การให้พรเวลาทำบุญ

 
oom
วันที่  17 พ.ค. 2556
หมายเลข  22917
อ่าน  32,598

ทำบุญเลี้ยงพระ แล้วกล่าวคำให้พรตามพระ เป็นสิ่งสมควรหรือไม่ อย่างไรคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่ถูกต้อง และ เหมาะสม เมื่อพระภิกษุแสดงธรรมอยู่ไม่ว่าจะเป็นบทใด ผู้ที่เคารพธรรม

ควรตั้งใจฟังพระธรรมด้วยความเคารพในพระธรรม ในบุคคลที่กำลังกล่าวอยู่ ไม่ควร

สวดตาม พร้อมกัน กับพระภิกษุที่กำลังกล่าวบทธรรม ครับ

ส่วนหากฆราวาส จะให้พร ตามที่พระให้พร ก็ไม่ใช่การให้พร โดยเป็นการกล่าวธรรม

แต่เป็นการกล่าวคำที่ให้พร ที่ขอให้มีความสุข ความเจริญ ด้วยการอวยพร ทั่วไปไม่ใช่

การกล่าวธรรม ตามพระภิกษุ แล้วจะเป็นการอวยพร ย่อมไม่สมควร เพราะ จุดประสงค์

ของการกล่าวธรรม เพื่อประโยชน์ คือ เพื่อให้ผู้อื่นให้เข้าใจธรรม ตามที่พระพุทธเจ้า

ทรงแสดง เพื่อให้เกิดปัญญา เกิด กุศลธรรม แต่ ไม่ใช่ การกล่าวธรรม เืพื่อที่จะให้

บันดาลให้ชีวิตผู้ที่ได้รับฟัง เจริญรุ่งเรือง ที่สมมติว่าเป็น พร คือ นำมาซึ่งความเจริญ

ตามที่เข้าใจกัน เพราะ ความเจริญ การได้รับสิ่งทีดีๆ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย เกิด

จาก กรรมที่เป็นกุศลกรรมในอดีต ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับการฟังพระธรรม ที่สมมติว่าเป็นพร ครับ

ส่วนพระภิกษุ ที่แสดงธรรม ด้วยบทสวดใดก็ตาม ก็ไม่ใช่การเรียกว่าให้พร

พระพุทธเจ้า ทรงเลิกกับการให้พร เพราะ ความเจริญ ไม่เจริญไม่ได้อยู่ที่การให้พร

แต่ อยู่ที่การทำกรรม ของบุคคลแต่ละคน ดังนั้น การแสดงธรรมบทใด ก็ไม่ใช่การ

ให้พร แต่ เป็นการแสดงธรรม เพื่อประโยชน์ของผู้ฟังเอง และ เพื่อประโยชน์กับ

ตนเองที่จะน้อมระลึกถึงพระธรรม เกิดกุศลจิต และ เกิดปัญญาของตนเอง และ

ผู้อื่น เป็นสำคัญ ครับ

ดังนั้น การให้พร จึงไม่ใช่การนำบทธรรมมาให้พร แต่ เป็นการแสดงถึงความจริงที่

พระพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อให้ได้พิจารณาไตร่ตรองตาม และ เกิดกุศลจิต กุศลจิต

ที่เ่ิกิดขึ้น จากการฟังพระธรรม ขณะนั้นเป็นการให้พร กับตนเองแล้ว เพราะ กุศลจิต

ย่อมนำมาซึ่งสิ่งที่ดีๆ ครับ

เชิญอ่าน คำอธิบาย คำว่า พร โดยท่านอาจารย์ สุจินต์

ท่านอาจารย์ มีข้อสงสัยเรื่อง "พร" ไหมคะ

ถาม ขอให้อธิบายความหมายของคำว่า "พร"

ท่านอาจารย์ พร ก็หมายความถึงสี่งที่ ประเสริฐ หรือ ดี ใช่ไหมคะ วร

หรือ พร ถูกไหมคะ ภาษาบาลี เพราะฉะนั้นก็คงจะเป็นสี่งที่ทุกท่านปราถนา

เพราะว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เป็นสิ่งที่ดี โดยมากมักจะปราถนา ผล เวลาที่ขอ

พรคนอื่น ผิดกับท่านวิสาขา วิคารมารตา ขอพรจากพระผู้มีพระภาคเจ้า คือ

ขอโอกาส ซึ่งจะได้ทำกุศล ซึ่งเป็นเหตุที่จะให้ได้พรนั้น ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะนำ

พรมาให้ได้ แต่ต้องเป็นกุศลกรรมของตนเอง

ต่อไปนี้จะให้พรใครคะ มีพรจะให้ไหม

หรือจะเป็นคนนั้นเองที่ขอพร แต่ไม่ใช่พรจากคนอื่น

พร คือ เจตนาที่จะกระทำ สิ่งที่ดียิ่งขึ้น

เพราะฉะนั้นอย่างเดียวไม่พอ

ก็หมายความว่า ต้องกระทำกุศลมากๆ ทุกประการ

ถาม อยู่ในฐานะอะไร ควรจะขอพร หรือ ไม่ควรขอ

ท่านอาจารย์ ไม่จำเป็นเลยนะคะ เพียงแต่ว่า แสดงความตั้งใจ หรือขอโอกาส

ที่จะทำกุศล สำหรับท่านวิสาขา วิคารมาตา เมื่อจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นประโยชน์

แก่พระภิกษุสงฆ์ ถ้าจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะได้

ประทานโอกาสที่ท่านจะได้ทำกุศล

ถ้าท่านจะทำกุศลแล้วจำเป็นจะต้องขออนุณาตจากใคร ก็ขอพร คือขอโอกาส

ที่จะได้ทำกุศลนั้นๆ จากบุคคลนั้น

ในพระไตรปิฏกใช้คำว่า "ขอพร" ค่ะ

เพราะว่าขอโอกาสที่จะได้ทำกุศล

ถ้าตั้งเจตนาโดยไม่ขอจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดเลยก็ได้

แต่เมื่อขอโอกาสจากบุคคลที่จำเป็นจะต้องขออนุญาตที่จะทำกุศลนั้นเช่นท่านวิสาขา

วิคารมาตา ก่อนที่จะถวายสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับอนุญาตจาก พระผู้มี

พระภาคเจ้าก่อน มีพรเยอะไหมคะ อยากได้พรมากๆ ไหมคะ ถ้าเข้าใจ พร แล้วจะ

เป็นประโยชน์กว่าขอโดยไม่เข้าใจ ใช่ไหมคะ เพราะว่า ให้มีกุศลทุกประการ

ก็ว่าน้อยไป แต่ที่จริงแล้วมากไหมคะ

----------------------------------------------------

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

พร

การขอพร [ภัคคาชาดกที่ ๕]

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ต่อไปนี้ สำหรับผู้ที่เข้าใจในเหตุในผลแล้ว ถ้ามีใครมาขอพรกับท่าน ท่านจะให้อะไรกับผู้นั้น? ที่ถูกแล้วควรจะเป็น ขอให้เขาเจริญกุศลทุกประการ นี้แหละเป็นพร คือ เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต"

อ้างอิงจาก ... ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๒

สิ่งที่ประเสริฐ จะต้องเป็นความดี เป็นกุศลธรรมประการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก มีแต่คุณประโยชน์โดยส่วนเดียว ไม่ได้นำทุกข์โทษภัยใดๆ

มาให้เลยแม้แต่น้อย เป็นเครื่องอุปการะะเกื้อกูลให้คุณความดีเจริญยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น

แล้ว สิ่งที่จะเป็นเครื่องเกื้อแก่ชีวิตอย่างแท้จริง ก็คือ ความเข้าใจพระธรรม อันเนื่องมาจาก

การได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ซึ่งเมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง

แล้ว ก็จะสามารถเกื้อกูลผู้อื่นให้มีความเห็นถูกในธรรมได้ อย่างเช่น ในเรื่องของ พร

ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ว่า ไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่ต้องเป็นคุณความดีเท่านั้น จึงจะเป็นพร

เป็นสิ่งที่ประเสริฐได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศใด ก็ตาม ถ้าความดีเกิดขึ้นเป็นไป พร หรือ

สิ่งที่ประเสริฐ ก็เกิดขึ้นแล้ว ในขณะนั้น เพราะอกุศล ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ไม่มีทางจะ

ประเสริฐได้เลย ครับ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ฆราวาสก็สามารถสวดให้พรได้เวลาที่คนอื่นทำกุศลไม่เป็นไรค่ะ พร หมายถึงความดี

ถ้าอยากได้พรก็ทำกุศลทำความดีมากๆ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jaturong
วันที่ 21 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ