ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๑๒
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมในแต่ละครั้งรวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๒]
[1] ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดก็ไม่พ้น เพราะสัตว์โลกถูกความตายครอบงำไว้ ตายแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง การเป็นคนดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ สำคัญที่สุด
[2] กุศลไม่ใช่มีเฉพาะทานอย่างเดียว โดยมากคนมักคิดว่า กุศล ได้แก่ ทาน คือ การให้วัตถุที่เป็นประโยชน์แก่ผู้รับ คิดเท่านี้ ว่า เป็นกุศล แต่ลืมกุศลประการอื่น แม้ไม่มีเงินทอง ก็สามารถที่จะกระทำได้ เช่น มีความรู้สึกเป็นมิตรไมตรีกับบุคคลอื่น มีคำพูดที่อ่อนหวานด้วยใจจริง ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ไม่ดูถูก ไม่ดูหมิ่น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ในขณะนั้นก็เป็นกุศล หรือ แม้กระทั่งในขณะที่ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจ ก็เป็นกุศลแล้ว และเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา อีกด้วย
[3] ในขณะใดที่โทสะเกิด เพราะโกรธคนอื่น ขณะนั้น ไม่สงบ ในทางตรงกันข้าม ถ้าขณะนั้นพิจารณาบุคคลอื่นในแง่ที่จะทำให้เกิดเมตตา ก็ย่อมจะสงบ สงบทันที เพราะในขณะที่มีเมตตานั้น ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ ไม่ต้องไปเสียเวลารอคอยเลย ทันทีที่กุศลจิตเกิด ขณะนั้นสงบ
[4] ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม เริ่มตั้งแต่หลังจากทรงตรัสรู้ใหม่ๆ ตราบจนกระทั่งจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ผู้ที่เป็นพุทธบริษัท ก็ติดตามฟังเรื่องของสภาพธรรม ก็เพียงเพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือ เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมี กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่นเลย
[5] ถ้ารักตัวเองแล้ว จะกระทำอกุศลกรรมทำไม?
[6] เลวลง คือ มีกิเลสเพิ่มขึ้น
[7] (เราคิดว่า) เขาชังเรา แต่เราไม่ชังเขาได้ไหม? สำคัญที่เรา ไม่ใช่สำคัญที่เขา กุศลเป็นประโยชน์ อกุศลเป็นโทษ
[8] ขณะที่โกรธคนอื่นนั้น ความโกรธอยู่ที่ใคร ไม่ได้อยู่ที่คนอื่นเลย อยู่ที่ตัวเราเองเท่านั้น จะหอบไปเยอะๆ หรือจะละคลาย?
[9] สำหรับผู้มีปัญญา ท่านจะพิจารณาชีวิตของตนเองในชาติหนึ่งๆ ได้ว่า ทุกสถานการณ์ ต้องมีความอดทนอย่างมาก อดทนที่จะไม่เศร้าโศก อดทนที่จะไม่ขุ่นเคืองใจ อดทนที่จะไม่เสียใจ ไม่น้อยใจในการกระทำในคำพูดของบุคคลอื่นในทุกสถานการณ์
[10] ฟังธรรมให้เข้าใจว่าเป็นธรรม เพื่อละคลายความไม่รู้ เพื่อละคลายการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล
[11] ถ้ามีปัญญามากขึ้น ก็จะทำให้มีความดีมากขึ้น เสียสละมากขึ้น แล้วในที่สุดก็จะสามารถสละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคลได้
[12] การเคารพบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสูงสุด คือ การฟังพระธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาเพื่อทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วทรงอนุเคราะห์ให้พุทธบริษัทได้เข้าใจถูกเห็นถูกด้วย ดังนั้น ผู้ที่เคารพบูชาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมจะเป็นผู้ไม่ประมาทในพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง
[13] การได้ฟังพระธรรม เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ประเสริฐกว่าการได้ลาภใดๆ ทั้งสิ้น เพราะลาภอื่น ทำให้เกิดความติดข้องยินดีพอใจ แต่ลาภ คือ การได้ฟังพระธรรม นี้ ทำให้เกิดปัญญา ทำให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูก
[14] ถ้าเริ่มฟังจริงๆ ตั้งใจฟังจริงๆ ไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจ
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๑๑ ได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๑
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ.
สำหรับผู้มีปัญญา ท่านจะพิจารณาชีวิตของตนเองในชาติหนึ่งๆ ได้ว่า ทุกสถานการณ์ ต้องมีความอดทนอย่างมาก อดทนที่จะไม่เศร้าโศก อดทนที่จะไม่ขุ่นเคืองใจ อดทนที่จะไม่เสียใจ ไม่น้อยใจในการกระทำในคำพูดของบุคคลอื่นในทุกสถานการณ์
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิต อ.คำปั่น
ที่ได้ปัญญ์ธรรมที่มีค่ายิ่ง ณ. กาลครั้งหนึ่งในสังสารวัฏฏ์ที่หาได้ยาก ที่ได้กัลยาณมิตรที่คอยเกื้อกูลกันในทางธรรม เพื่อความเข้าใจธรรม
"การได้ฟังพระธรรม เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ประเสริฐกว่าการได้ลาภใดๆ ทั้งสิ้น เพราะลาภอื่น ทำให้เกิดความติดข้องยินดีพอใจ แต่ลาภ คือ การได้ฟังพระธรรม นี้ ทำให้เกิดปัญญา ทำให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูก"
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ถ้ามีปัญญามากขึ้น ก็จะทำให้มีความดีมากขึ้น เสียสละมากขึ้น แล้วในที่สุดก็จะสามารถสละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคลได้
ขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ