarunee.A
วันที่ 11 ก.พ. 2567

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ