มิลินทปัญหา และ กาลเวลา
กราบสวัสดีท่านวิทยากรและมิตรธรรมที่เคารพอีกครั้ง
มีเรื่องสงสัยอีกสองประการคือ
อยากทราบว่า มิลินทปัญหานี้ มีพุทธวัจนะกล่าวทำนายไว้จริง ในพระสุตตันตปิฎกไหม ที่ว่าเป็นพุทธวัจนะทำนายไว้ว่าในเวลากาลล่วงพระศาสนาไปได้ ๕๐๐ ปี จะถึงกาลอุบัติขึ้นของพระเจ้ามิลินท์ และพระนาคเสนก็จะจุติลงมาจากดาวดึงส์เพื่อมาแก้คำวิสัชนานั้น
แล้วถ้าไม่มี เรื่องมิลินทปัญหานี้ ถูกรจนาขึ้นเป็นคัมภีร์ (ใช่ไหม) ขึ้นในสมัยใด ในสมัยของพระเจ้ามิลินท์และพระนาคเสนเมื่อพุทธศักราช ๕๐๐ นั้นเลยหรือเปล่า หรือว่าหลังจากนั้นนานเท่าใด มีปรากฏหรือไม่
อีกคำถามหนึ่งคือ
ระยะเวลา
- อสงไขย
- กัป
- กัลป์
- มหากัป
- มหากัลป์
๕ อย่างนี้ อย่างไหนคือนานสุด อย่างไหนคือน้อยสุด แล้วถ้ามีคำเรียกไหนใช้เรียกระยะเวลาที่มากกว่า ๕ คำนี้อีกไหม มากกว่านี้ท่านมีเรียกว่าอะไรอีกหรือเปล่า หรือมีนานที่สุดคือ ๑ ใน ๕ นี้ที่มีคำระบุไว้
ขอบพระคุณครับ
อนึ่ง พระนาคเสนนี้ แต่เดิมตอนที่ท่านยังไม่จุติจากดาวดึงส์ ยังเป็นเสนเทวบุตรอยู่ ท่านบรรลุโสดาบันแล้วใช่หรือไม่ เพราะท่านกล่าวว่าท่านจะจุติสูงขึ้นไปแล้วนิพพานที่พรหมสุทธาวาสภูมิ
ก็แปลว่าท่านต้องได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุตั้งแต่สมัยนั้น ถ้าอย่างนั้น มีปรากฏในพระไตรปิฎกบ้างหรือเปล่าว่ามีเสนเทวบุตรมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์
กราบอนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อยากทราบว่า มิลินทปัญหานี้ มีพุทธวัจนะกล่าวทำนายไว้จริง ในพระสุตตันตปิฎกไหม ที่ว่าเป็นพุทธวัจนะทำนายไว้ว่าในเวลากาลล่วงพระศาสนาไปได้ ๕๐๐ ปี จะถึง กาลอุบัติขึ้นของพระเจ้ามิลินท์ และพระนาคเสนก็จะจุติลงมาจากดาวดึงส์เพื่อมาแก้ คำวิสัชนานั้น แล้วถ้าไม่มี เรื่องมิลินทปัญหานี้ ถูกรจนาขึ้นเป็นคัมภีร์ (ใช่ไหม) ขึ้นใน สมัยใด ในสมัยของพระเจ้ามิลินท์และพระนาคเสนเมื่อพุทธศักราช ๕๐๐ นั้นเลยหรือเปล่า หรือว่าหลังจากนั้นนานเท่าใด มีปรากฏหรือไม่
- ในพระไตรปิฎก โดยตรงไม่ได้แสดงถึงว่า จะมีพระนาคเสนและพระยามิลินท์มาแก้วาทะกัน แต่เป็นคัมภีร์ชั้นหลังจากพระไตรปิฎก (ประมาณปีพุทธศักราช ๕๐๐) รจนาขึ้น เพื่อชี้แจงข้อธรรม และ หลักธรรมต่างๆ ให้ชัดเจน แจ่มแจ้งโดยอาศัยเรื่องราวในอดีตที่พระนาคเสน แก้ปัญหาของพระเจ้ามิลินท์
เป็น "เรื่องของธรรมะ" ที่อธิบายข้อธรรม และ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา. แม้จะแต่งขึ้นหลังพุทธกาล แต่ก็เป็นที่ยอมรับและยกย่องกันทั่วไปว่า "มิลินทปัญหา" อธิบายพระธรรมวินัยได้อย่างลึกซึ้ง และ กระจ่างชัดเป็นการวินิจฉัย และ นำเสนอพระธรรมวินัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจสภาพธรรม โดยการอุปมา
นอกจากนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ผู้ทำสังคายนาพระธรรมวินัยในลังกา ราวปีพุทธศักราช ๑๐๐๐ และเป็นผู้รจนาอรรถกถา ตลอดจนคัมภีร์มากมาย ซึ่งใช้เป็นแนวทางในการอธิบายความ ในพระไตรปิฎก เช่น คัมภีร์วิสุทธิมรรค ก็ได้อ้างถึง "มิลินทปัญหา" เป็นหลักในการวินิจฉัยความในอรรถกถาของท่าน หลายแห่ง
อีกคำถามหนึ่งคือ ระยะเวลา - อสงไขย - กัป - กัลป์ - มหากัป - มหากัลป์ ๕ อย่างนี้ อย่างไหนคือนานสุด อย่างไหนคือน้อยสุด แล้วถ้ามี คำเรียกไหนใช้เรียกระยะเวลาที่มากกว่า ๕ คำนี้อีกไหม มากกว่านี้ท่านมีเรียกว่าอะไรอีกหรือเปล่า หรือมีนานที่สุดคือ ๑ ใน ๕ นี้ที่มีคำระบุไว้
- อสงไขย หมายถึง นับไม่ได้ ซึ่ง มี ๒ นัย คือ นับไม่ได้ด้วยจำนวนปี และ นับไม่ได้ด้วยจำนวน กัป คือ อสงไขยปี และ อสงไขยกัป
กัป หรือ กัลป์ คือ ระยะเวลาที่ยาวนานมากๆ นับปีไม่ได้ เปรียบเทียบเหมือน ศูนย์ ๑๔๐ ตัว ต่อท้ายเลขหนึ่ง เป็นเวลา ๑ กัป
ส่วน มหากัป ตามพระไตรปิฎก อธิบายก็เป็นระยะเวลายาวนาน มาก ดังข้อความที่ว่า
บทว่า มหากปฺปิโน ได้แก่มหากัป. ในบทนี้ท่านกล่าวว่า ทุกๆ ๑๐๐ ปี เอาปลายหญ้าคา จุ่มน้ำ นำออกไปครั้งละหยาด ๗ ครั้ง เมื่อกระทำให้น้ำหมดจากสระนั้นแล้ว จึงเรียกว่า ๑ มหากัป
ซึ่ง อสงไขยกัป คือ ระยะเวลาที่จำนวนกัปนับไม่ถ้วน จึงยาวนานที่สุด ครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
การวัดเวลา เป็นอสงไขย และ มหากัป
อนึ่ง พระนาคเสนนี้ แต่เดิมตอนที่ท่านยังไม่จุติจากดาวดึงส์ ยังเป็นเสนเทวบุตรอยู่ ท่านบรรลุโสดาบันแล้วใช่หรือไม่ เพราะท่านกล่าวว่าท่านจะจุติสูงขึ้นไป แล้วนิพพานที่พรหมสุทธาวาสภูมิ ก็แปลว่า ท่านต้องได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุตั้งแต่สมัยนั้น ถ้าอย่างนั้นมีปรากฏในพระไตรปิฎกบ้างหรือเปล่า ว่ามีเสนเทวบุตร มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ก่อนจะมาเป็นพระนาคเสน
-ท่านเกิดเป็นเทวดา ชื่อ มหาเสนเทวบุตร ยังเป็นปุถุชนอยู่ครับ พระอรหันต์ทั้งหลายไปขอร้องให้ท่านจุติ เพื่อมาเกิดบนโลกมนุษย์ แก้วาทะ ของ พระยามิลินท์ ซึ่งเมื่อเกิดเป็นพระนาคเสนในโลกนุษย์แล้ว จึงได้เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และ พระอรหันต์ เมื่อเป็นพระอรหันต์ที่โลกมนุษย์ย่อมปรินิพพานที่โลกมนุษย์ ไม่ไปเกิดที่ไหนอีก แม้ สุทธาวาสภูมิ ครับ
ดังข้อความที่แสดงดังต่อไปนี้
พระนาคเสนก็เรียนพระพุทธวจนะในสำนักพระธรรมรักขิตพร้อมด้วย พระติสสทัตตเถระ ท่องสังวัธยายทีฆนิกายด้วยนิเทศสำแดงเหมือนกันอันเดียวกัน ก็เรียนพระพุทธวจนะเป็นพยัญชนะนั้น ๓ เดือน เรียนพระพุทธวจนะ เป็นอรรถกถา ๓ เดือน สิริเป็น ๖ เดือนด้วยกัน จึงจบพระไตรปิฎกทั้งตัวและอรรถกถา
พระธรรมรักขิตเห็นพระนาคเสนเป็นปุถุชนอยู่ จึงมีเถรวาจาเป็นทางจะให้รู้โดยคำอุปมาว่าดูกรนาคเสนภิกษุ ธรรมดาว่านายโคบาลเลี้ยงโคไม่รู้จักรสนมโค ผู้อื่นได้ซึ่งน้ำนมโคกิน รู้จักรสน้ำนมโคว่ามันหวาน เสยฺยถาปิ แม้เปรียบปานฉันใด บุคคลที่เป็นปุถุชนหนาไปด้วยราคาทิกิเลส จะทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอันวิเศษนี้ มิได้รู้รสแห่งสามัญภาคี คือ มรรคผลอันเป็นส่วนควรแก่สมณะ เปรียบปานเหมือนนายโคบาลรับจ้างท่านเลี้ยงโค และ รีดนมโคขาย มิได้ชิมลิ้มเลียรสนมโคฉันใด ท่านจงรู้ด้วยประการดังนี้
พระนาคเสนได้ฟังคาถา อุปมา จึงมีวาจาว่า ภนเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดงดพระพุทธวจนะก่อน อนุสาสิต ที่พระผู้เป็นเจ้าสั่งสอน เอตฺตก กำหนดเท่านั้น ข้าพเจ้าจะผ่อนผันพิจารณาดู ให้รู้รสสามัญภาคี พระนาคเสนว่าเท่านี้แล้วก็ลามาสู่อาวาส ปัญญาฉลาดปลงลงในวิปัสสนากรรมฐาน ส่องปัญญาญาณไป ก็ได้สำเร็จในพระจตุราริยสัจ ก็ได้พระอรหัตตปฏิสัมภิทา เตเนว รตฺติภาเคน โดยภาคราตรีวันพระธรรมรักขิตเถระให้นัยนั้นแท้จริง
ปวี อุนนาทิ ขณะนั้นเกิดอัศจรรย์ แผ่นดินบันลือลั่นหวั่นไหวไปมา
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
กราบอนุโมทนาครับผม
มีความสงสัยขอเรียนถามเพิ่มครับ
ยุคสมัยที่มนุษย์มีอายุได้ อสงไขยหนึ่ง - อันนี้หมายถึงอสงไขยปี หรืออสงไขยกัปป์ครับ แล้วพระพรหม ถืออายุเป็นกัปป์ หรือมหากัปป์ ครับ เพราะบางแห่งก็ว่ากัปป์ บางแห่งก็ว่า มหากัปป์
แล้วที่ว่า ๑ กัปป์ นอกจากจะหมายถึง ระยะเวลาที่เทียบไว้ว่า นานกว่าเวลาที่นำผ้าทิพย์จากสวรรค์มาปัดเขาสิเนรุทุกๆ ๑๐๐ ปี จนกว่าเขาสิเนรุนั้นจะเรียบราบเสมอกัน ยังหมายถึงระยะเวลาตั้งแต่โลกเกิดจนถึงทำลายไปด้วยใช่ไหมครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 4 ครับ
ยุคสมัยที่มนุษย์มีอายุได้ อสงไขยหนึ่ง - อันนี้หมายถึงอสงไขยปี หรืออสงไขยกัปป์ครับ แล้วพระพรหม ถืออายุเป็นกัปป์ หรือมหากัปป์ ครับ เพราะบางแห่งก็ว่ากัปป์ บางแห่งก็ว่ามหากัปป์
- ยุคที่มนุษย์มีอายุ ๑ อสงไขย หมายถึง ๑ อสงไขยปี จำนวนปีที่นับไม่ได้ ครับ
แล้วพระพรหม ถืออายุเป็นกัปป์ หรือมหากัปป์ ครับ เพราะบางแห่งก็ว่ากัปป์ บางแห่ง ก็ว่ามหากัปป์
- โดยทั่วไปแล้วก็มุ่งหมายถึง คำว่า กัปป์ ครับ
แล้วที่ว่า ๑ กัปป์ นอกจากจะ หมายถึง ระยะเวลาที่เทียบไว้ว่า นานกว่าเวลาที่นำผ้าทิพย์จากสวรรค์มาปัดเขาสิเนรุทุกๆ ๑๐๐ ปี จนกว่าเขาสิเนรุนั้นจะเรียบราบเสมอกัน ยังหมายถึง ระยะเวลาตั้งแต่โลกเกิดจนถึงทำลายไปด้วยใช่ไหมครับ
- ถูกต้องครับ