เกิดมาผิดเพศ [เกย์ กระเทย] ?

 
lovedhamma
วันที่  17 ม.ค. 2555
หมายเลข  20383
อ่าน  6,286

การที่คนๆ หนึ่ง เกิดมามีจิตใจที่จะชอบหรือไม่ชอบจะทำตัว ... ให้เป็นเพศใดเพศหนึ่งโดยตรง * * ทั้งๆ ที่ ถ้ามันเป็นสิ่งที่ผิดกับเพศของตน ก็รู้ แต่ก็มีใจที่จะฝักใฝ่อยากทำโดยที่แก้ไม่ได้เลย แบบนี้ ... มันคือ อุปนิสัยที่สะสมมา หรือเป็นเพราะกรรมล่วงศีลข้อกาเม บ้างว่า อิตถีภาวรูปหรือปุริสภาวรูปไม่สมบูรณ์ ความจริงแล้วที่ถูกต้องเป็นมาอย่างไรครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 17 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งมาก เมื่อเป็นธรรมแล้ว ก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นแต่เพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้น แล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน

จากประเด็นคำถาม นั้น ควรที่จะได้แยกแยะระหว่างกะเทยจริงๆ กับ กะเทยที่เข้าใจกันในสังคมไทยปัจจุบัน ตามความเป็นจริงกะเทยจริงๆ ในพระพุทธศาสนา อันเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น คือ เป็นผู้ที่ไม่มีเพศ เลย คือ ไม่มีปุริสภาวรูป หรือ อิตถีภาวรูป นี้คือ กะเทย (บัณเฑาะก์) จริงๆ ตามคำสอนในพระพุทธศาสนา เป็นผลมาจากการที่ได้กระทำการล่วงศีลข้อที่ ๓ คือ การประพฤติผิดในกาม เมื่อเกิดในนรกแล้ว พอพ้นจากนรกแล้ว ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็ทำให้เป็นผู้ไม่มีปุริสภาวรูปหรืออิตถีภาวรูปเลย ซึ่งย่อมเกิดจากเหตุปัจจัยคืออกุศลกรรมที่ได้กระทำแล้ว นั่นเอง

แต่ถ้าเป็นผู้ที่เกิดมาเป็นชาย แล้ว แต่มีความชอบที่ไม่เหมือนกับผู้ชายทั่วๆ ไป คือ ยังมีความชอบในความเป็นชายด้วยกัน จะเรียกว่ากะเทย เกย์ หรือ ตุ๊ต ก็ตามแต่ นี้ไม่ใช่ผลของกรรม แต่เป็นผลของการสะสม ที่เคยเกิดเป็นหญิงติดต่อกันมาหลายชาติ สะสมในความชอบตามที่ผู้หญิงเป็น คือ มีความชอบในความเป็นชาย ดังนั้น เมื่อเกิดมาเป็นผู้ชายแล้วก็จริง แต่เพราะอัธยาศัยที่สะสมมาที่จะชอบอย่างที่ตนเองเคยชอบ เหมือนอย่างที่เคยเกิดเป็นหญิงที่ชอบผู้ชาย เมื่อเกิดมาเป็นผู้ชายในชาตินี้ จึงมีความชอบผู้ชายด้วยกัน เพราะได้เคยสะสมความชอบอย่างนี้มาแล้วนั่นเอง ทั้งหมดนั้นไม่พ้นไปจากความเป็นไปของธรรมเลย มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปเท่านั้นจริงๆ ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความโดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อนี้ ครับ

ผลกรรมแต่ชาติที่แล้ว

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
หลานตาจอน
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เซจาน้อย
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ผิน
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tanakase
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 20 ม.ค. 2555

วิบากแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียด แม้แต่พระพุทธองค์ก็ยังได้ทรงตรัสไว้ว่าเป็น อจินไตย คือ เรื่องที่ไม่ควรคิด (เพราะเกินวิสัย)

สำหรับการล่วงทุจริตกรรมในศีลข้อที่ ๓ ใช่ว่าทุกคนจะได้รับผลของกรรมเหมือนๆ กันหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความพยายาม กำลังของกิเลส คุณธรรม ของผู้ที่ถูกล่วงละเมิด ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อคนๆ นั้นและคนอื่นๆ จำนวนครั้งที่ ที่มีการก้าวล่วง ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดจะประมวลมาเป็นผลของกรรม การล่วงศีลข้อ ๓ นั้น ครอบคลุมเรื่องการประพฤติ "ผิดในกาม" ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประพฤตินอกใจ กัน การทำให้หญิงตั้งครรภ์แล้วไม่รับผิดชอบ การหลอกลวงให้ค้าประเวณี การข่มขืน กระทำชำเรา เป็นต้น

กรรมที่ทำแล้วย่อมมีทางที่จะให้ผลเสมอ ถ้าให้ผลในปฏิสนธิกาลไม่ได้ ก็จะให้ผล ในปวัตติกาล (หลังจากที่เกิดแล้ว) ค่ะ

จากความเห็นที่กล่าวว่า กระเทยเป็นผลของการเกิดเป็นหญิงติดต่อกันมาหลายชาติ ก็คงสรุปว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการกลับเพศมาเกิดมากที่สุด และยุคนี้คงเป็น ยุคของการกลับเพศมาเกิดเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกนะคะ

เคยมีชาวต่างชาติเปรยให้ฟังว่า "กระเทยที่เห็นที่เมืองไทยเพียงวันเดียวยังมากกว่า กระเทยที่เคยเห็นมาชั่วชีวิต" เคยสังเกตมั้ยคะว่าประเทศที่มีบทลงโทษทางกฏหมาย รุนแรง หรือประเทศที่คนส่วนใหญ่มียังศีลและจริยธรรมดีงาม ประเทศนั้นจะมีกระเทย ให้เห็นน้อยมากหรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ เหมือนกันกับยุคสมัยที่ศีลธรรมยังไม่เสื่อม

สำหรับเรื่องภาวรูป ท่านอธิบายว่าเป็นรูปที่รู้ได้ "ทางใจ" คือประมวลจากรูปร่าง สัณฐาน อาการ กิริยาที่ปรากฎก็บอกได้ว่าหญิงหรือชาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องส่องไป ถึงอวัยวะเพศ ดังนั้นจากความคิดเห็น (ตามลิงค์ข้างบน) ที่แสดงว่า "การไม่มีภาวรูปคือ ไม่มีอวัยวะเพศ" (สำหรับมนุษย์) ท่านใดพอจะยกข้อความจากพระไตรปิฎกมาขยายใน ส่วนนี้เพื่อความกระจ่าง จักขอบพระคุณยิ่งค่ะ

ขอสรุปสั้นๆ ว่า การเกิดเป็นเพศใดก็ไม่สำคัญเท่ากับการเกิดเป็นคนดี

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 23 ม.ค. 2555

การเกิดเป็นมนุษย์เกิดเพราะผลของกุศลกรรมไม่ว่าจะเป็นกระเทย เกย์ ตุ๊ด lb.. (เกิดมาผิด เพศ) อดีตแก้ไขไม่ได้ ชายหรือหญิงเป็นบัญญัติ ที่จริงไม่มีชายหรือหญิง มีแต่ปรมัติธรรม ๔ ไม่พอใจในเพศของตนหรือไม่พอใจในความผิดเพศเป็นอกุศลจิตไม่เกิดประโยชน์ การศึกษาเพื่อความเข้าใจธรรม ไม่ได้ขึ้นกับเพศหรือผิดเพศ เป็นการสะสมปัญญาเป็นการสร้างเหตุที่ดีย่อมให้ผลที่ดีในอนาคต

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ภพฺพาคมโน
วันที่ 23 ม.ค. 2555

การเกิดเป็นกระเทย เป็นผลของกาเมสุมิจฉาจารผลในปวัตติกาลของกาเมสุมิจฉาจาร มี ๑๑ ประการ คือ

๑. มีผู้เกลียดชังมาก

๒. มีผู้ปองร้ายมาก

๓. ขัดสนทรัพย์

๔. ยากจนอดอยาก

๕. เป็นหญิง

๖. เป็นกระเทย

๗. เป็นชายในตระกูลต่ำ

๘. ได้รับความอับอายเป็นอาจิณ

๙. ร่างกายไม่สมประกอบ

๑๐. มากไปด้วยความวิตกห่วงใย ซึมเศร้า

๑๑. พลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ