อยู่ไปวันๆ

 
เมตตา
วันที่  7 มิ.ย. 2554
หมายเลข  18491
อ่าน  1,991

ท่องเที่ยวอยู่ในสังสารวัฏฏ์มาเนิ่นนาน เกิดมาก็เพื่อเห็น เพื่อได้ยิน ... ภพแล้ว ภพเล่าจวบจนทุกวันนี้ และต่อๆ ไปไม่มีที่สิ้นสุด อยู่ไปวันๆ ตามเหตุตามปัจจัย ชีวิต ก็คือ แต่ละขณะจิตที่เกิดขึ้นเห็น ได้ยิน ... และคิดนึก การคิดนึก ตรึกไปในกุศลบ้าง อกุศลบ้างก็เป็นปัจจัยให้กาย วาจาเป็นไปในทางกุศลหรืออกุศล อยู่ที่แต่ละบุคคลจะ เห็นประโยชน์ของการสะสมกุศลหรือไม่ และกุศลที่เลิศที่สุดก็คือ กุศลที่ประกอบด้วย ปัญญา ความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นอยู่ไปวันๆ เพื่อฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมบุญกุศลบารมีต่างๆ ไว้ คนพาลนั้นมีชีวิตอยู่ เพื่อลมหายใจเข้าออก กระทำแต่อกุศล โดยไม่รู้ว่าต้องได้รับผลของอกุศลมากมาย ... ตรงข้ามกับบัณฑิตผู้เห็นภัยในวัฏฏะ เห็นประโยชน์ของพระธรรม พระธรรมเท่านั้นที่จะ เป็นที่พึ่งได้

เกิดอยู่ในสังสารวัฏฏ์อันยาวนาน น่าเบื่อไหม? อยู่ไปวันๆ กำลังทำอะไรอยู่ อยู่เพื่อฟังพระธรรมพิจารณาธรรมให้เข้าใจ อบรมความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมตาม

ความเป็นจริง จนกว่ากิเลสทั้งหลายถูกประหาน (ละ) เป็นสมุจเฉท ไม่ต้องมาเกิดอีกหรือจะอยู่ไปวันๆ ด้วยความไม่รู้ อยู่เพื่อเพียงลมหายใจเข้าออก

ขออนุโมทนาค่ะ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
พรรณี
วันที่ 7 มิ.ย. 2554

ขออยู่ไปวันๆ เพื่อฟังพระธรรมให้เกิดความเข้าใจ เพื่อละอกุศลธรรมที่มีอยู่มากมายในแต่

ละวัน ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณเมตตา ที่กรุณาย้ำเตือนค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pamali
วันที่ 7 มิ.ย. 2554

ค่ะ ขออยู่ไปวันๆ เพื่อได้มีโอกาสได้ฟังพระธรรมเพื่อละคลายความไม่รู้ที่มีมากมาย เหมือนการจับด้ามมีด..อีกกี่แสนโกฎกัปป์ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 7 มิ.ย. 2554

ทุกชีวิต..อยู่ไปวันๆ ตามเหตุตามปัจจัย..การศึกษาพระธรรมทำให้รู้ว่าสาระที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร.และควรอยู่ไปวันๆ อย่างไร
ชนเหล่าใด รู้สิ่งเป็นสาระ โดยความเป็นสาระ และสิ่งไม่เป็นสาระโดยความไม่ เป็นสาระ ชนเหล่านั้น มีความดำริชอบเป็นโคจร ย่อมประสพสิ่งเป็นสาระ."อยู่ไปวันๆ อย่างมีสาระ..เพื่อเจริญปัญญาคะ ...เชิญคลิกอ่าน... ทุกวันนี้ท่านหาสาระ...อะไร เรื่องสญชัย [สิ่งเป็นสาระ]------------------------------------------------------------------------------------------------

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 7 มิ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น กว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่จะมีชีวิตอยู่ไปวันๆ อย่างทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่ยากมากเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ก็ยังแตกต่างกันตามการสะสมอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ผู้ที่มีโอกาสได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ปัญญาเจริญขึ้นนั้น มีน้อยมากทีเดียว ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ก็จะเป็นผู้ไม่รู้ต่อไป ไม่คุ้มค่ากับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งได้ยากแสนยาก แต่กลับไม่ได้สะสมปัญญา ก็จะทำให้ตายไปพร้อมกับความไม่รู้ และจะไม่รู้อีกต่อไปนานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ สะสมความเข้าใจที่ถูกต้องไปตามลำดับ ย่อมเป็นชีวิตที่คุ้มค่า เป็นชีวิตที่อยู่ไปวันๆ อย่างมีค่า เพราะฉะนั้นแล้ว วันๆ ซึ่งก็คือ ทุกๆ วัน จึงควรจะเป็นวันที่จะทำให้ตนเอง ได้เข้าใจธรรม มากยิ่งขึ้น ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาและทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 7 มิ.ย. 2554

เมื่อมีความเข้าใจธรรม.....

จากชีวิตที่เคยอยู่ไปวันๆ

ก็เปลี่ยนเป็นชีวิตที่อยู่อย่างมีเป้าหมายค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 7 มิ.ย. 2554

ขออนุโมทนาพี่เมตตาและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
SOAMUSA
วันที่ 8 มิ.ย. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

กราบขอบพระคุณ ธรรมะที่ทำให้พยายามละอกุศล

และศึกษาพระอภิธรรมอย่างจริงจังกว่าเดิมค่ะ

ขอความกรุณาช่วยอธิบายเรื่อง ภัยที่ท่องเที่ยวในวัฏฏ

เป็นภัยใหญ่ของสัตว์โลก ด้วยค่ะ

เคยฟังมาบ้างนิดหน่อยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
paderm
วันที่ 8 มิ.ย. 2554

เรียนความเห็นที่ 7 ครับ

สังสารวัฏฏ์เป็นภัยใหญ่ของสัตว์โลก เพราะสังสารวัฏฏ์คือการเกิดขึ้นของสภาพ

ธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม เกิดดับสืบต่อไปไม่สิ้นสุดและทำใ้ห้เกิดเมื่อมีการ

เกิดของนามธรรมและรูปธรรมแล้ว ก็ต้องมีการได้รับผลของกรรมที่ได้ทำมาที่เป็น

อกุศลกรรม ดังนั้นก็ต้องได้รับวิบากที่ไม่ดี แม้ในขณะที่เกิดที่เป็นปฏิสนธิจิตก็เกิดใน

ภพภูมิที่ไม่ดี มีนรก เป็นต้น และก็ต้องได้รับวิบากที่ไม่ดี ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย มี

การเห็นสิ่งทีไม่ดี ได้ยินสิ่งที่ไม่ดี ได้กลิ่นไม่ดี ลิ้มรสไม่ดี กระทบสัมผัสไม่ดีเพราะผล

ของกรรมไม่ดี ทีเ่ป็นวิบากจิตและเจตสิกให้ผลครับ ดังนั้นเพราะมีการเกิดขึ้นของ

สภาพธรรมและเกิดดับไปสืบต่อกันจึงเป็นสังสารวัฏฏ์ไม่สิ้นสุด และก็ต้องได้รับสิ่งที่

ไม่ดีมากมายเพราะยังมีขันธ์ 5 พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า เราไม่สรรเสริญการเกิดใน

ภพแม้เพียงเล็กน้อย คูถแม้เพียงเล็กน้อยย่อมเหม็นฉันใด แม้การเกิดเพียงเล็กน้อย

ก็ไม่ประเสริฐเลยครับ แม้พระพุทธเจ้้าในภพสุดท้ายยังต้องได้รับผลของกรรมที่ไม่ดี มี

ปวดหลัง ถ่ายเป็นโลหิต เป้นต้น

นี่คือภัยของสังสารวัฏฏ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เป็นผลของกรรม และภัยของสังสารวัฏฏ์

ต้นเหตุก็มาจากกิเลส ความไม่รู้ ความติดข้อง ังนั้นไม่ใช่แค่ทุกข์ทางกายเท่านั้น

ภัยคือ อกุศลก็ทำให้ทุกข์ทางใจมากมาย กายทนได้แต่ทุกข์ใจทนไมไ่ด้ ก็แสดงถึง

โทษของสังสารวัฏฏ์ ถ้าไม่มีการเกิด จะไม่มีการทุกข์ใจและทุกข์กายเลยครับ ดังนั้น

การท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏฏ์ของคนพาลย่อมไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่ยังมีความไม่รู้

และการท่องเที่ยวไปนั้นก็มีแต่สร้างเหตุใหม่ให้ต้อเกิดอยู่ร่ำไป และก็ต้องพบกับสิ่ง

ที่ไม่ดีทางตา..ทางกายมากมาย และก็ต้องทุกข์โทมนัสทางใจเพราะความไม่รู้ อันมี

การเกิด การท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏฏ์เป็นปัจจัยครับ ดังนั้นหนทางเดียวคือการอบรม

ปัญญารู้ความจริงของสภพาธรรมที่มีในขณะนี้

อภิธรรมคือสิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำววัน การศึกษาพระอภิธรรมจึงเพื่อเข้าใจความ

จริงในขณะนี้ครับ นี่คือจุดประสงค์ของการศึกษาที่ถูกต้องเพื่อละความยึดถือว่าไม่ใช่

เรา เพราะมีแต่ธรรมทีเ่ป็นอภิธรรมในชีวิตประจำวันครับ การเข้าใจอย่างนี้ย่อมละภัยใน

การท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏฏ์ได้ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
SOAMUSA
วันที่ 8 มิ.ย. 2554

สาธุค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ

การศึกษาพระอภิิธรรมจึงเพื่อเข้าใจความจริงในขณะนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 8 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
orawan.c
วันที่ 8 มิ.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 8 มิ.ย. 2554

อ่านทุกความคิดเห็นแล้วก็ได้ความรู้ ได้ความคิดที่ดีเพิ่มขึ้น ขออนุโมทนาครับ

แต่มาฉุกคิด คำว่า อยู่ไปวันๆ ในความรู้สึกของคนทั่วไป มักมีนัยไปในทางไม่

ค่อยดี คือหมายถึงเป็นคนไม่สนใจ ไม่ไยดี ไม่เอาอะไรทั้งนั้น คือดูเป็นคนเกียจคร้าน

ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ยิ่งฟังธรรม เจริญอบรมสติด้วยแล้ว ยิ่งไม่รับและไม่รู้เอาเลย นี่คือ

อยู่ไปวันๆ ตามความรู้สึกความเข้าใจของคนทั่วไป

ถ้าอยู่เพื่อฟังธรรม อยู่เพื่อเจริญสติ อยู่เพื่ออบรมปัญญาให้ประจักษ์สัจธรรม

กระผมว่าอยู่ไปวันๆ ก็นานเนิ่นเกินไป ต้อง อยู่ไปชั่วขณะหนึ่ง ชั่วขณะหนึ่ง จึงจะ

ตรงกับความเป็นจริงนะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ !

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วิริยะ
วันที่ 9 มิ.ย. 2554
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
kinder
วันที่ 9 มิ.ย. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Thirachat.P
วันที่ 12 มิ.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ