ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๐๔
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมในแต่ละครั้งรวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔]
[๑] ทุกชีวิต ต้องประสบกับขึ้นๆ ลงๆ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ก็มาจากเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้ว ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็มักจะคิดว่าทำไมจะต้องเป็นเราแต่เมื่อศึกษาธรรมเข้าใจแล้ว จะเข้าใจว่า เพราะต้องเป็นเรา จะเป็นคนอื่นไม่ได้ ในเมื่อเป็นกรรมที่เราได้กระทำมา
[๒] พึงเว้นคำพูดที่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเพราะไม่ใช่คำหยาบ แต่แม้กระนั้น ก็จะต้องเป็นผู้ที่มีความละเอียดด้วย ก่อนที่กิเลสจะหมดไปได้
[๓] แม้ในการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ในขณะนั้นบางคนก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีหิริโอตตัปปะ แต่บางคนก็เป็นผู้มีอุปนิสัยที่มักจะช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ก็เพราะมีหิริโอตตัปปะละอายต่ออกุศล
[๔] ชีวิตมนุษย์เป็นชีวิตที่เล็กน้อย สั้นมาก เมื่อเป็นชีวิตที่เล็กน้อยและสั้นอย่างนี้ ก็ควรจะหาประโยชน์จากชีวิตนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และที่จะเป็นชีวิตที่มีค่าได้ก็ด้วยการเจริญกุศล ขัดเกลา เพื่อดับกิเลสเป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด)
[๕] ในขณะนี้กำลังมีชีวิตอยู่ ก็ควรที่จะรู้ความจริงว่า วันหนึ่งเราก็จะต้องตาย ตายเหมือนกับคนที่ตายไปแล้วนั่นแหละ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง แต่ในขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ ก็ควรที่จะได้พิจารณาว่า การที่จะจากโลกนี้ไปนั้น จะจากไปด้วยปัญญาที่อบรมจนกระทั่งเจริญขึ้น หรือว่า จะจากไปโดยที่ว่าไม่สนใจฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาเลย ถ้าหากไม่สนใจที่จะเข้าใจพระธรรม ก็จะจากโลกนี้ไปด้วยความมัวเมา เพลิดเพลิน ในลาภ ยศ เป็นต้น ซึ่งก็เพียงชั่วขณะจิต จะไม่ติดตามไปถึงโลกหน้าได้เลย ขณะนี้ทุกคนมีร่างกายซึ่งเป็นที่รักที่พอใจ อีกไม่นานร่างกายนี้ก็จะเน่าเปื่อยผุพังแล้วชาติหน้าจะมีรูปร่างกายจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับว่า การกระทำทางกาย ทางวาจา เป็นไปด้วยอำนาจของอกุศลที่ครอบงำย่ำยีจิตใจหรือไม่ ที่จะทำให้ร่างกายในชาติต่อไป พิกลพิการ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไม่น่าดู หรือจนกระทั่งทำให้ถึงความเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์นรก เป็นสัตว์ดิรัจฉาน ซึ่งก็เป็นเรื่องของขณะจิตที่เร็วมาก เร็วยิ่งกว่ากระพริบตาก็สามารถเปลี่ยนสภาพความเป็นบุคคลนี้ทั้งหมด จากการเป็นมนุษย์ในสุคติภูมิ ไปสู่อบายภูมิได้ ถ้าเป็นผู้ตั้งอยู่ในความประมาทมัวเมา กุศลทุกประเภท เป็นทรัพย์ที่มั่นคง โจรลักไปไม่ได้ และจะเป็นที่พึ่งในชีวิตได้อย่างแท้จริง
[๖] ธรรมดาของคนที่มีกิเลส และพอกพูนกิเลสไว้มากๆ นั้น ย่อมหมิ่นเหม่ต่อการกระทำทุจริตกรรม อันเป็นการเบียดเบียนตนและผู้อื่นให้เดือดร้อน
[๗] เมตตา ไม่ได้ทำร้ายใจเรา แล้วก็ไม่ทำร้ายผู้อื่นด้วย
[๘] บุคคลจะสะอาดหมดจดจากบาปได้ ก็เพราะความประพฤติทางกาย วาจา ใจสะอาดเท่านั้น
[๙] พระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่ได้ทรงปรารถนาต้องการอะไรจากผู้ฟัง นอกจากประโยชน์ของผู้ฟังที่จะเข้าใจสภาพธรรมได้ถูกต้องยิ่งขึ้น
[๑๐] การดูหมิ่น ดูถูก และหวังร้ายต่อผู้อื่น นั้น เป็นอกุศลธรรม ถ้าตรวจดูในคำสอนทางพระพุทธศาสนาแล้ว ไม่พบเลยว่ามีการสนับสนุนส่งเสริมให้คนเกิดอกุศลจิต
[๑๑] จะยากอะไรกับการฟังพระธรรม? จนอะไรได้ แต่ขออย่าได้จนศรัทธา ศรัทธาเป็นทรัพย์อันประเสริฐ เป็นเพื่อนของผู้ที่จะไปสู่สวรรค์ และ เป็นเพื่อนของผู้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม บุคคลผู้ไม่มีศรัทธา แม้เสียงพระธรรมจะอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่ฟัง ปัญญาต้องอบรมเจริญขึ้น โดยไม่ต้องรอคอยกาลเวลา เพราะถ้ารอคอยอาจจะไม่มีโอกาสได้อบรมก็ได้
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๓ ได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในธรรมเตือนใจดีๆ ครับ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
"พึงเว้นคำพูดที่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะไม่ใช่คำหยาบ แต่แม้กระนั้น ก็จะต้องเป็นผู้ที่มีความละเอียดด้วย ก่อนที่กิเลสจะหมดไปได้"
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ค่ะ
ทุกชีวิต ต้องประสบกับขึ้นๆ ลงๆ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ก็มาจากเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้ว ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็มักจะคิดว่าทำไมจะต้องเป็นเรา แต่เมื่อศึกษาธรรมเข้าใจแล้ว จะเข้าใจว่า เพราะต้องเป็นเรา จะเป็นคนอื่นไม่ได้ ในเมื่อเป็นกรรมที่เราได้กระทำมา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาอ่าน ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม แล้วทำให้เข้าใจชีวิตตามความเป็นจริงมากขึ้น ค่ะ ขออนุญาต อ.คำปั่น ช่วยแปลความหมายของ ปัญญ์ธรรม ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ. คำปั่น ค่ะ
ปัญญาเท่านั้นทีสามารถรู้ว่าขณะนั้นเป็นกุศล หรือ เป็นอกุศลค่ะ
เรียน ความคิดเห็นที่ ๖ (พี่เมตตา) ครับ
ปัญญ์ธรรม เป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า ปันธรรม
สำหรับ คำว่า ปัญญ์ธรรม ที่เป็นชื่อของกระทู้นี้ เป็นคำที่ผมนำมาจากภาษาบาลี ๒ คำ ด้วยกัน คือ ปญฺญา กับ ธมฺม เมื่อรวบรัดให้กระทัดรัด ก็เหลือเพียง ปัญญ์ธรรม หมายถึง ความเข้าใจธรรม นั่นเองดังที่กระผมเขียนไว้ตอนเกริ่นนำทุกครั้ง คือ "...ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมในแต่ละครั้งรวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง..."
ขออนุโมทนาครับ
เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง..."
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ. คำปั่น ด้วยค่ะ ...
..."ปัญญ์ธรรม" ... "ปันธรรม"...
ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของคุณคำปั่นครับ
ชีวิตมนุษย์เป็นชีวิตที่เล็กน้อย สั้นมาก เมื่อเป็นชีวิตที่เล็กน้อยและสั้นอย่างนี้ ก็ควรจะหาประโยชน์จากชีวิตนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และที่จะเป็นชีวิตที่มีค่าได้ก็ด้วยการเจริญกุศล ขัดเกลา เพื่อดับกิเลสเป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด)
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ