อยากจะศึกษา ภาษาบาลี

 
nano16233
วันที่  26 ส.ค. 2555
หมายเลข  21619
อ่าน  1,529

อยากจะศึกษาพระไตรปิฎก ภาษาบาลี ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับในความเห็นส่วนตัวนั้น พระไตรปิฎกปัจจุบัน ก็ได้มีการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว ซึ่งเป็นภาษาที่เราสามารถอ่านเข้าใจได้ ควรที่จะได้พิจารณาว่า ปกติแล้วพวกเราเป็นคนไทย ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร ก็สามารถที่จะเข้าใจพระธรรม ด้วยภาษาของคนไทยได้ คือ ด้วยภาษาไทย เข้าใจพระธรรม ด้วยภาษาของตนๆ

ในขณะนี้พระไตรปิฎกและอรรถกถามีการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว ผู้มีศรัทธาก็สามารถศึกษาได้ และ ในการฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้งที่ท่านยกคำบาลีขึ้นมากล่าว ท่านก็จะอธิบายให้เข้าใจว่า มีความหมายว่าอย่างไร ในคำที่กล่าวนั้น ภาษาไทยใช้คำว่าอะไร เช่น ธมฺม เป็นภาษาบาลี แต่ภาษาไทยก็คือ สิ่งที่มีจริง เป็นต้น สำคัญอยู่ที่ความเข้าใจ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกไปทีละเล็ก ทีละน้อย ถ้าจะไปเริ่มต้นเรียนบาลี หรือ ภาษาต่างๆ ในพระไตรปิฎก ก็จะใช้เวลานาน กว่าจะแปลได้ ชีวิตในภพนี้ชาตินี้ เหลือไม่มากแล้วจริงๆ ควรที่จะมีเวลาให้กับการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวันให้มาก เพื่อประโยชน์ คือความเข้าใจถูก เห็นถูก ในสภาพธรรมตามความเป็นจริง

และความเข้าใจพระธรรมนี้สะสมอยู่ในจิตทุกขณะไม่สูญหายไปไหน และจะเป็นที่พึ่งในชีวิตได้อย่างแท้จริง ถ้าหากมีความสงสัยในคำใด ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ และในเว็บไซต์แห่งนี้ มีหมวด ธัมมนิทเทส ในกระดานสนทนา ที่อธิบายคำศัพท์แต่ละคำตรงตามสภาพธรรมที่เป็นจริง ผู้ศึกษาก็สามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมได้ และ ในเมนูของเว็บไซต์ ก็มี คำเดิมความเปลี่ยน ที่อธิบาย คำศัทพ์ธรรมให้เข้าใจถูกต้อง เกิดปัญญาของตนเองเป็นสำคัญ

ประโยชน์ของการศึกษาพระธรรม (การอ่านพระไตรปิฎก) คือ เพื่อให้เกิดกุศล เกิดศรัทธา อันเกิดจากความเข้าใจพระธรรม แต่ไม่ใช่เข้าใจภาษาต่างๆ ในพระไตรปิฎก เพราะพระธรรมทุกบท ทุกคำ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไร แต่ผู้อ่าน ผู้ที่ศึกษาเข้าใจตามภาษานั้น ก็เป็นไปเพี่อละคลายอกุศล เกิดกุศล เกิดปัญญา การศึกษาธรรมจึงไม่ใช่เรื่องวิชาการ แต่เป็นเรื่องของจิตใจ ที่เป็นไปเพื่อละคลายกิเลส ด้วยการฟังพระธรรม และเข้าใจตามภาษาของตน

ชีวิตที่เหลืออยู่ และเป็นประโยชน์ คือ ความเข้าใจ "พระธรรม และกุศลธรรม" การละคลายความไม่รู้ ที่เกิดจากการศึกษาพระธรรมที่เข้าใจ ตามภาษาของตน ครับ ชีวิตเหลือน้อยแล้ว สิ่งที่ควรสะสม คือ ปัญญา ความเข้าใจพระธรรม เพราะ การจะเรียนภาษา ไม่สามารถติดตัวไปได้ แต่ กุศลธรรม ความดี ปัญญา จะสะสมต่อไปในภพหน้า และ เป็นประโยชน์กับผู้นั้นเอง ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

ภาษาบาลีกับการศึกษาธรรม

ว่าด้วยเข้าใจธรรมด้วยภาษาใด ก็เข้าใจในภาษานั้น [อรณวิภังคสูตร]

ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดง เป็นเรื่องที่ละเอียด ยากที่จะเข้าใจ จึงต้องอาศัยการฟัง การศึกษาบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ เรียน ค่อยๆ รู้ เพราะพระธรรม เป็นสิ่งที่ควรศึกษาที่สุด เมื่อได้ฟังพระธรรมบ่อยๆ อ่านบ่อยๆ ก็จะค่อยๆ คุ้นกับคำที่เป็นภาษาบาลี พร้อมกับคำแปลที่ถูกต้อง,

การที่จะเข้าใจความจริงของสภาพธรรมได้ ไม่มีหนทางอื่น นอกจากฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ถ้าจะมองในอีกมุมหนึ่ง ควรเอาเวลา ที่คิดว่าจะไปเรียนภาษาบาลี (ซึ่งจะต้องใช้เวลามากทีเดียว) มาเป็นเวลาแห่งการฟังพระธรรม อ่านพระไตรปิฎก เพิ่มพูนความเข้าใจยิ่งขึ้น นี้คือ สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง เพราะเวลาของแต่ละบุคคลเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ไม่รู้ว่าจะละจากโลกนี้ไปเมื่อใด ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 27 ส.ค. 2555

ศึกษาภาษาธรรมะที่ทำให้เข้าใจความจริงดีกว่า ในพระไตรปิฎกทั้งหมดเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นธรรมะที่มีจริงขณะนี้ สามารถพิสูจน์ได้ จะปรากฏต่อเมื่อปัญญาเกิด ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
daris
วันที่ 27 ส.ค. 2555

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nano16233
วันที่ 28 ส.ค. 2555

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ประสาน
วันที่ 29 ส.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนา ครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ