เรื่องพระนิพพาน
นิพพานเป็นอารมณ์ คืออย่างไร และผู้ที่ได้นิพพานมีขั้นตอนอย่างไร
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดขึ้นและดับไป ส่วนจิตเป็นสภาพธรรมี่มีจริง เป็นสภาพรู้ จิต เป็นสภาพธรรมที่รู้ได้ทุกอย่าง ทั้ง จิต เจตสิก รูป และนิพพาน รวมทั้งบัญญัติเรื่องราว จิตก็สามารถรู้ได้ แต่จิตที่จะรู้สภาพธรรมอะไรนั้น ก็ต้องเป็นจิตที่แตกต่างกันครับ
จิตที่มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ หรือ รู้นิพพานก็ต้องเป็น จิตขั้นสูง ที่เป็นจิตประกอบด้วยปัญญา โดยมากก็เป็นจิตระดับโลกุตตระ จึงจะรู้นิพพาน ได้ ดังนั้น พระอริยบุคลมีพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ สามารถรู้พระนิพพานได้ ถามว่าใครรู้ คือ จิตที่ประกอบด้วยปัญญา คือ โสดาปัตติมรรคจิต โสดาปัตติผลจิต สกทาคามีมรรคจิต สกทาคามิผลจิต อนาคามิมรรคจิต อนาคามิผลจิต อรหัตตมรรคจิต อรหัตถผลจิต เหล่านี้ เป็นจิตที่รู้พระนิพพาน จึงไม่ได้จำกัดเฉพาะ พระอรหันต์ที่รู้พระนิพพาน พระอริยบุคคล ขั้นอื่นก็รู้นิพพาน แต่ในสัจจะ เป็นจิต และ เจตสิกที่รู้นิพพาน ครับ
๒. ผู้ที่ได้นิพพานมีขั้นตอนอย่างไร
ขั้นตอนการรู้นิพพาน ก็คือ การถึงจิตระดับสูง มีมรรคจิต ผลจิต ได้ ก็ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมให้มีปัญญาเบื้องต้น เมื่อมีปัญญาเบื้องต้น ก็อบรมปัญญาไปเรื่อยๆ ปัญญาก็จะเจริญขึ้น จนถึงระดับจิตระดับโลกุตตระ ก็จะถึงมรรคจิต ที่มีพระนิพพานเป็นอารมณ์หรือรู้พระนิพพานได้นั่นเองครับ เริ่มจากการศึกษาพระธรรม ปัญญาจะเจริญและเป็นไปตามขั้นตอนของความเจริญของปัญญาเอง ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง แสดงถึงความเป็นจริงทั้งหมด เมื่อกล่าวถึงธรรมแล้ว ไม่พ้นไปจากนามธรรม และ รูปธรรม, สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่ใช่นามธรรมก็เป็นรูปธรรมทั้งหมด
นามธรรม แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือนามธรรมที่รู้อารมณ์ได้แก่ จิต และ เจตสิก และ นามธรรมที่ไม่รู้อารมณ์ ได้แก่พระนิพพาน ที่เป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิด ไม่ดับ แต่มีจริง พระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เท่านั้นที่ประจักษ์แจ้งพระนิพพานได้ ไม่ใช่เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้น หมายรวมถึงพระอริยบุคคลทุกขั้น
การเป็นพระอริยบุคคลประจักษ์แจ้งพระนิพพานได้นั้น เป็นได้ด้วยปัญญา และต้องเป็นปัญญาของแต่ละบุคคลจริงๆ ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องในหนทางที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์แห่งจิต คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น เมื่อสะสมปัญญาไปตามลำดับ เมื่อปัญญาคมกล้าขึ้น ก็เป็นเหตุให้มรรคจิต และผลจิต มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ได้ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...