เพศฆราวาสก็สามารถศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาได้
การอยู่ในเพศฆราวาส ก็สามารถศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาได้เช่นกันในครั้งพุทธกาล มีฆราวาสมากมายที่เมื่อฟังพระธรรมแล้ว บรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และท่านวิสาขามิคารมาตา ทั้งสองท่านนี้ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันบุคคล ส่วนท่านจิตตคฤหบดี ท่านฟังธรรมแล้วได้บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีบุคคล ทั้งสามท่านเป็นคหบดีมั่งคั่ง มีครอบครัว ใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่ท่านฟังธรรมและศึกษาธรรมะ จนมีความเข้าใจและสามารถบรรลุธรรม ตามระดับขั้นของปัญญาของแต่ละท่าน
ที่สำคัญ คือ การเข้าใจถึงอัธยาศัยของตนเองว่าเป็นเพศฆราวาส ยังต้องคลุกคลีอยู่กับ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ยังไม่มีอัธยาศัยใหญ่ ที่จะละบ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ บุตร ภรรยา ญาติ พี่น้อง เพื่อบวชเป็นพระภิกษุ (ในครั้งพุทธกาล ผู้ที่บวช จะบวชแบบไม่คิดจะสึก ไม่ใช่การบวชแบบมีระยะเวลา ๓ วัน ๗ วัน ๑ พรรษา) บวชแบบทิ้งเงิน ไม่ใช่บวชแล้วรับเงิน ดังนั้น ถ้าไม่มีอัธยาศัยแบบผู้ที่จะบวชในครั้งพุทธกาล ก็ศึกษาพระธรรมในเพศฆราวาส จะดีกว่า
แน่นอนสิครับ เพศฆราวาส ปุถุชนธรรมดาก็สามารถศึกษาพระธรรม คำสอนได้ โดยไม่ต้องไปบวชทั้งชีวิตเลย ยกเว้นก็แต่พระอรหันต์ อันนี้ไม่สามารถรองรับเพศฆราวาสได้ เพราะฉะนั้น อยากให้ทุกคนได้ศึกษาธรรมประจำทุกวัน! พร้อมทั้งมีธรรมประจำใจด้วย