ชำระจิต

 
เมตตา
วันที่  9 ก.พ. 2557
หมายเลข  24440
อ่าน  2,390

สิ่งที่ต้องชำระต้องเป็น บาป อกุศลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แล้วอะไรเป็นเครื่องอาศัยที่จะชำระบาป ชำระจิตให้สะอาดขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยกุศลธรรมที่เกิดขึ้น ที่จะเจริญขึ้นด้วยการเข้าใจธรรม เพราะขณะที่เข้าใจธรรมก็เป็นขณะที่ชำระจิตแล้ว ธรรมก็คือชีวิตประจำวันธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปซึ่งเป็นปกติที่อกุศลจะเกิดมากมายกว่ากุศล วันหนึ่งๆ มีแต่ความติดข้อง ความขุ่นเคืองใจ โกรธ อิจฉา ก็ถูกอกุศลครอบงำ ก็ต้องอาศัยคุณความดี กุศลธรรมทั้งหลาย ที่จะชำระจิตนี้ เริ่มจากอาศัยการฟังพระธรรมให้เข้าใจ

การยังกุศลให้ถึงพร้อม ทั้งหมดเกิดจากการฟังธรรมเข้าใจ ความประพฤติเป็นไปตามที่ เข้าใจ ความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การไม่ทำบาปทั้งสิ้น ก็คือการเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ เห็นขณะนี้ จากการฟังก็เข้าใจว่า เห็นเป็นธรรม แต่ตามความเป็นจริงก็ยังเป็นเราที่เห็น เห็นแล้วก็ตามมาด้วยอกุศลตามการสะสม แล้วจะกั้นอกุศลที่จะเกิดต่อได้อย่างไร ถ้าไม่ฟังธรรมก็จะไม่เห็นโทษของอกุศลเลย แล้วจะกั้นอกุศลได้อย่างไร การละบาป การชำระจิตก็ต้องเกิดจากการเข้าใจจริงๆ ถ้าไม่เข้าใจ เห็น ตามความเป็นจริง อกุศลก็เกิดต่อทันที... หากไม่รู้สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฎ อกุศลก็เกิด จึงต้องอาศัยการฟังพระธรรมจนกว่าจะรู้สิ่งที่กำลังปรากฏตามที่ได้ฟัง ฟังเพื่อละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา

ไม่มีเวลาที่ความเป็นเราจะพิจารณาธรรม มีแต่เวลาที่เข้าใจ ฟังธรรมเพื่อเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ ฟังจนเข้าใจความเป็นอนัตตา ไม่มีเรา มีแต่ธรรม

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 9 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
j.jim
วันที่ 10 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
papon
วันที่ 14 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ms.pimpaka
วันที่ 28 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ประสาน
วันที่ 17 ก.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ