ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สืบเนื่องจากวันที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะฯ
ได้เดินทางไปมอบผ้าพันคอให้แก่ทหารพราน ที่กรมทหารพรานที่ ๓๓ จังหวัดลำปาง
เมื่อวันอังคารที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา
ตามกระทู้ข่าวที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านสามารถคลิกชมที่นี่...
(ท่านอาจารย์ไปมอบผ้าพันคอให้แก่ทหารพรานที่ลำปาง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕)
ท่านอาจารย์และคณะ ได้เดินทางโดยเครื่องบินไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่
โดยมีชาวชมรมบ้านธัมมะ มศพ. จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนมาก มารอให้การต้อนรับ
ท่านอาจารย์และคณะ อย่างอบอุ่นยิ่ง พร้อมกันนั้นได้มีบางส่วนติดตามท่านอาจารย์
ไปร่วมเจริญกุศลด้วยการมอบผ้าพันคอแก่ทหารพราน ที่จังหวัดลำปางด้วย
ข้าพเจ้าได้ยินถึงความกระตือรือร้นของสหายธรรมที่เชียงใหม่ ในการใคร่ที่จะได้มีโอกาส
สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ ในตอนขากลับมารอขึ้นเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่
ข้าพเจ้าเข้าใจว่า ความคงทราบถึงท่านพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ซึ่งท่านเป็นเจ้าภาพ
ในการกราบเรียนเชิญท่านอาจารย์ เดินทางไปมอบผ้าพันคอแก่ทหารหาญในครั้งนี้
เมื่อตอนขากลับจากลำปางซึ่งเป็นเวลาราวบ่ายสามโมงแล้ว กำหนดการขึ้นเครื่อง
ราวห้าโมงสิบนาที ข้าพเจ้าและผู้ร่วมเดินทาง จึงสังเกตุได้ถึงขบวนรถที่มีรถนำขบวน
แล่นอย่างรวดเร็วมาก และ ไม่มีการติดสัญญานไฟแยกใดๆ เลย ทำให้ขบวนรถ
ถึงสนามบินเชียงใหม่ภายในหนึ่งชั่วโมง สิบห้านาทีเท่านั้น ทำให้ชาวเชียงใหม่
ซึ่งได้มารออยู่ในห้องวีไอพีของสนามบินอย่างพร้อมเพรียง มีเวลาถึงราวหนึ่งชั่วโมง
ที่จะได้มีโอกาส สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ สมเจตนาที่ทุกท่านคาดหวังไว้
ข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนาในความเมตตาของท่านสพรั่ง กัลยาณมิตร มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
และ ขอกราบอนุโมทนาในกุศลศรัทธาของทุกท่าน ที่ใคร่ที่จะมีโอกาสได้ฟังพระธรรม
ซึ่งแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นกาลเวลาที่ข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่า จะประทับอยู่ในใจ
ของชาวชมรมบ้านธัมมะ มศพ. เชียงใหม่ทุกท่าน และ แม้ข้าพเจ้าเอง ไปอีกแสนนาน
และ เพื่อให้ทุกท่าน ได้ร่วมอนุโมทนาในกุศลศรัทธาอันน่าปีติยิ่งนั้น ข้าพเจ้าย่อมไม่ลืม
ที่จะนำความการสนทนาสั้นๆ แต่มีความไพเราะยิ่ง ซึ่งท่านอาจารย์กล่าวไว้ในวันนั้น
มาฝากทุกท่านด้วย ดังนี้...
ท่านอาจารย์ (คนที่ถาม) เค้าบอกว่า ทำอะไรอยู่คะ? บอกเรียนธรรมะ
คนอื่น เป็นไงคะ? อนุโมทนา ใช่ไม๊คะ? (หัวเราะ)
แต่ถ้าบอกว่า กำลังฟัง หรือ กำลังศึกษาเรื่อง "เห็น" เรื่อง "ได้ยิน" คนนั้นจะแปลกใจ
เอ๊ะ !! คนนี้ พูดอะไร? ใช่ไม๊คะ ศึกษาเรื่องเห็น ศึกษาเรื่องได้ยิน แต่เรื่องเดียวกัน
ท่านผู้ฟัง แต่ฟังแล้ว เข้าใจกว่ากันเยอะ นะคะ ฟังแล้วเข้าใจกว่ากันเยอะ
ถ้าบอกว่า กำลังศึกษาธรรมอยู่ นะคะ
ท่านอาจารย์ ค่ะ ถูกต้อง (แต่) ยังต้องไปหาว่า ธรรมะ คือ อะไร?
แต่ถ้าบอกว่า...ศึกษา...สิ่งที่มี...เดี๋ยวนี้...
"เห็น"...เดี๋ยวนี้...
เราก็รู้ตรงเลย ไม่มีอะไรมากั้น แม้แต่คำว่า ธรรมะ ก็ไม่กั้น
ท่านผู้ฟัง คือ สิ่งที่กำลังปรากฏ ใช่ไม๊คะ?
ท่านอาจารย์ ค่ะ ถูกต้อง เดี๋ยวนี้...ค่ะ...
...ความจริง...เดี๋ยวนี้....
...ไม่ใช่เมื่อกี้นี้...
แล้ว..เดี๋ยวนี้......อะไร....ที่กำลังปรากฏ......???
รู้หรือ???
ถ้าไม่รู้ คือ ฟัง (ให้รู้)
แต่ไม่ต้องไปคิดเรื่องอื่น นะคะ
ไม่ต้องเอาชื่อโน่น...มาใส่...เอาชื่อนี่...มาใส่...
ไม่ต้อง...ค่ะ..
ถ้าเอามาใส่เมื่อไหร่ แปลว่า เราไม่ได้ฟัง สิ่งที่เรากำลังฟัง
แล้วเราจะเข้าใจไหม?
ถ้าเราไม่ได้ฟัง ให้เข้าใจ สิ่งที่กำลังฟัง
เพราะฉะนั้น ที่สำคัญที่สุด นะคะ ในพระไตรปิฎกเนี่ย แสดงเหตุว่า
แม้บุคคล ในครั้งพุทธกาล ฟังธรรมะด้วยกัน
แต่คนหนึ่ง ตั้งจิตไว้ไม่ชอบ
เห็นไม๊คะ?
แม้แต่การฟัง นี่ก็ไม่เหมือนกัน
คนหนึ่ง ตั้งจิตไว้ชอบ
อะไรตั้งล่ะคะ?
ไม่ใช่เรามาตั้งเอง
แต่....บุญ...ที่ได้ทำไว้...แต่ปางก่อน...
ท่านผู้ฟัง ที่สะสมมา ใช่ไม๊คะ? ท่านอาจารย์
ท่านอาจารย์ ค่ะ ที่ทำให้ ขณะนั้น ปัญญา เกิดกับกุศลจิตที่เข้าใจ
เพราะว่า ฟังแล้ว ไม่ใช่ว่า จะเข้าใจ ได้ทุกคน ใช่ไม๊คะ?
แต่ที่เข้าใจนี่ หมายความว่า เคยไตร่ตรอง เคยเป็นผู้ละเอียด เคยเป็นผู้ไม่รู้
และ พอได้ยิน ได้ฟัง สิ่งที่มีจริงๆ
ก็ค่อยๆ รู้ขึ้น
เพราะฉะนั้น แม้แต่การที่จะให้คนที่ฟัง "เข้าใจ"
ก็ต้องแล้วแต่บุญ ที่ทำไว้แต่ปางก่อน
ชาติหน้า มีแน่ๆ นะคะ
เพราะฉะนั้น ชาตินี้ กำลังเป็น ปางก่อน ของชาติหน้า
เราไม่ต้องถามใครเลย ว่าเราฟังธรรมะเข้าใจหรือเปล่า?
หรือว่า เข้าใจแค่ไหน? ใช่ไม๊คะ?
ถ้าเราฟังแล้ว เข้าใจขึ้น เข้าใจขึ้น ก็คือว่า ชาตินี้แหละ เป็นแต่ปางก่อน
พอถึงชาติหน้า ฟังอีก เราก็เข้าใจ
ตั้งจิตไว้ชอบ
รู้ว่า "ฟัง" เพื่อ "เข้าใจ" สิ่งที่กำลังฟัง
อย่าต่อเติม อย่าคิดเอง
ณ กาลครั้งหนึ่ง ท่ามกลางกัลยาณมิตร ที่ชื่นบานยิ่ง
ในดินแดนที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามของธรรมชาติ และ ผู้คนที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต
มีพระธรรม อันเปิดเผยแล้ว รุ่งเรืองแล้ว ด้วยเมตตาอันยิ่งของท่านผู้มีนามว่า
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ผู้ที่ได้กล่าวธรรมอันลึก ที่พระผู้มีพระภาคฯทรงแสดงไว้ดีแล้วนั้น แก่กลุ่มบุคคล
ผู้ที่ได้สั่งสมบุญไว้แต่ปางก่อน แม้ว่ากาละนั้น จะจบไปแล้ว หมดไปแล้วก็ตาม
แต่จะเป็น ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ยังคงฝังอยู่ในหทัยของทุกบุคคลในวันนั้น ไปแสนนาน
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณ ขออนุโมทนาในกุศลจิตคุณวันชัย และทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณ ขออนุโมทนาในกุศลจิตคุณวันชัย และทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
รู้ว่า "ฟัง" เพื่อ "เข้าใจ" สิ่งที่กำลังฟัง
"อย่าต่อเติม อย่าคิดเอง"
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่วันชัยและทุกๆ ท่านด้วยครับ