การดูแลตนเองไม่ดีเท่าที่ควรเป็นอกุศลธรรมหรือไม่

 
papon
วันที่  2 ธ.ค. 2556
หมายเลข  24116
อ่าน  963

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

การดูแลตนเองไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากการไม่มีเวลาหรือการไม่มีทรัพย์พอหรือในกรณีอื่นๆ ก็ตามเป็นอกุศลธรรมหรือไม่อย่างไรครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ

ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 3 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขณะที่เกิดจิตไม่ดีที่เป็นอกุศล ขณะนั้น เป็นอกุศลธรรม แต่ อกุศลธรรม ก็ยังแบ่งเป็นหลายระดับ ที่เป็นเพียงอกุศลจิตที่เกิดขึ้นในจิตใจ จนถึงอกุศลที่มีกำลังที่ล่วงออกมาทางกายวาจาที่ล่วงศีล 5 เพราะฉะนั้น เพียงการกระทำทางกาย วาจาที่เป็นอกุศลจิต ที่ดูแลร่างกายไม่ดี ก็เป็นอกุศลธรรม แต่ ไม่ถึง อกุศกรรมที่จะให้ผลเพราะ ไม่ได้เป็นอกุศลที่มีกำลังที่ล่วงศีล 5 ข้อหนึ่งข้อใด ครับ

การกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ให้ปลอดภัยจากโรค เป็นเรื่องธรรมดา เจ็บป่วย ก็รักษา หรือถ้ายังไม่เจ็บป่วย ก็มีการกระทำในสิ่งที่เหมาะควรแก่ร่างกาย ก็เป็นชีวิตปกติจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายเลย ปล่อยให้ตัวเองเจ็บป่วยหรือทำแต่สิ่งที่จะเป็นโทษต่อร่างกาย บางท่านรักษาสุขภาพ เพื่อพอกพูนความติดข้องต้องการให้มาก แต่สำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ผู้ที่เห็นประโยชน์ของกุศลธรรมและการอบรมเจริญปัญญาแล้ว จะเห็นได้ว่า ถ้าชีวิต เป็นอยู่ต่อไป นานเท่าใด ก็ยิ่งจะเป็นโอกาสให้ได้เจริญกุศล ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญามากเท่านั้น ครับ

การดำรงชีวิตอยู่ ก็ควรพิจารณาทั้งประโยชน์โลกนี้ คือ ดำรงชีวิตในปัจจุบันให้เป็นสุข ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพ ตามที่โอกาสควรจะเป็นเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปในการเจริญกุศล มีการออกกำลังกาย ล้างพิษตับ และ ดูแลเรื่องอาหาร และ ที่ไม่ลืม คือ ประโยชน์โลกหน้า คือ การเจริญกุศลประการต่างๆ และ เพื่อประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การอบรมปัญา ศึกษาพระธรรม เพื่อถึงการดับกิเลสได้ในที่สุด ชีวิตจึงควรประกอบด้วยประโยชน์ทั้ง 3 อย่าง คือ ประโยชน์โลกนี้ ประโยชน์โลกหน้าประโยชน์อย่างยิ่ง

@ รักษาตน ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพื่ออะไร เพื่อการสะสมกิเลสมากๆ หรือเพื่อที่จะให้เป็นไปเพื่อการสะสมความดี และอบรมเจริญปัญญา

อ้างอิงจาก ... ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๐๕

[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ หน้าที่ 267

๖. ทุติยอนายุสสสูตร

ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุให้อายุสั้น และอายุยืน

[๑๒๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นเหตุให้อายุสั้น ๕ ประการเป็นไฉนคือ บุคคลย่อมไม่กระทำความสบายแก่ตนเอง ๑ ไม่รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย ๑ บริโภคสิ่งที่ย่อยยาก ๑ เป็นคนทุศีล ๑ มีมิตรเลวทราม ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นเหตุให้อายุสั้น

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรม ๕ ประการนี้ เป็นเหตุให้อายุยืน ๕ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลย่อมเป็นผู้ทำความสบายแก่ตนเอง ๑ รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย ๑บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย ๑ เป็นผู้มีศีล ๑ มีมิตรดีงาม ๑

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

โลภะกับการดำรงชีวิต

บำรุงรักษาร่างกาย เพื่ออะไร?

ยารักษาใจ

ยารักษาใจ ปัญญา คือ ความเข้าใจถูกเท่านั้นที่จะรักษาใจ

ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 3 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตามความเป็นจริงแล้ว ถ้ากุศลจิตไม่เกิด ก็ย่อมเป็นโอกาสแห่งการเกิดขึ้นของอกุศลจิต แสดงให้เห็นเลยว่า อกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นไปมากในชีวิตประจำวัน หากไม่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม จะไม่รู้เลยว่า ตนเองมากไปด้วยอกุศลมากไปด้วยกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิตใจ) มากมายเพียงใด อาจจะสำคัญผิดว่า ตนเองไม่มีกิเลสก็ได้ เช่น ไม่ได้โลภอยากได้ของๆ คนอื่น เป็นต้น แต่เมื่อได้ศึกษาแล้ว จะเข้าใจได้ว่า ความติดข้องซึ่งเป็นโลภะ นั้น แม้ไม่ถึงขั้นที่ล่วงเป็นทุจริตกรรม ก็มี และเป็นอกุศล ด้วย จะบอกว่าตนเองไม่มีอกุศล ย่อมเป็นสิ่งที่ผิดอย่างแน่นอน

ดังนั้น เมื่อกล่าวโดยประมวลแล้ว ถ้ากุศลจิตไม่เกิด ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหนก็ตาม นั่นไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของอกุศลเลย ยากที่จะพ้นไปได้จริงๆ

ประโยชน์ที่ควรพิจารณา คือ การขัดเกลาอกุศล ไม่เหมือนกับการทำความสะอาดวัตถุสิ่งของ เพราะเหตุว่าการขัดเกลาอกุศลที่แต่ละบุคคลได้สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ต้องอาศัยการเจริญกุศล (ทำความดี) ทีละเล็ก ทีละน้อย บ่อยๆ เนืองๆ สำหรับบุคคลผู้ที่ยังไม่มีปัญญาคมกล้าจนถึงขั้นที่จะสามารถบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ได้นั้น โอกาสใดที่จะเจริญกุศลได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านใดๆ ก็ตาม ก็ไม่ควรที่จะละเลยโอกาสนั้นไป เพราะโอกาสของการได้ทำความดี ในชีวิตประจำวันนั้น เป็นโอกาสที่หายาก เทียบส่วนกันไม่ได้เลยกับขณะที่เป็นกุศล ซึ่งในวันหนึ่งๆ กุศลจิตเกิดบ่อยมากเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าไม่มีโอกาสของกุศลจิตได้เกิดขึ้นบ้างเลย นับวันกุศลก็จะสะสมพอกพูนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ สังสารวัฏฏ์ยืดยาวต่อไปอีกอย่างไม่มีวันจบสิ้น

จึงไม่ควรปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ และไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 3 ธ.ค. 2556

ดูแลตัวเองเป็นอกุศลส่วนมาก แต่ก็ควรดูแลสุขภาพเพื่อทำกุศลต่อไป ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 3 ธ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ