การสะสมเมตตาต่างกับการอบรมเจริญเมตตา

 
เมตตา
วันที่  11 ธ.ค. 2555
หมายเลข  22155
อ่าน  1,387

ผู้ที่ไม่ใช่พุทธศาสนิกชน ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด เมื่อสะสมความมีเมตตา เมตตาก็เกิดได้ เพียงแต่เขาเหล่านั้นไม่เข้าใจว่าทุกอย่างที่มีจริงที่กำลังปรากฏ เป็นแต่เพียงสภาพธรรม การสะสมเมตตาต่างกับการอบรมเจริญเมตตา แม้บุคคลอื่น ศาสนาอื่น ก็สามารถให้ความเป็นเพื่อน ให้อภัย หวังดีแก่ผู้อื่นได้ นั่นเพราะเขาได้สะสมเมตตามา

เมตตาเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครจะจงใจให้เมตตาเกิดได้ ผู้ที่สะสมมาเมื่อมีเหตุให้เมตตาเกิด เมตตาก็เกิด เมตตาไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลใดๆ แต่ผู้ที่รู้จักตัวเองตามความเป็นจริงว่า เมตตาไม่ค่อยเกิดเลย ยากที่จะเมตตาผู้อื่นได้ แต่เมื่อได้ฟังพระธรรม เห็นโทษของอกุศลในวันหนึ่งๆ ซึ่งมีมากเหลือเกิน ขณะโกรธ หรือขุ่นเคืองใจ จิตขณะนั้นขาดเมตตา ขณะนั้นทำร้ายตัวเองและยังจะเป็นเหตุให้ทำร้ายผู้อื่นด้วย

การอบรมเจริญเมตตาในชีวิตประจำวัน จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ให้ความเป็นเพื่อน พร้อมที่จะเกื้อกูลประโยชน์ และให้อภัยแก่ผู้อื่นได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดไม่ได้เลยถ้าไม่ค่อยๆ อบรมให้มีขึ้น หากชาตินี้ยังเป็นผู้ไม่มีเมตตา ถ้าไม่อบรมสะสมอุปนิสัยเสียชาตินี้ ชาติหน้าก็จะมีเมตตาไม่ได้เลย การอบรมเจริญเมตตาด้วย

ความเข้าใจธรรม ซึ่งเป็นปัญญา เพราะศาสนาอื่นมีเมตตา แต่ด้วยความเป็นเรา ไม่ใช่ด้วยปัญญาความเข้าใจว่า แต่ละขณะของชีวิตเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครได้เลย และขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ควรที่จะกระทำความดี และอบรมความเข้าใจธรรม อบรมเจริญเมตตาให้มีเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวันความเข้าใจธรรมและเมตตาก็ไม่สูญหายไปไหน สามารถมีอัธยาศัยที่ดีงามเพิ่มขึ้นในภพชาติหน้าได้

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
bsomsuda
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

" ... ศาสนาอื่นมีเมตตาแต่ด้วยความเป็นเรา ไม่ใช่ด้วยปัญญาความเข้าใจว่า

แต่ละขณะของชีวิตเป็นเพียงสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครได้เลย ... "

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Noparat
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ควรที่จะกระทำความดี และอบรมความเข้าใจธรรม อบรมเจริญเมตตาให้มีเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน ความเข้าใจธรรม และเมตตาก็ไม่สูญหายไปไหน สามารถมีอัธยาศัยที่ดีงามเพิ่มขึ้นในภพชาติหน้าได้

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
daris
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา และทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"หากชาตินี้ยังเป็นผู้ไม่มีเมตตา ถ้าไม่อบรมสะสมอุปนิสัยเสียชาตินี้ ชาติหน้าก็จะมีเมตตาไม่ได้เลย"


ได้ฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ตอนหนึ่งที่แสดงถึงธรรมที่เป็นเครื่องอยู่ของคนดี พอที่จะประมวลได้ว่า "คนดี จะไม่อยู่ด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง แต่จะอยู่ด้วยคุณความดี มีเมตตา (ความเป็นมิตร เป็นเพื่อน) ต่อผู้อื่น เป็นต้น" เป็นเครื่องเตือนใจที่ดีเป็นอย่างยิ่ง ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

คำสั้นๆ ... เมตตา

...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาและทุกๆ ท่านด้วยครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

อยู่ด้วยเมตตา คือ เห็นใครก็มีความรู้สึกเป็นมิตรเสมอกัน ทุกคน ไม่มีพรรคพวกและดีกับทุกคนเท่ากัน เพราะเมตตาไม่นำมาซึ่งความทุกข์ และความผูกพัน จึงเป็นกุศลที่ไม่มีโทษ ไม่มีภัยกับใคร ให้ผลเป็นความสุข ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
natural
วันที่ 11 ธ.ค. 2555

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ผิน
วันที่ 12 ธ.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ