เลี้ยงหมูขายบาปไหม

 
ปภาโส
วันที่  14 พ.ค. 2555
หมายเลข  21114
อ่าน  11,679

มีอาชีพเลี้ยงหมูขาย จะเป็นบาปไหม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 14 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บาป ที่เป็นอกุศล มีหลายระดับ ทั้งที่ บาปที่เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่ได้ถึงการกระทำทางกาย วาจา เช่น ขณะที่โกรธในใจ ขณะที่เห็นสิ่งใด แล้วชอบ เป็นต้น และ บาปที่มีการกระทำทางกาย วาจา แต่ไม่ถึงขนาดล่วงศีล เช่น การทำร้ายผู้อื่น เป็นต้น และ บาปที่มีกำลัง ที่เป็นการกระทำบาปที่มีกำลัง เป็นอกุศลกรรม อันทำให้ ให้ผลเกิดในอบายภูมิ มี นรก เป็นต้นได้ ครับ

บาป ที่เป็นอกุศลกรรมที่ทำให้มีการล่วงศีล คือ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ พูดหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ และมีความเห็นผิด เป็นต้น ซึ่งสำหรับ การทำอาชีพเลี้ยงสุกร เพื่อขายเนื้อ คือ เลี้ยงสุกรให้คนอื่นจับไปฆ่าแล้วนำเนื้อมาขายนั้น เป็นอาชีพที่ไม่ดี เป็นมิจฉาอาชีวะ เป็นอาชีพที่เอื้อ หรือ ใกล้ต่อการทำบาป คือ การฆ่าสัตว์ได้ง่าย แม้ตนเองจะไม่ใช่เป็นผู้ที่ฆ่าเอง แต่ก็ไม่ควรประกอบอาชีพ ที่เป็นผู้เลี้ยงสัตว์ และส่งให้เขาไปฆ่า ครับ

ถามว่า ผิดศีลไหม หรือ เป็นบาปไหม

- ก็เป็นบาปโดยนัยที่เป็นอกุศลทางกาย แต่ยังไม่เป็นกรรมบถที่เป็นผู้ฆ่าเอง แต่ที่สำคัญ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า จะบาปไหม หรือ ไม่บาป แต่ถ้ารู้ว่าไม่บาปก็จะทำ หรือไม่ทำ ก็ไม่ใช่ แต่ที่สำคัญ อกุศลไม่ว่าจะน้อย หรือ มาก ก็ไม่ดีทั้งนั้น เปรียบเหมือนอุจจาระแม้เพียงเล็กน้อย ก็เหม็น ฉันใด อกุศลแม้เพียงเล็กน้อย ก็เหม็นฉันนั้น เปรียบเหมือน ไฟเพียงเล็กน้อย ย่อมมีโทษและทำให้เกิดกองไฟใหญ่ฉันใด เพราะ อกุศลบาปเพียงเล็กน้อย ย่อมเป็นปัจจัยให้ทำบาป มีการฆ่าสัตว์ได้ ฉันนั้น ครับ

ทุกชีวิตก็ต้องมีการทำงาน มีการประกอบอาชีพ ตามการสะสมมา และก็ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ก็แล้วแต่ว่า ใคร บุคคลใด จะคิดได้ว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควร ไม่มีใครเลย ที่เกิดมาแล้ว จะเป็นในการงาน แต่ละอย่างที่ไม่เคยทำทันที แต่ก็ต้องอาศัยการเริ่มต้น ฝึกฝนก่อนเสมอ เพราะฉะนั้น หากจะเริ่มต้นในสิ่งที่ดี ที่เป็นอาชีพที่จะไม่ทำให้เกิดการทำบาปได้ง่าย ย่อมเป็นการเริ่มต้นที่ประเสริฐ เพราะ ไม่มีใครเลยที่จะเป็นการงานแต่ละอย่างทันที แต่ทุกอย่าง สามารถฝึกฝนได้ เพียงแต่จะเริ่มหรือไม่ เท่านั้น ครับ

ประโยชน์ที่ได้จากการเริ่มใหม่ คือ ใจที่ตรง ใจที่ประเสริฐขึ้น นี่คือประโยชน์ คุ้มค่ากว่า รายได้ ที่ทำจากอาชีพเดิมๆ ที่เคยทำ เพราะ รายได้ ทรัพย์สินที่ได้มาจากอาชีพที่ผิด ไม่สามารถติดตามตัวไปได้ แต่ กุศล และ อกุศล ที่เกิดขึ้น ที่จะติดตามตัวไป

ดังนั้น ควรพิจารณาครับว่า ควรจะสะสม สิ่งที่ไม่ดี อาชีพที่ไม่ดี ต่อไป แต่เริ่มใหม่ด้วยใจที่เป็นกุศล ด้วยการกระทำสิ่งที่ดี

ชาตินี้ เริ่มสะสมสิ่งที่ดีในจิตใจใหม่ ชาติต่อไป ก็ได้สะสมสิ่งที่ดี เมื่อมีการสะสมจิตใจที่ดี ก็เป็นปัจจัยให้มีการทำกุศล และกุศลนั้นเอง จะนำความสุข ทั้งทรัพย์สิน และการเกิดในภพภูมิที่ดี มี มนุษย์ เป็นต้นได้ครับ แต่ ทรัพย์สิน เงินทอง และภพภูมิที่ดีไม่ได้เกิดจากการทำอกุศล สิ่งที่ไม่ดีเลย ครับ

เริ่มต้นใหม่ ด้วยการฝึก หาลู่ทางที่ดี อาชีพที่ดี ฝึกฝนได้ และไม่มีอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากมีปัญญา ก็สามารถแก้ไข หลีกเลี่ยงปัญหา และ เลือกอาชีพที่ดี โดยไม่เป็นอาชีพที่เอื้อต่อการทำบาปครั

ความสุขอยู่ที่ไหน ที่เงินทอง เพียงรายได้ หรือ ว่า อยู่ที่ใจ ที่ทำดี และ ทำสิ่งที่ดี นั่นคือ การทำกุศล และอาชีพที่ถูกต้องครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

อาชีพที่ไม่ควรประกอบ [วณิชชสูตร]

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
kinder
วันที่ 14 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 14 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชีวิตของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น ไม่ได้จบลงเพียงชาตินี้ชาติเดียว ยังต้องมีเกิดเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์อีกต่อไป เมื่อสร้างเหตุที่ไม่ดี กระทำอกุศลกรรมประการต่างๆ มากมาย ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้เกิดผลที่ไม่ดีในภายหน้า และเป็นผลที่เกิดกับตนเองเท่านั้นด้วย เพราะในเมื่อเป็นกรรมที่ตนเองกระทำไว้ ผลก็ต้องเกิดกับตนเองเท่านั้น เพราะสัตว์โลกมีกรรมเป็นของของตน เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรมองเห็นเพียงแค่ชาตินี้ชาติเดียว ควรอย่างยิ่งที่จะเป็นบัณฑิต ด้วยการสะสมกุศล ละเว้นในสิ่งที่ไม่ดี พร้อมทั้งศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก เพื่อเป็นที่พึ่งในโลกหน้า ในภายหน้า จนกว่าจะบรรลุถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลส ได้ในที่สุด ไม่ต้องมีการเกิดอีกเลยในสังสารวัฏฏ์

การที่จะเป็นผู้ละเว้นในสิ่งที่ไม่ดีได้นั้น ก็จะต้องเป็นผู้เห็นโทษภัยของอกุศล ซึ่งจะต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เมื่อเห็นโทษของอกุศล เห็นโทษของความเบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน เป็นต้น ก็มีเจตนาที่จะงดเว้นจากสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้น โดยที่ไม่มีการบังคับเลย เพราะธรรมเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร แต่เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย และอาชีพที่คฤหัสถ์ไม่ควรประกอบก็เช่นเดียวกัน เป็นอาชีพที่เป็นไปเพื่อความเดือดร้อนต่อผู้อื่น ต่อสัตว์อื่น ก็ไม่ควรที่จะประกอบ ไม่ควรที่จะทำ แต่ ... จะห้ามใครได้หรือไม่ว่า อย่าทำอาชีพนี้ อย่าประกอบอาชีพนี้ คำตอบ คือ ห้ามไม่ได้ เพราะเขาสะสมมาที่จะเป็นอย่างนั้น และที่สำคัญ ธรรมเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แต่ถ้าเหตุปัจจัยพร้อม เขามีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง มีความเข้าใจพระธรรมไปตามลำดับ ย่อมจะทำให้ค่อยๆ ละอาชีพที่ไม่ควรประกอบเหล่านั้น แล้วเป็นผู้ประกอบอาชีพที่สุจริต เลี้ยงชีพในทางที่ถูกต้องตรงตามพระธรรมคำสอนได้ในที่สุด คล้อยตามความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้น พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้วเท่านั้น ที่จะเป็นเครื่องเตือนที่ดี เป็นเหตุให้ดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกที่ควรยิ่งขึ้น ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 14 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทรัพย์สินที่ได้มาจากอาชีพที่ผิด

ไม่สามารถติดตามตัวไปได้ แต่ กุศล และ อกุศล ที่เกิดขึ้น ที่จะติดตามตัวไป

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม, อ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 15 พ.ค. 2555

ถ้าหากเราดำรงชีวิตอยู่ด้วยการค้าขายชีวิตผู้อื่น จะทำให้ใจเราเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส จริงอยู่ เราเลี้ยงสัตว์เพื่อขายเพื่อให้เขานำเป็นอาหาร เราไม่ได้ฆ่าเองก็จริง แต่เป็นอาชีพที่อุบาสกอุบาสิกาผู้หวังความเจริญในศาสนานี้ ไม่ควรทำ จริงแล้ว อาชีพอย่างอื่นที่พอจะดำรงชีวิตอยู่ได้ก็มีมากและไม่ทำให้เดือดร้อนใจในภายหลัง ...

(ข้อความจาก อ.prachern.s)

สัตว์ทุกประเภทรักสุขเกลียดทุกข์กลัวภัยจากความตาย ... หมูก็เช่นกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
jaturong
วันที่ 15 พ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 15 พ.ค. 2555

เลี้ยงหมูขาย บาปไม่ควรทำ ควรเปลี่ยนอาชีพอะไรก็ได้ที่สุจริต ถึงกำไรน้อยก็ไม่เป็นไร พอเลี้ยงชีพได้ก็พอแล้ว และ ศึกษาธรรมะด้วย เพราะทำให้ปัญญาเจริญ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Graabphra
วันที่ 15 พ.ค. 2555

ขอบพระคุณอาจารย์คำปั่นและอาจารย์ผเดิมมากครับ

และขออนุโมทนายินดีที่ได้ศึกษาธรรมมะที่งดงามและประเสริฐครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
intra
วันที่ 15 พ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ณัฐวุฒิ
วันที่ 15 พ.ค. 2555

เพื่อนผม เลี้ยงไก่ เพื่อขายไข่ เขาถามว่าเข้าข่าย อาชีพที่ไม่ควรประกอบไหมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 10 ครับ

การขายไข่ไก่ โดยการเลี้ยงไก่ ไม่จัดอยู่ใน อาชีพที่ไม่ควรประกอบ ๕ ประการ เพราะ ไม่ได้เลี้ยงเพื่อขายเนื้อ ซึ่งจะทำให้เอื้อต่อการฆ่าสัตว์ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เข้าใจ
วันที่ 17 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าหมูพูดได้ หมูคงจะบอกรักเคารพผู้ที่เลี้ยงเขาทุกวัน ช่างดีเหลือเกินที่นำอาหารมาให้กินอยู่เสมอๆ หมูเขาไม่เคยรู้ว่าคนเลี้ยงเขาทุกวันนั้นๆ เพราะอยากได้เงินเท่านั้นเอง ถ้าหมูรู้ได้เขาคงผิดหัวงและเสียใจมากนะครับ สัตว์ผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายนั้นน่าสงสารมากนะครับ เขาก็มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เหมือนอย่างเราๆ ทุกอย่าง เพราะโมหะแท้ๆ โลภะ โมหะ โทสะ ๓ สหายนี้น่ากลัวมากครับ ถ้าจะเลิกเลี้ยงได้ก็ขออนุโมทนาครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Tommy9
วันที่ 23 ส.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ