วิมุต จิตหลุดพ้น

 
nano16233
วันที่  12 ม.ค. 2556
หมายเลข  22317
อ่าน  15,018

คำว่า วิมุต จิตหลุดพ้น หมายความว่าอย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 13 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คำว่า วิมุตติ หมายถึง ความหลุดพ้น ซึ่งความหลุดพ้นก็มีหลายระดับ สำหรับคำถามที่ว่า ศีลวิมุติ สมาธิวิมุตติ และ ปัญญาวิมุตติ หมายถึงอะไร นั้น

ศีลวิมุตติ ไม่มีกล่าาวไว้ในพระไตรปิฎก แต่สมาธิวิมุตติ จะใช้คำว่า เจโตวิมุตติ ซึ่งหมายถึง ฌานจิตทุกระดับเป็นเจโตวิมุตติ เป็นความหลุดพ้นด้วยกำลังแห่งฌานขั้นต่างๆ ที่เกิดขึ้นข่มกิเลสไว้ได้ ในบางแห่งหมายถึง สมาธิ (เอกัคคตาเจตสิก) ในอรหัตตผล ชื่อว่า เจโตวิมุตติ ส่วนปัญญาวิมุตติ หมายถึง ปัญญาในอรหัตตผล และในบางแห่งกล่าวถึง การบรรลุเป็นพระอรหันต์ โดยที่ไม่ประกอบด้วยฌานขั้นใดขั้นหนึ่งเลย เรียกว่า ปัญญาวิมุตติ ครับ และจะขออธิบาย วิมุตติโดยนัยต่างๆ ดังนี้ ครับ

1. วิกขัมภนวิมุตติ คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสนิวรณ์ด้วยการข่มไว้ ด้วยกำลังของฌาน คือ สมภาวนา

2. ตทังควิมุตติ คือ หลุดพ้นจากธรรมที่เป็นข้าศึกในขณะนั้น เช่น การได้วิปัสสนาญาณ บางวิปัสนา สามารถละหลุดพ้นจากความสำคัญว่าเที่ยง เป็นต้น

3. สมุจเฉทวิมุตติ คือ หลุดพ้นจากกิเลสที่ตัดขาดแล้ว อันหมายถึง ขณะที่เป็นมรรคจิต

4. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ คือ หลุดพ้นแล้วสงบ ด้วยอำนาจที่กิเลสสงบแล้วหลังจากการละกิเลส คือขณะที่เป็นสามัญญผล ๔ เช่น โสดาปัตติผล เป็นต้น

5. นิสสรณวิมุตติ หมายถึง พระนิพพาน หลุดพ้น คือ เพราะปราศจาก คือ เพราะตั้งอยู่ ไกลจากิเลสทั้งปวง


ดังนั้น จิตจะหลุดพ้น ก็ต้องหลุดพ้นจากเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย แต่เจตสิกมีหลายประเภท ดังนั้น อะไรที่ควรหลุดพ้น ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดี คือ หลุดพ้นจากกิเลส อกุศลธรรม ซึ่งจะหลุดพ้นจากกิเลสได้ ก็ต้องอาศัยการเจริญอบรมปัญญา เพราะขณะที่เข้าใจธรรม ขณะนั้น หลุดพ้นจากกิเลส หลุดพ้นจากความไม่รู้ไปทีละขณะ จนในที่สุดก็ถึง การหลุดพ้นจนหมดสิ้น หลุดพ้นจากสภาพธรรมทั้งปวง ที่เกิดดับ ถึงพระนิพพาน ที่เป็นการหลุดพ้นอย่างยิ่ง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ใฝ่รู้
วันที่ 13 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 13 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ

วิมุตติ ซึ่งเป็นการหลุดพ้นจากกิเลสนั้น มีหลายระดับ ตั้งแต่ขั้นต้นจนกระทั่งสูงสุด คือ อรหัตตมรรคจิตและอรหัตตผลจิตเกิดขึ้น รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ ก่อนที่จะถึงความเป็นพระอรัหนต์ได้นั้น ปัญญาก็ย่อมจะเจริญขึ้นไปตามลำดับ กล่าวคือ จะต้องเป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี ก่อนจึงจะเป็นพระอรหันต์ได้ พระอริยบุคคลทุกระดับขั้น ดับกิเลสได้ตามลำดับมรรคของตนๆ ขณะที่มรรคจิตเกิดขึ้น ก็เป็นวิมุตติ และขณะที่ผลจิตเกิดขึ้น ก็เป็นวิมุตติด้วยเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่มรรคจิต เกิดขึ้นดับกิเลสเมื่อมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ ส่วนผลจิตนั้น เกิดขึ้นรับผล คือ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์โดยเป็นจิตที่ดับกิเลสแล้ว จึงกล่าวได้ว่าพระอริยบุคคลหลุดพ้นจากกิเลสตามลำดับมรรค กิเลสใดที่ดับได้แล้วก็ไม่เกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ กิเลสใดที่ยังเหลืออยู่จากการที่มรรคเบื้องต่ำ ๓ ยังดับไม่ได้ ก็จะถูกดับได้อย่างหมดสิ้นด้วยอรหัตตมรรค พระอรหันต์เท่านั้นที่เป็นผู้ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น ไม่มีกิเลสใดๆ เหลืออยู่เลย ไม่ต้องมีกิจที่จะต้องกระทำเพื่อดับกิเลสอีกต่อไป

การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ มีปัญญารู้หนทางที่ถูกต้อง ย่อมเป็นปัจจัยแห่งการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม หลุดพ้นจากกิเลสตามลำดับขั้น ในอนาคตข้างหน้าได้ครับ.

กราบนิมนต์พระคุณเจ้าคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ปัญญาวิมุต กับ เจโตวิมุต ต่างกันอย่างไร

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 13 ม.ค. 2556

จิตหลุดพ้นจากกิเลส ไม่เป็นทาสของกิเลส หมดเหตุปัจจัยที่จะทำให้วนเวียนอยู่ในวัฎฎะ พ้นจากโลกสังสารวัฏฏ์ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
captpok
วันที่ 5 ม.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ