ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๙๑

 
khampan.a
วันที่  19 พ.ค. 2556
หมายเลข  22923
อ่าน  1,554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๙๑]

อกุศลมีหลายขั้น ยังไม่ถึงทุจริตกรรมหรืออกุศลกรรมก็จริง แต่เกิดแล้วน่ารังเกียจแล้ว สภาพของอกุศลธรรมทั้งหมดน่ารังเกียจ แต่ถ้าหิริเจตสิกไม่เกิด ไม่รังเกียจ โอตตัปปะไม่เกิด ไม่กลัวในโทษของอกุศลนั้น สติไม่เกิดก็ไม่สามารถจะระลึกรู้ได้ว่า ขณะนั้นอกุศลธรรมนั้นน่ารังเกียจจริงๆ เพราะเหตุว่าเป็นผู้ที่ชินต่ออกุศลธรรมมาก ชินกับโลภมูลจิต ไม่กลัวเลย

โทสมูลจิต เป็นเหตุให้เกิดกาย วาจาที่ไม่น่าดูเลย ปราศจากเมตตา แต่เมื่อสติไม่ เกิดขึ้นระลึกรู้ หิริจะละอาย และโอตตัปปะจะกลัวในโทษของอกุศลนั้นได้อย่างไร

บางท่านคิดว่าอยู่บ้านคนเดียวเงียบๆ ตามป่า ตามเขา ดูพระอาทิตย์ตก ที่ทะเลบ้าง ที่ภูเขาบ้าง ไม่มีคนเลย มีแต่เสียงนกร้อง ดอกไม้ป่าสวยๆ คิดว่าสงบมาก แต่ขณะ นั้นเป็นอะไร? โลภมูลจิตแน่นอน ไม่ใช่ความสงบเลย จิตจะสงบก็ต่อเมื่อเป็นกุศล ปราศจากทั้งโลภะและโมหะ

ในพระไตรปิฎก บุคคลต่างๆ ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลเรื่องของตนเอง พระผู้มีพระภาคทรงรับฟังเรื่องของเขา แล้วแต่ว่าเขามีปัญหาอะไร ไม่เข้าใจอะไร แต่พระผู้มีพระภาคจะไม่ทรงแสดงธรรมก่อน ไม่ใช่ว่าพอใครไปเฝ้าแล้วก็ทรงแสดงธรรม ทันที แต่ว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคทรงรับฟังเรื่องของเขา แล้วก็ทรง แสดงธรรมที่เหมาะที่ควร ที่เขาจะเข้าใจได้ที่เป็นธรรมในขณะนั้น จนกระทั่งเขาสามารถ ที่จะเริ่มความเข้าใจสภาพธรรมที่เกิดขึ้นกับเขาได้ แล้วต่อไปเขาก็สามารถที่จะเข้าใจ ธรรมอื่นๆ ได้ด้วย

ต้องเป็นกุศลทั้งหมด จึงจะเป็นธรรมที่เป็นที่พึ่งได้ เพราะฉะนั้น ก็เป็นผู้ที่ไม่ท้อ ถอยในการที่จะให้กุศลเกิดขึ้น แทนอกุศล อกุศลไม่ต้องทำอะไรเลย เกิดบ่อยๆ เกิดเรื่อยๆ เกิดขึ้นขัดขวางการกระทำกุศลหลายประการ เพราะฉะนั้น เวลาที่จะทำกุศลแต่ ละครั้ง จะเห็นได้ว่า จะต้องมีความบากบั่น มั่นคง ไม่ทอดธุระในธรรมที่เป็นกุศล

ความดี ไม่ต้องรั้งรอ เดี๋ยวนี้เลย เติมความดีทุกๆ วัน

สะสมกุศลไว้มาก ก็จะไม่เดือดร้อนเลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะพบใครก็ตาม

พระธรรม ล้ำค่า เป็นสิ่งที่จะทำให้ได้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในขณะนี้

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา เป็นไปเพื่อขัด เกลาละคลายกิเลส รักษาจิต

ตลอดพระไตรปิฎก ไม่พ้นไปจากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ขณะใดที่ฟังพระธรรมเข้าใจ ขณะนั้นก็ค่อยๆ ชำระจิตจากความไม่รู้

มีแต่สภาพธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน (ไม่มีเรา มีแต่ ธรรมเท่านั้น)

ประโยชน์จริงๆ คือ กุศลธรรม

เดี๋ยวนี้ ทำดี โดยการฟังพระธรรม แล้วเวลาที่ไม่ได้ฟังพระธรรม ก็ทำดีได้ เหมือนกัน เป็นมิตรกับใคร ก็ดีทันที ช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น ก็ดีทันที เป็นต้น

มั่นคงในความดีเพิ่มขึ้นหรือยัง? เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ประโยชน์ คือ มีเมตตา เป็นการรักษาทั้งตนเองและผู้อื่น

แหล่งที่เกิดของคุณความดี คือ จิต

เขาชั่วเพราะเขาไม่รู้ เมื่อไม่รู้เขาจึงทำทางไปสู่นรกด้วยตัวของเขาเอง

ฟังพระธรรมให้เข้าใจ จะทำให้มีความมั่นคงในหนทางแห่งคุณความดี

พระโพธิสัตว์แม้จะถูกยิง ก็ยังไม่โกรธในคนยิง แต่เรา ยังไม่ถูกคนอื่นยิงเลย ก็โกรธแล้ว

เขาว่าเรา เราก็โกรธเขา ว่าเขากลับคืน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นอกุศล แต่ถ้าเรามีเมตตาจริงๆ จะไม่เป็นอย่างนั้นเลย

ถ้าจิตสะอาดขึ้น จะฟังพระธรรมเข้าใจ เพราะไม่มีอะไรปิดบัง

สติเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ คนที่จะบังคับบัญชานั่นคือไม่รู้ความเป็นอนัต ตาของธรรม เพราะฉะนั้นแล้วความเข้าใจถูกเห็นถูกจึงสำคัญมาก ถ้าไม่เข้าใจถูก เห็นถูกแล้ว ทุกอย่างก็จะผิดตามไปหมด

เพราะยังมีความไม่รู้และมีความติดข้อง จึงมีเหตุที่จะทำให้ติดข้องได้โดยตลอด ไม่เกี่ยวกับอย่างอื่นเลย แต่ขึ้นอยู่กับกิเลสของตนเองเป็นสำคัญ จนกว่าจะมีการรักษา ด้วยความเข้าใจพระธรรม

กุศลจิต สามารถทำให้กระทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ในทุกสถานการณ์

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๙๐ ได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๙๐

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตร่วมปันธรรม ด้วยครับ

- เมื่อเราอยู่ร่วมกันนั้น ทุกคนก็ต่างเป็นเพื่อนร่วมกันในสังสารวัฏฏ์ ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม หากเรานึกถึงความสุขของคนอื่นก่อนตัวเอง และช่วยเหลือ กันทั้งทางโลก และในพระธรรม นั่นก็เป็นการอยู่ร่วมกันที่ประเสริฐ เราก็จะคิดถึง ความสุขของคนอื่นก่อนเสมอ ไม่ว่าในการกระทำทางกาย วาจา และใจของเราที่มี ต่อบุคคลอื่น ... ก็เป็นไปในทางที่ดี

- ให้เห็นความจริงว่า อกุศลแม้มีมาก สะสมมาในแสนโกฏิกัปป์ในสังสารวัฏฏ์ ยังดับได้ด้วยอะไร ต้องเป็นสิ่งที่มีกำลังพอที่จะดับได้ แต่ถ้าปัญญาไม่ถึงระดับนั้น ดับไม่ได้แล้วจะมีปัญญาระดับนั้นเมื่อไร ถ้าไม่ค่อยๆ สะสมไปทีละเล็ก ที ละน้อย ไม่ประมาทแม้เพียงกุศลเล็กน้อย

- การฟังธรรมจะเป็นปัจจัยปรุงแต่งให้สังขารขันธ์ฝ่ายดี ไม่ละทิ้งโอกาสของกุศล แม้เพียงเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน นี่จึงจะเป็นหนทางไปสู่การเป็นผู้ที่ดับความประมาท ทั้งปวงได้ ฉะนั้น ก็เริ่มเห็นประโยชน์ของการเป็นผู้ที่จะได้ทำความดีอย่างไม่ขาดสาย ด้วยปัญญาที่เข้าใจถูกว่า กุศลทุกประการเป็นสิ่งที่ควรเจริญ เจริญกุศลเพื่อละอกุศลเพื่อดับอกุศล เป็นผู้ตรง มีความจริงใจที่จะไม่เจริญกุศลเพื่อเหตุอื่น

- ใช้อะไรก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ แต่สามารถจะเข้าใจสภาพที่จริงให้ถูกขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ใช้หรือทำ ถ้าใช้หรือทำ ก็คือ มีความเป็นเรา หรือความเป็นตัวตน ซึ่งไม่ หมดโดยการไปใช้หรือไปทำ ใช้เท่าไร ทำเท่าไรก็คือเราเป็นตัวตนอยู่ จะหมดตัวตน ไม่ได้ ขณะนี้เองเป็นขณะที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นคิด หรือว่า เป็น สติ ที่เข้าใจสภาพ ธรรม หรือเป็น สติปัฏฐาน ที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรม เป็นเรื่องที่แต่ละคน จะต้องรู้ด้วยปัญญาของตนเอง เป็นปัจจัตตัง เป็นสิ่งซึ่งเมื่อได้ศึกษาแล้ว อะไรเกิดขึ้น ก็ค่อยๆ เข้าใจในสิ่งนั้น

- บางคนคิดจะช่วยคนอื่น แต่ช่วยด้วยจิตที่ไม่ดี ถ้า จิตไม่ดี จะช่วยให้จิตคนอื่นดีได้ อย่างไร เพราะฉะนั้น เริ่มจากตัวเองที่จิตที่ดี และ ถ้าเป็นปัญญา สามารถเข้าใจถูก ว่า อะไรควร หรือ ไม่ควร

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 19 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 19 พ.ค. 2556

พระธรรม ล้ำค่า เป็นสิ่งที่จะทำให้ได้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ จะทำให้มีความมั่นคงในหนทางแห่งคุณความดี

- ใช้อะไรก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ แต่สามารถจะเข้าใจสภาพที่จริงให้ถูกขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ใช้หรือทำ ถ้าใช้หรือทำ ก็คือ มีความเป็นเรา หรือความเป็นตัวตน ซึ่งไม่ หมดโดยการไปใช้หรือไปทำ ใช้เท่าไร ทำเท่าไรก็คือเราเป็นตัวตนอยู่ จะหมดตัวตน ไม่ได้ ขณะนี้เองเป็นขณะที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นคิด หรือว่า เป็น สติ ที่เข้าใจสภาพ ธรรม หรือเป็น สติปัฏฐาน ที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรม เป็นเรื่องที่แต่ละคน จะต้องรู้ด้วยปัญญาของตนเอง เป็นปัจจัตตังเป็นสิ่งซึ่งเมื่อได้ศึกษาแล้ว อะไรเกิดขึ้น ก็ค่อยๆ เข้าใจในสิ่งนั้น

...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น และ อ.เผดิมอย่างยิ่ง...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nong
วันที่ 20 พ.ค. 2556

กุศลจิต สามารถทำให้กระทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ในทุกสถานการณ์

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
boonpoj
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
j.jim
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Wisaka
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น อ.เผดิม

และทุกๆ ท่าน ที่แบ่งปันธรรม ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pat_jesty
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Lamphun
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
jaturong
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
kinder
วันที่ 20 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Thanapolb
วันที่ 21 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่งและขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอาจารย์คำปั่นที่รวบรวมปันธรรมมาแบ่งปันกันตลอดมาครับ...

ถ้าจะขอคัดปันธรรมมา รวมรวมพิพม์เผยแพร่ แจกกัลยาณมิตรที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ ฟังพระธรรม โดยไม่มีการตัด-ต่อคำของท่านอาจารย์ฯ แต่อาจคัดมาเฉพาะบางวลี ที่คิดว่าไม่ซ้ำกัน เป็นต้น จะอนุญาตไหมครับ

"ถ้าจิตสะอาดขึ้น จะฟังพระธรรมเข้าใจ เพราะไม่มีอะไรปิดบัง"

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
khampan.a
วันที่ 21 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เรียน ความคิดเห็นที่ 13 ครับ

อาจารย์ธนพล ก็สามารถดำเนินการได้เลย ตามความประสงค์ ครับ เพราะพระธรรม ยิ่งเปิดเผย ยิ่งเผยแพร่ ก็ยิ่งจะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์ธนพลและทุกๆ ท่านด้วยนะครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Jans
วันที่ 21 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chulalak
วันที่ 21 พ.ค. 2556

มั่นคงในความดีเพิ่มขึ้นหรือยัง เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ประโยชน์คือ มีเมตตา รักษาตนเองและผู้อื่น

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
natural
วันที่ 22 พ.ค. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
rrebs10576
วันที่ 24 พ.ค. 2556

เพราะยังมีความไม่รู้และมีความติดข้อง จึงมีเหตุที่จะทำให้ติดข้องได้โดยตลอด ไม่เกี่ยวกับอย่างอื่นเลย แต่ขึ้นอยู่กับกิเลสของตนเองเป็นสำคัญ จนกว่าจะมีการรักษา ด้วยความเข้าใจพระธรรม

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
Thanapolb
วันที่ 24 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอขอบคุณอาจารย์ คำปั่น และอนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่าน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
เจียมจิต
วันที่ 6 ธ.ค. 2563

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
chatchai.k
วันที่ 11 ธ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
เจียมจิต สุขอินทร์
วันที่ 8 ธ.ค. 2564

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
มังกรทอง
วันที่ 8 ก.พ. 2565

ในพระไตรปิฎก บุคคลต่างๆ ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลเรื่องของตนเอง พระผู้มีพระภาคทรงรับฟังเรื่องของเขา แล้วแต่ว่าเขามีปัญหาอะไร ไม่เข้าใจอะไร แต่พระผู้มีพระภาคจะไม่ทรงแสดงธรรมก่อน ไม่ใช่ว่าพอใครไปเฝ้าแล้วก็ทรงแสดงธรรม ทันที แต่ว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคทรงรับฟังเรื่องของเขา แล้วก็ทรง แสดงธรรมที่เหมาะที่ควร ที่เขาจะเข้าใจได้ที่เป็นธรรมในขณะนั้น จนกระทั่งเขาสามารถ ที่จะเริ่มความเข้าใจสภาพธรรมที่เกิดขึ้นกับเขาได้ แล้วต่อไปเขาก็สามารถที่จะเข้าใจ ธรรมอื่นๆ ได้ด้วย น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
Jarunee.A
วันที่ 10 มี.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ