ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๓๙
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๙]
* บุคคลที่ได้ฟังพระธรรม ย่อมได้ลาภที่ประเสริฐที่จะทำให้ได้เข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งก็คือได้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ เมื่อฟังต่อไป ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น เกิดในภพหนึ่งภพใด เพราะเคยได้ฟังพระธรรมมาแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้ได้ฟังต่อ ได้อบรมเจริญปัญญาต่อไปอีก
* เมื่อไม่เข้าใจ ก็เหมือนอยู่ในความมืด ถ้ายังไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ยังเป็นผู้มีความต้องการที่จะอยู่ในความมืด (อวิชชา) ต่อไป
* จากมืดสนิท มาสู่ความสว่างทีละเล็กทีละน้อย ด้วยความเข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมโดยละเอียด เพื่อความ เข้าใจจริงๆ
* เพราะความไม่รู้ จึงทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปด้วยความไม่รู้ แต่ถ้ามีความรู้ คือ ปัญญาเพิ่มขึ้น จากที่ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรผิด อะไรถูก ก็จะรู้ตามความเป็น จริง ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ถูกที่ควร คล้อยตามปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ทำ ให้พ้นจากความประพฤติที่จะเป็นเหตุนำความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้ ได้
* จิตอยู่ในร่างกายหรือเปล่า? จิตเกิดแล้วดับแล้ว จะไปอยู่ที่ไหนได้ เพียงอาศัย วัตถุเป็นที่เกิด แล้วก็ดับไปเท่านั้น
* มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ โดยปราศจากปัจจัยบ้าง? ไม่มีเลย แม้แต่เห็นในขณะ นี้ เกิดเพราะปัจจัยหลายอย่าง มีเจตสิกเกิดร่วมด้วย มีสิ่งที่จิตรู้ มีที่เกิดของจิต มีกรรมเป็นปัจจัยให้จิตเห็นเกิดขึ้น
* สิ่งที่มีจริง ปัญญาสามารถรู้ได้จริงๆ แม้ยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหลือวิสัย เพราะบุคคลผู้ตรัสรู้นั้น มีแล้ว
* สิ่งที่มีจริง ไม่ว่าจะเป็นในกาละไหนๆ ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้
* ขณะนี้เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง โดยไม่ปะปนกัน ถ้าเข้าใจแล้ว ไม่มีทางที่จะผิดได้เลย แต่ถ้าไม่เข้าใจ ก็สับสน
* เพราะไม่รู้ จึงฟังพระธรรม นี้แหละ คือ การเพาะปัญญา การฟังพระธรรม เป็นเหตุให้ปัญญาเจริญขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
* หนทางที่ถูก จะต้องเป็นหนทางละ ละ ความเห็นผิด และความไม่รู้ เป็นต้น ศึกษาพระธรรมเพื่อละ ขาดคำนี้ไม่ได้
* สิ่งที่มีจริง พร้อมที่จะให้ปัญญารู้ตามความเป็นจริงได้เมื่อมีความเข้าใจพระธรรม เพิ่มขึ้นจากการได้ยินได้ฟัง
* ไม่รู้อะไรเลย แล้วจะไปดับกิเลสได้อย่างไร
* กิเลส ทำให้จิตใจไม่สงบ
* ธรรมเป็นแต่ละหนึ่งๆ หาความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่ได้ ถ้าไม่มีความเข้าใจจริงๆ จะละคลายการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล ไม่ได้เลย
* ทรัพย์สมบัติยังดูห่างไกลเกินไป แม้แต่ร่างกายเราตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก็ไม่สามารถติดตามไปในภพหน้าได้
* พระธรรมทุกคำ ควรเข้าใจ ไม่ควรคิดเอาเอง ต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ
* จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเกิดมาแล้ว ไม่ได้เข้าใจพระธรรมเลย
* ส่วนใหญ่แล้ว ละเลยประเพณีที่สำคัญ คือ ประเพณีการฟังพระธรรม สนทนาธรรม ประเพณีการฟังพระธรรม สนทนาธรรม มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เป็นประเพณีที่ควรรักษาไว้เป็นอย่างยิ่ง
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๓๘ ได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๘
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อไม่เข้าใจ ก็เหมือนอยู่ในความมืด ถ้ายังไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ยังเป็นผู้มีความต้องการที่จะอยู่ในความมืด (อวิชชา) ต่อไป
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตร่วมแบ่งปันธรรม ครับ
- ชีวิตของแต่ละท่าน ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงขณะนี้ ซึ่งก่อนจะถึงวัยนี้ก็ไม่รู้ว่าถึงวัยนี้ในลักษณะใด สำหรับพรุ่งนี้ก็มืดสนิท ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
- ถ้าศึกษาธรรมะก็เริ่มเข้าใจทุกอย่างตรงตามเป็นจริง แล้วจะรู้เหตุของความ ทุกข์ความสุข จนกระทั่งสามารถที่จะดับเหตุของความทุกข์ ความสุขนั้นได้ ตามพระธรรมที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม นี่คือ ประโยชน์ของ การฟังพระธรรม แล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้น
- ผู้อบรมเจริญปัญญาต้องเป็นผู้ที่ตรง ที่จะรู้ว่ายังมีกิเลสครบทุกอย่าง และยังไม่ ต้องดับโลภะให้หมดก่อน เนื่องจากผู้ที่เป็นปุถุชน จะข้ามไปสู่ความเป็น พระอรหันต์โดยทันทีไม่ได้ เพราะต้องดับโลภะที่เกิดร่วมกับสักกายทิฏฐิที่ยึด ถือสภาพธรรมที่เกิดร่วมกันเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล ให้หมดสิ้นเป็นสมุจเฉท ก่อน กิเลสอื่นๆ จึงจะดับหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทต่อไปตามลำดับ
- ในโลกนี้มีแต่พี่น้องเกิดสลับซับซ้อน ควรคิดเสียว่าคนที่ทำให้ท่านไม่พอ ใจในชาตินี้ เป็นคนที่ท่านเคยทำให้เขาไม่พอใจมาแล้วในชาติก่อน คนที่ ท่านขุ่น เคืองใจเป็นคนที่กำลังมีเวรต่อกัน จึงควรให้อภัย เมื่อไม่โกรธเคืองผู้ใด ก็หมดเวรในผู้นั้น ความโกรธจะบรรเทาลงได้ด้วยธรรมะที่ตรงกันข้ามกับโทสะ คือ เมตตา เมตตา คือ ความเป็นเพื่อนหรือความเป็นมิตร ไม่หวังร้าย
- ที่ว่ามีทุกข์มากนั้น ก็เพราะมีความเห็นผิดยึดว่าเป็นตัวตน ถ้าไม่มีความเห็นผิด ยึดว่าเป็นตัวตนแล้ว ก็จะละคลายทุกข์ลงไปมากทีเดียว ทุกข์ทั้งหลายจะละ คลายเบาบางลงได้เมื่อกิเลสดับไปตามลำดับ เมื่อกิเลสยังไม่ดับสิ้นไป การเกิด ก็ย่อมยังมีประมาณนับไม่ได้ ตราบใดที่ยังเกิด ตราบนั้นก็ยังมีทุกข์
ขอบพระคุณและขออนุโมทนา อ.คำปั่น และ อ.ผเดิม ครับ
ขอ ปันธรรม ด้วย
ผู้ฟังธรรมแล้วไม่ได้น้อมประพฤติปฏิบัติตามเหมือนคนตาบอดถือดวงไฟเปรียบเหมือนคนตาบอดถือดวงไฟ [อานนทเถรคาถา]
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอจารย์คำปั่น อาจารย์ผเดิม และทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง...
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณคำปั่นและทุกๆ ท่านครับ...
บุคคลที่ได้ฟังพระธรรม ย่อมได้ลาภที่ประเสริฐที่จะทำให้ได้เข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งก็คือได้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ เมื่อฟังต่อไป ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น เกิดในภพหนึ่งภพใด เพราะเคยได้ฟังพระธรรมมาแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้ได้ฟังต่อ ได้อบรมเจริญปัญญาต่อไปอีก น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ