สมาคมมหาโพธิกับท่านอนาคาริกธรรมปาละ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประวัติมหาโพธิสมาคม

ผู้ก่อตั้ง มหาโพธิสมาคม คือ ท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ

มูลเหตุในการก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์ ก่อนหน้าที่ท่านธรรมปาละจะเดินทางมาที่พุทธคยานั้น ท่านได้อ่านบทความของท่านเซอร์ เอดวินด์ อาโนลด์ (Sir Edwin Arnold) ผู้เรียบเรียงหนังสือพุทธประวัติภาษาอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และกล่าวกันว่า เป็นพุทธประวัติฉบับภาษาอังกฤษที่มีความไพเราะ และน่าเลื่อมใสมาก คือ ประทีบแห่งทวีปเอเซีย ซึ่งข้อความในหนังสือแสดงถึง ความเสื่อมของพุทธสถาน มีพุทธคยา เป็นต้น ที่เสื่อมถอย และไม่มีใครเห็นคุณค่าเลย จึงทำให้ท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ สะดุด และคิดจะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในอินเดีย และฟื้นฟู พุทธสถาน ที่เป็น สังเวชนียสถานครับ

การก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์

ท่านอนาคาริก ธรรมปาละ ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของจังหวัดคยาเพื่อจุดประสงค์ที่จะฟื้นฟูพุทธคยา ได้รับการชี้แจง ว่าพระวิหารมหาโพธิพร้อมกับ รายได้ที่เกิดขึ้นนั้นตอนนี้กลายเป็นของมหันต์ แต่ว่าด้วยความช่วยเหลือของรัฐบาลก็อาจมีทางเป็นไปได้ที่จะขอซื้อพระวิหาร และบริเวณดังกล่าวจากมหันต์ (น่าแปลกอยู่เหมือนกัน ที่ว่าเราต้องขอซื้อ ขอมีกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ที่ควรจะเป็นของพวกเราชาวพุทธเอง)

ท่านธรรมปาละ ได้เดินทางกลับมายังโคลัมโบ ศรีลังกา เพื่อที่จะไปจัดตั้งสมาคมขึ้น เพื่อการนำพุทธคยากลับคืนมาสู่ชาวพุทธ และในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2434 พุทธสมาคม เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว ในชื่อว่า "พุทธคยามหาโพธิโซไซเอตี้" ก็ได้รับการตั้งขึ้น ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศลังกา

มีท่านประธานนายกะ เอช. สุมังคลมหาเถระ เป็นนายกสมาคม พันเอกโอลคอตต์เป็นผู้อำนวยการ ท่านธัมมปาละเป็นเลขาธิการ นอกนี้ก็มีผู้แทนจากประเทศและกลุ่มชาวพุทธต่างๆ เข้าร่วม ในการก่อตั้งด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้แทนจากประเทศไทยของเราเข้าร่วมด้วย คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า จันทรทัตจุฑาธร (His Royal Highness Prince Chandradat Chudhadharn) ชื่อของสมาคมนี้ ต่อมาได้ตัดคำว่า พุทธคยาออก คงไว้แต่ มหาโพธิโซไซเอตี้ ดังในปัจจุบัน

จุดประสงค์ของสมาคมมหาโพธิ ที่ได้จัดตั้งขึ้นในคราวนั้น คือ

1. เพื่อสร้างวัดพระพุทธศาสนาและก่อตั้งพุทธวิทยาลัย กับส่งคณะพระภิกษุซึ่งเป็นผู้แทนของประเทศพระพุทธศาสนา คือ จีน ญี่ปุ่น ไทย เขมร พม่า ลังกา จิตตะกองเนปาล ธิเบต และอารกัน ไปประจำอยู่ ณ พุทธคยา

2. เพื่อจัดพิมพ์วรรณคดีพระพุทธศาสนาขึ้นในภาษาอังกฤษ และภาษาท้องถิ่นของอินเดีย

หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2435 สมาคมมหาโพธิ ก็ได้ย้ายจากโคลัมโบมาอยู่ที่กัลกัตตา ที่อินเดีย และได้ออกวารสารสมาคมมหาโพธิ (Mahabodhi Review) ซึ่งยังคงอยู่จนปัจจุบันนี้ถึง 111 ปี แล้ว และเป็นวารสารที่โด่งดังในทั้งตะวันออกและตะวันตก ในช่วงแรกๆ ว่ากันว่าท่านธรรมปาละและทีมงานต้องอดมื้อกินมื้อ เพื่อนำเงินไปซื้อแสตมป์มาส่งหนังสือกันทีเดียว

ในปี พ.ศ. 2443 (1900) เป็นปีที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์สำหรับการดำเนินการเพื่อฟื้นฟู พระพุทธศาสนา ในปีนี้มหาโพธิสมาคมได้เปิดสาขาขึ้น 2 แห่งที่มัทราสและกุสินาการ์ ในปีเดียวกันนั่นเองบัณฑิตอโยธยา ทาสาได้ก่อตั้งพุทธสมาคมแห่งอินเดียใต้ขึ้นมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองมัทราส

ปี พ.ศ. 2444 ท่านอนาคาริกะ ธรรมปาละ ได้ไปนมัสการสารนาทและจัดซื้อที่ดินที่สารนาท ต่อมาได้ก่อตั้งสารนาทเป็นศูนย์การศึกษาพระพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. 2460 ได้สถาปนาพุทธธรรมเพื่อสันติภาพและความมั่นคง เมื่อปี พ.ศ. 2463 ปี พ.ศ. 2470 ท่านได้ก่อตั้งมูลคันธกุฎีวิหาร ที่ สารนาถ เมืองพาราณสี และเริ่มก่อสร้างมูลคันธกุฎีวิหาร และแล้วเสร็จใน ปี พ.ศ. 2474 ซึ่งเป็นสถานที่ เก็บพระบรมสารีริกธาตุ และทางมูลนิธิ จะได้มีโอกาสสร้างที่ประดิษฐานครอบ ในชั้นที่ 3 ที่ มูลคันธกุฎี ที่สารนาถ ครับ

มูลคันธกุฎี สารนาถ

สำหรับ สำนักงานใหญ่ ของ มหาโพธิสมาคม อยู่ที่เมืองกัลกาตา ครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ผมเคยไปพักที่ "มหาโพธิ์สมาคม" ที่กัลกัตตาเมื่อปี 2529

ผมต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้เพื่อทำการวิจัยเรื่องการเผยแพร่พระศาสนาของท่านอนาคริก ธรรมปาละผมจะหาข้อมูลจากแหล่งไหนบ้างครับ ขอรายละเอียดด้วยครับ

ผมอยากศึกษาเรื่องของสมาคมมหาโพธิ์ของท่าน อนาคาริก ธรรมปาละผมจะหาข้อมูลได้จากที่ไหนบ้างครับ

ขอเชิญคลิกอ่าน ครับ ...

ท่านอนาคาริกธรรมปาละ

สด...จากสารนาท พาราณสี ประเทศอินเดีย ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗

กราบอนุโมทนาค่ะ