วาจาเพราะการสะสม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 491
๒๕. เรื่องพระปิลินทวัจฉเถระ [๒๘๘]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพระปิลินทวัจฉเถระ ตรัสพระ ธรรมเทศนานี้ว่า "อกกฺกส" เป็นต้น
พระปิลินทวัจฉะใช้วาทะว่าคนถ่อยจนติดปาก
ได้ยินว่า ท่านปิลินทวัจฉะนั้น กล่าวคำเป็นต้นว่า " คนถ่อย จงมา, คนถ่อย จงไป" ย่อมร้องเรียกทั้งคฤหัสถ์ทั้งบรรพชิต ด้วยวาทะว่าคนถ่อย ทั้งนั้น
ภายหลังวันหนึ่ง ภิกษุเป็นอันมากกราบทูลแด่พระศาสดาว่า "พระเจ้าข้า ท่านปิลินทวัจฉะ ย่อมร้องเรียกภิกษุทั้งหลาย ด้วยยวาทะว่าคนถ่อย"
พระศาสดารับสั่งให้หาท่านมาแล้ว ตรัสถามว่า " ปิลินทวัจฉะ ได้ยินว่า เธอร้องเรียกภิกษุทั้งหลาย ด้วยวาทะว่าคนถ่อยจริงหรือ" เมื่อท่านกราบทูลว่า "อย่างนั้น พระเจ้าข้า" จึงทรงกระทำบุพเพนิวาส ของท่านปิลินทวัจฉะนั้นไว้ในพระหฤทัย แล้วตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่ายกโทษแก่ภิกษุชื่อปิลินทวัจฉะเลย ภิกษุทั้งหลาย วัจฉะหามี โทสะในภายใน ร้องเรียกภิกษุทั้งหลายด้วยวาทะว่า คนถ่อยไม่, ภิกษุทั้งหลาย ๕๐๐ ชาติของภิกษุชื่อวัจฉะไม่สับสนกัน ทั้งหมดนั้นเกิดแล้ว ในตระกูลพราหมณ์ ในภายหลัง วาทะคนถ่อยนั้น เธอร้องเรียกมาแล้ว ตลอดกาลนาน ถ้อยคำกระทบกระทั่งชนเหล่าอื่น อันเป็นคำระคายหู คำหยาบคายนั่นเทียว ชื่อว่าย่อมไม่มีแก่พระขีณาสพ เพราะว่าบุตรของ เรากล่าวอย่างนั้น ด้วยอำนาจแห่งความเคยชิน" เมื่อจะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
อกฺกกส วิญฺาปนึ คิรึ สจฺจ อุทีรเย ยาย นาภิสเช กญฺจิ ตมห พฺรูมิ พฺราหฺมณ
"ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่ระคายหู อันให้รู้ กันได้ เป็นคำจริง อันเป็นเหตุไม่ยังใครๆ ให้ขัดใจ เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์"
ที่มา ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น