อุปสะมะ อนาละโย นิโรโธ ตานังเลนัง

 
nong
วันที่  14 มิ.ย. 2556
หมายเลข  23049
อ่าน  937

มีเพื่อนที่พึ่งสึกจากลาราชการไปบวชชี ฝากถามมาดังนี้: อุปสะมะ อนาละโย นิโรโธ ตานังเลนัง อะไรเกิดก่อนหลังในภาระการเพียรของพระพุทธเจ้าและผู้ปฏิบัติธรรม

ขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 14 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากข้อความที่ผู้ถามยกมานั้น เป้นสภาพธรรมที่เรียกว่า พระนิพพาน แต่ มีชื่อโดยนัยต่างๆ อุปสะสมะ หรือ อุปสมะ คือ สภาพธรรมที่สงบ แต่ อุปสมะ มีหลายระดับ ทั้ง สภาพธรรมที่ สงบจากบาปธรรม คือขณะเป็นจิตที่ดีงาม ขณะนั้นก็สงบจากบาปธรรม แต่ถ้าเป็นอุปสมะ จากข้อความที่ผู้ถามยกมานั้น เป็นสภาพธรรมที่สงบจากกิเลสทั้งปวง และ สงบจากสภาพ ธรรมทั้งปวงที่เกิดดับ จึงเป็นสภาพธรรมที่สงบอย่างยิ่ง ที่สงบสูงสุด คือ พระนิพพาน อุปสมะ จึงเป็นชื่อหนึ่งของพระนิพพาน

อนาลโย ก็เป็นสภาพธรรมที่ปราศจากความอาลัย สภาพธรรมที่ทำให้เกิดความอาลัย คือ กิเลส มี โลภะ ที่ทำให้เกิดความอลัย สภาพธรรมที่ปราศจากโลภะ ปราศจากกิเลส โดยประการทั้งปวง ก็คือ พระนิพพาน เพราะฉะนั้น อนาลโย สภาพธรรมที่ปราศจาก ความอาลัย คือ ไม่มีอาลัย จึงเป็นอีกชือ่หนึ่งของพระนิพพาน ครับ

นิโรโธ หรือ นิโรธ ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระนิพพานอีกเช่นกัน คือ เป็นสภาพธรมที่ดับรอบ เย็นสนิท ดับอะไร ดับสภาพธรรมที่เป็นเครื่องเศร้าหมอง คือ กิเลส และ ดับสภาพธรรมที่ มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง สภาพธรรมนั้นก็คือ พระนิพพานนั่นเอง นิโรธ จึงเป็นชื่อของพระนิพาน ซึ่งจากคำถามที่ว่า ข้อความที่ผู้ถามยกมานั้น อะไรเกิดก่อน เกิดหลังในการทำความเพียร ของ พระพุทธเจ้า และ ผู้ปฏิบัติ

เป็นความละเอียดลึกซึ้งมาก ไม่ใช่เพียงเอาเพียงชื่อคำใด คำหนึ่ง แต่จะเข้าใจได้ ทั้งหมด เพราะ จะต้องเป็นเรือ่งที่เข้าใจตั้งแต่ต้น แม้ในขั้นการฟัง โดยเฉพาะในเรื่อง ของการปฏิบัติธรรมแล้ว ที่เป็นการเจริญหนทางการดับกิเลส ที่เป็นอริยมรรค ก็จะต้อง เริ่มจากความเข้าใจถูกตั้งแต่ต้น ซึ่ง ข้อความที่กล่าวมานั้น เป็นการแสดถึง ตัวผล ที่ ไม่ใช่ตัวเหตุ ซึ่ง ตัวผล คือ พระนิพพาน ที่มีชื่อต่างๆ เพราะ พระนิพพาน เป็นสภาพ ธรรมที่มีจริง แต่สามารถกล่าวแสดงถึงลักษณะได้หลากหลายนัย ทั้งสภาพธรรมที่ ไม่มีอาลัย สภาพธรรมทีสงบ สภาพธรรมที่ดับสนิท เป็นต้น แต่เมือ่ข้อความกล่าวโดยผล หากเป็นผู้เจริญสติปัฏฐาน อริยมรรค อันเป็นหนทางที่ถูกต้องแล้ว ย่อมจะถึง ผล คือ อุปสมะ อนาลาโย และ นิโรธโธได้ พร้อมๆ กัน เพราะ ชื่อทั้งสามก็เป็นชือ่ของพระนิพพาน ที่เป็นสภาพธรรมอย่างเดียวกัน แต่ แสดงชื่อหลากหลายลกษณะเท่านั้น ครับ

ดังนั้น พระพุทธเจ้าและ ผู้ที่ปฏิบัติธรรม เจริญอบรมปัญญาที่ถูกต้อง ย่อมจะถึงผล พร้อมๆ กันได้ เมือ่ดับกิเลสได้หมดสิ้น ย่อมถึง ความสงบจากกิเลส ที่เป็น อุปสมะ ถึง อนาลาโย ที่ไม่มี ความอาลัย และ ย่อมถึงการดับรอบ ที่เป้นนิโรธได้พร้อมๆ กันในที่สุด ไม่มีก่อน หรือ หลัง ใน ชื่อของสภาพธรรมเหล่านี้ครับ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

ธรรมที่เป็นไวพจน์พระนิพพาน [วิภังค์]

อาลัย

เพราะฉะนั้น สำคัญที่เหตุ คือ การอบรมปัญญาสำคัญที่สุด ที่เป็นปัญญาขั้นการฟัง ที่จะ ต้องเริ่มอย่างถูกต้อง เมื่อเหตุถูก ผลย่อมถูก เป็นสำคัญ ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nong
วันที่ 14 มิ.ย. 2556

ขอขอบพระคุณคุณ Paderm เป็นอย่างสูง และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แมวทไวไลท์
วันที่ 14 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 14 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กล่าวมาทั้งหมด เป็นชื่อของพระนิพพานทั้งหมด ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ เป็นธรรมที่ปราศจากกิเลสเป็นธรรมที่ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เกิดดับอย่างสิ้นเชิง อนาลยะ (ไม่มีอาลัย คือ ไม่มีตัณหา) อุปสมะ (ความเข้าไปสงบจากกิเลส และ สังขารธรรมทั้งหลาย) นิโรธะ (ความดับทุกข์) ตาณะ (เป็นที่ต้านทานกิเลส) เลณะ (เป็นที่เร้นจากกิเลส จากทุกข์ จากสังสารวัฏฏ์) ผู้ที่จะประจักษ์แจ้งพระนิพพานได้ ก็ต้องเป็นพระอริยบุคคลทุกระดับขั้น ซึ่งการที่จะไปถึงตรงนั้นได้ จะขาดความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้นไม่ได้เลย และไม่สามารถจะประจักษ์แจ้งพระนิพพานด้วยข้อปฏิบัติผิด ด้วยการไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ด้วยความเป็นตัวตน

แต่ก็ยังมีความหมายที่จะต้องพิจารณา อีก คือ

อนาลยะ บางนัย มุ่งหมายถึงความเป็นพระอรหันต์ คือ ผู้ปราศจากตัณหาโดยประการทั้งปวง, อุปสมะ ความเข้าไปสงบระงับจากกิเลส ในขณะขณะที่กุศลเกิดขึ้น เช่น ขณะ ที่ความไม่โกรธ เกิดขึ้น ก็เป็นเครื่องเผาหรือกำจัดบาปธรรมที่เป็นความพยาบาท, ตาณะ กับ เลณะ บางนัยมุ่งหมายถึง บุญ สภาพธรรมที่ชำระจิตใจให้สะอาด เป็นที่ต้านทานอกุศล ต้านทานความไม่รู้และในขณะที่กุศลเกิด ก็ปลอดภัย เร้นหรือพักจากอกุศล เป็นที่พึ่ง ต่อไปในภายหน้า ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ปฐมชนสูตร .. ที่พึ่งในภายหน้า ...

ขอบพระคุณ อ. ผเดิม และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 14 มิ.ย. 2556

หนทางการถึงพระนืพพาน ก็ต้องเริ่มจากการฟังธรรมจากผู้รู้ คือ พระพุทธเจ้า ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nong
วันที่ 15 มิ.ย. 2556

ขอขอบพระคุณคุณ Khampan และคุณ Wannee ค่ะ และขออนุโมทนากับทุกๆ ท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
daris
วันที่ 15 มิ.ย. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Boonyavee
วันที่ 16 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
j.jim
วันที่ 17 มิ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 17 มิ.ย. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
nopwong
วันที่ 20 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ