ในภูมิที่ ไม่มีรูป แล้วปฏิสนธิจิต จะเกิดได้อย่างไรครับ

 
govit2553
วันที่  2 ม.ค. 2556
หมายเลข  22275
อ่าน  1,679

ปฏิสนธิจิตกับหทยวัตถุนี้เกิดพร้อมกัน ปฏิสนธิจิตก็ต้องอาศัยหทยวัตถุเกิด และหทยวัตถุก็ต้องอาศัยปฏิสนธิจิตจึงจะเกิดขึ้นได้ ต่างก็อาศัยซึ่งกันและกันด้วยอำนาจแห่งอัญญมัญญปัจจัย

จากข้อความข้างบนครับ ถ้าเป็นอรูปภูมิจะมีปฏิสนธิจิตได้อย่างไรครับ ในเมื่อหทยวัตถุไม่สามารถเกิดได้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

โดยทั่วไปแล้ว จิตและเจตสิกจะต้องอาศัยที่เกิด คือ มีที่เกิดของจิตและเจตสิก นั่นคือ อาศัยวัตถุ ๖ คือ มี จักขุปสาทรูป โสตปสาทรูป ฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป กายปสาทรูป และ หทยรูป ซึ่งสำหรับภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น จะต้องอาศัยที่เกิด คือ รูปที่เป็นหทยรูป แต่ถ้าเป็นบางภพภูมิที่ไม่ใช่ภูมิที่มีขันธ์ ๕ เช่น อรูปพรหม อรูปพรหม คือ บุคคลที่อบรมสมถภาวนา จนถึงได้ฌานที่ ๕ ขึ้นไป และเมื่อฌานไม่เสื่อมก็ไปเกิดในอรูปพหรมภูมิ เป็นอรูปพรหมบุคคล ซึ่งไม่มีรูปเลย มีแต่นามเท่านั้นครับ คือ มีแต่จิตและเจตสิกเท่านั้นที่เกิดขึ้น

อรูปพรหม ไม่มีรูปเกิดขึ้นเลย แต่สามารถเกิดปฏิสนธิได้ โดยไม่ต้องอาศัยที่เกิดที่เป็นรูป คือ หทยรูปครับ ที่ปฏิสนธิจิตเกิดได้ โดยไม่อาศัยที่เกิด คือ หทยรูปได้ เพราะการทำให้ปฏิสนธิจิตเกิด ก็คือ อาศัยการเป็นปัจจัยของกันและกันของจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกันนั่นเองที่ทำให้เกิดขึ้น แม้ไม่มีรูป แต่เพราะมีเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกับจิต เจตสิกนั่นเองปรุงแต่งให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น และ จิตนั่นเองก็เป็นปัจจัยกันและกันกับเจตสิก เป็นปัจจัยให้เจตสิกและปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น สรุปได้ว่า เพราะอาศัยจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกันนั่นเอง ทั้งสองอย่างเป็นปัจจัยกันและกัน (อัญญมัญญปัจจัย) แม้ไม่มีรูปแต่ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตได้ โดยความเป็นปัจจัยของกันและกันระหว่างจิตและเจตสิก ที่สำคัญที่สุดอรูปพรหมเกิดได้ เพราะมีกรรมเป็นปัจจัยสำคัญ แม้ไม่มีรูป แต่นามคือ จิตและเจตสิกที่เกิดพร้อมกัน ก็สามารถเกิดได้แม้ไม่มีรูป เพราะมีกรรมที่มีกำลังถึงระดับฌานทำกิจปฏิสนธิ ด้วยอำนาจของกรรมเป็นปัจจัยครับ ดังนั้น ในภพภูมิบางภูมิ แม้เพียง จิตและเจตสิกที่อาศัยกันเกิดขึ้น ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตได้

อัญญมัญญปัจจัย คือ ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความอุดหนุนกันและกันให้เกิดขึ้นและค้ำจุนกันและกันไว้ เหมือนไม้ค้ำสามอันช่วยค้ำกันและกันเอาไว้ เช่น จิต เจตสิกที่เกิดร่วมกัน อาศัยกันและกันเกิดขึ้น และมหาูภูตรูป ๔ เกิดขึ้น อาศัยกันและกันเกิดขึ้น และในปฏิสนธิขณะ นามและรูปเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน ด้วยอำนาจของอัญญมัญญปัจจัย

ในปฏิสนธิขณะ นามรูปเป็นปัจจัยด้วยอำนาจของอัญญมัญญปัจจัย มุ่งหมายเฉพาะภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ คือ ปฏิสนธิจิตเกิดที่หทยรูปเสมอ ส่วนในอรูปพรหมไม่มีรูป แต่ปฏิสนธิจิตก็เกิดได้ โดยอาศัยจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกันนั่นเอง ทั้งสองอย่างเป็นปัจจัยกันและกัน เป็นอัญญมัญญปัจจัย โดยนัย นามกับนาม คือ จิต เจตสิก แต่ไม่เป็นอัญญมัญญปัจจัย โดยนาม กับ รูป ครับ

เชิญคลิกฟังเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

ทบทวนปัจจัย - อัญญมัญญปัจจัย

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ใฝ่รู้
วันที่ 3 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 3 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ใครๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นได้ และไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาให้สภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปได้ แต่ธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัย ทุกขณะที่สภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปนั้น เป็นด้วยอำนาจปัจจัยหลายปัจจัย ตามควรแก่สภาพธรรมนั้นๆ แสดงถึงความเป็นจริงของธรรมที่เป็นอนัตตา เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

สภาพธรรมที่มีจริง อันเป็นสังขารธรรม ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดแล้วดับไปนั้น ต้องเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีสภาพธรรมแม้แต่อย่างเดียวที่เกิดขึ้นลอยๆ โดยปราศจากเหตุปัจจัย จิตและเจตสิกก็เช่นเดียวกัน เป็นสภาพธรรมที่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกัน คือ อาศัยวัตถุรูปเป็นที่เกิดตามสมควรแก่จิตประเภทนั้นๆ เกิดเพราะเหตุปัจจัยหลายอย่าง

สำหรับในภูมิที่มีแต่นามธรรม คือ ในอรูปพรหมภูมิ จิตและเจตสิกอาศัยกันและกันเกิดขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยวัตถุรูปเป็นที่เกิดเลย

เรื่องภพภูมิอื่น ไม่ว่าจะเป็นรูปพรหมภูมิ หรือ อรูปพรหมภูมิ เป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ขณะนี้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีสภาพธรรม คือ จิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไป ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมเหล่านี้ตามความเป็นจริง เพราะจิต เจตสิกและรูปไม่ได้อยู่ในตำรา แต่มีจริงทุกขณะ ซึ่งจะต้องอาศัยการฟัง การศึกษา สะสมปัญญาไปตามลำดับ ธรรมเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ไม่เหลือวิสัยสำหรับผู้ที่ตั้งใจศึกษาเพื่อความเข้าใจจริงๆ เพราะสิ่งที่สามารถรู้ได้ สามารถเข้าใจได้ ก็คือ สภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเองครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 3 ม.ค. 2556

อรูปพรหมภูมิ แม้ไม่มีรูป จิตก็เกิดได้ เพราะมโนสัญเจตนาหาร หมายถึง กรรมที่เป็นกุศลขั้นอรูปฌาน นำมาซึ่งปฏิสนธิวิญญาณ คือ การเกิด ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 3 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ในภพภูมิบางภูมิ แม้เพียง จิต และ เจตสิกที่อาศัยกันเกิดขึ้น ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตได้"

"เรื่องภพภูมิอื่น ไม่ว่าจะเป็นรูปพรหมภูมิ หรือ อรูปพรหมภูมิ เป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ขณะนี้ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีสภาพธรรม คือ จิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไป ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมเหล่านี้ ตามความเป็นจริง"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม อ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
j.jim
วันที่ 5 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kinder
วันที่ 5 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
aurasa
วันที่ 6 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ดอกบัวบาน
วันที่ 11 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 21 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ