สนทนาธรรมที่เดอะวินเทจ เขาใหญ่ [จบ]

 
khampan.a
วันที่  24 ธ.ค. 2556
หมายเลข  24229
อ่าน  2,072

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วันนี้ตรงกับวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ มีสนทนาธรรมที่เดอะวินเทจ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐ ถึง ๑๑.๓๐ น. โดยประมาณตลอดระยะเวลา ๒ ชั่วโมงเต็ม เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ เป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดในชีวิตที่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ฟังและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจ

ก็ขออนุญาตประมวลพระธรรมที่ได้ฟังในวันนี้จากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ซึ่งเป็นการเก็บเล็กผสมน้อย มาฝากผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกันทุกท่านได้พิจารณาร่วมกันดังต่อไปนี้

(คุณแสงมณี ชิงดวง ผู้มีศรัทธาจัดให้มีการสนทนาธรรมในครั้งนี้)

(ทีมงานอาสาสมัครชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ฝ่ายบันทึกวีดีโอ และ อาจารย์วิทยากร)

-พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ฟังเป็นสำคัญ ถ้าไม่มีพระองค์ ใครๆ ก็ไม่สามารถรู้สิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริงได้เลย

-เมื่อมีความไม่รู้และกิเลสมาก จะให้หมดสิ้นไปด้วยความไม่รู้ ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

-ธรรมมีจริงๆ ในขณะนี้ แต่เพราะเต็มไปด้วยความไม่รู้ จึงต้องฟังพระธรรมเพื่อจะได้รู้ในสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง

-ธรรมเป็นธรรม ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะยึดถือว่า เป็นตัวตนหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด

-ขณะนี้ จิตและเจตสิกเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่อยู่อย่างไม่ขาดสาย

-ถ้าไม่มีจิตและเจตสิก จะไม่มีการกระทำในสิ่งต่างๆ ได้เลย

-ตื่นมาแล้ว กิน คิด แล้วก็หลับอีก แล้วก็ตื่น และในที่สุดก็ต้องละจากโลกนี้ไป แล้วประโยชน์จริงๆ อยู่ตรงไหน?

-ธาตุรู้ ใครจะบังคับให้เกิดขึ้นหรือไม่ให้เกิดขึ้น ก็ไม่ได้ เกิดเพราะเหตุปัจจัย และเมื่อเกิดแล้วก็ดับไป ธาตุรู้ หลากหลายมาก เห็นก็เป็นธาตุรู้ ได้ยินก็เป็นธาตุรู้ เป็นต้น

-กรรมที่ได้กระทำในขณะนี้ ไม่สูญหายไปไหน สะสมลึกมากอยู่ในจิต

-เห็นมีจริง ได้ยินมีจริง เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย เมื่อเกิดแล้วก็ดับไปจึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของใคร

-ที่บอกว่าชอบ นั้น ชอบในอะไร? ชอบในเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไปไม่กลับมาอีกเลย

-ต้องฟังมากทีเดียว กว่าจะขัดเกลาความไม่รู้ที่สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ให้เบาบางลงได้

-ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจ ความเข้าใจนั้นไม่เปลี่ยน มีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นเหตุให้เข้าถึงตัวจริงของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้

-ธรรม ลึกซึ้งมาก คิดเอาเองไม่ได้เลยจริงๆ

-พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีสูงสุด กว่าจะได้ทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ

-ได้ยินเป็นได้ยิน เห็นเป็นเห็น แข็งเป็นแข็ง นี้แหละ ธรรมแต่ละหนึ่ง

-โอกาสที่มีค่าที่สุด ย่อมไม่พ้นไปจากโอกาสที่ได้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริง

-ตลอดทั้งพระไตรปิฎก ไม่พ้นไปจากเรื่องของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

-ราคา เป็นเครื่องประเมินราคะความติดข้องต้องการว่ามีมากแค่ไหน

-ที่ยึดถือว่าเป็นเรานั้น ก็คือนามธรรมและรูปธรรม จนกว่าจะได้ฟังพระธรรมและเข้าใจจริงๆ ว่า ไม่มีเรา มีแต่ธรรมเท่านั้น

-ต้องทำดี สะสมบารมีพร้อมด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจ จึงจะสามารถขัดเกลากิเลสอกุศลซึ่งเป็นสิ่งสกปกเน่าเหม็น ได้

-ธรรมไม่ได้แยกจากปรมัตถธรรม และไม่ได้แยกจากอภิธรรมเลย เพราะเป็นสิ่งที่มีจริง ที่ละเอียดลึกซึ้ง และใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้

-ธรรม ถ้าไม่ศึกษาจริงๆ ศึกษาเผินๆ ย่อมเข้าใจผิดได้ง่ายๆ

-แม้จะหนาแน่นไปด้วยอกุศล แต่ก็ยังดีที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม เป็นกัลยาณปุถุชน จนกว่าจะข้ามพ้นความเป็นปุถุชนสู่ความเป็นอริยบุคคล

-เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ดีแล้ว ถ้าได้ฟังได้ศึกษาต่อไป ก็ยิ่งดียิ่งขึ้น

-เมื่อวานได้ฟังแล้ว วันนี้ได้ฟังอีก พรุ่งนี้จะได้ฟังไหม วันต่อๆ ไปจะได้ฟังไหม ควรอย่างยิ่งที่จะฟังพระธรรมตลอดชีวิต จนกว่าจะจากโลกนี้ไป

-ทำดีได้ ทำเลย เดี๋ยวนี้ เพราะโอกาสหน้าอาจจะไม่มีก็ได้

-สิ่งที่ควรกลัวคือกิเลสอกุศลธรรมทั้งหลาย

-คนที่ทำชั่ว ผลของกรรมชั่ว ย่อมเกิดขึ้นแก่เขา ควรหรือที่จะไปซ้ำติมในคนที่ทำชั่ว แต่ควรที่จะได้สงสารเห็นใจเขา

-ใครชั่ว ก็เป็นเรื่องของเขา สุดปัญญาที่เราจะช่วยให้เขาดีได้ เขาย่อมเป็นไปตามกรรมของเขา

-พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม อุปการะเกื้อกูลให้ได้พ้นจากสิ่งที่มีพิษภัย คือกิเลสอกุศลธรรมทั้งหลาย

-ชั่วก็เป็นสภาพธรรม ดี ก็เป็นสภาพธรรม ไม่ใช่บุคคลหนึ่งบุคคลใดเลย

-ช่วยให้คนอื่นดีขึ้น นั้น เป็นสิ่งที่ดีแน่ๆ แต่ถ้าช่วยเขาไม่ได้ ก็ควรมีเมตตากับเขา เกื้อกูลเขาเท่าที่จะเป็นไปได้

-ความโกรธเป็นโทษ ไม่เป็นประโยชน์แก่ใครๆ เลย

-ตกนรก เกิดในอบายภูมิใครทำให้? ไม่มีใครทำให้เลย แต่ มือที่มองไม่เห็น คือ อกุศลกรรมที่ตนเองได้กระทำไว้แล้ว นั่นเอง ถึงคราวให้ผล

-เกิดเป็นมนุษย์เป็นผลของกุศลกรรม แต่ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมแล้วไม่ได้ทำให้เกิดในสุคติภูมิเลย มีแต่ทำให้เกิดในอบายภูมิ เช่น อาจจะเกิดในน้ำเป็นปลา เกิดเป็นสัตว์มีปีกบินได้ หรือ ไม่มีปีก ก็ได้

-อาจจะจากโลกนี้ไปก่อนถึงวันข้ามปี ก็เป็นได้ ถ้ารอทำบุญวันข้ามปี อาจจะไม่มีโอกาสได้ทำก็ได้

-ไม่รู้แล้วไปทำอะไร ก็ไม่รู้ไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ทำ

-พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตลอด ๔๕ พรรษา จะไม่เกิดประโยชน์กับผู้ไม่ได้ฟังไม่ได้ศึกษาเลย

-ชวนกันไปสวดมนต์ข้ามปี ทำไปด้วยความไม่รู้ ก็เป็นการชวนกันไปไม่รู้ข้ามปี

-ดีใจจริงๆ ที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ไม่ว่าจะได้ฟังช้าหรือฟังเร็ว ก็ดีกว่าไม่มีโอกาสเลย.

ขอเชิญคลิกอ่านครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

เก็บเล็กผสมน้อย ... สนทนาธรรมที่เดอะวินเทจ โฮเตล เขาใหญ่ [ครั้งที่ ๑]

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณแสงมณี ชิงดวง

ตลอดจนถึงผู้มีส่วนสำคัญในการจัดให้มีการสนทนาธรรมในครั้งนี้ทุกท่าน

และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 24 ธ.ค. 2556

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์คำปั่น ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 26 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 26 ธ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 26 ธ.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 27 ธ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 27 ธ.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ch.
วันที่ 28 ธ.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
rrebs10576
วันที่ 29 ธ.ค. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
raynu.p
วันที่ 30 ธ.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jaturong
วันที่ 2 ม.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 10 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ