บุญที่เหนือบุญ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
---ถอดคำบรรยายธรรม --
กราบเท้า บูชา พระคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
บุญคืออะไร บุญมีระดับแตกต่างหลากหลายกันอย่างไร และ บุญอย่างไหน ที่เหนือกว่า บุญทั้งหลาย
ก่อนอื่น ต้องทราบนะคะว่า ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม ทุกคน ก็มีทั้งกุศลและอกุศล แน่นอน มีการให้ทาน มีการรักษาศีล แต่ว่าเข้าใจสิ่งที่มีในขณะนี้ หรือเปล่า เพราะฉะนั้น ความต่าง ของ การเพียงแต่ว่า ต้องการ บุญ คือ สิ่งที่ดี เพราะ เพียงรู้ว่า เมื่อมีกุศลซึ่งเป็นเหตุ ก็ย่อมนำมาสู่ผลที่ดี คือ กุศลวิบาก แต่ว่า ไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเลยทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น ผู้ใดก็ตามค่ะ ที่ได้เฝ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งที่จะได้ฟัง คือ ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ในสิ่งที่บุคคลนั้นถาม แม้แต่ บุญ นี่ค่ะ คืออะไร เป็น เรา ดี ทำ ดี แล้วเราก็ จะได้ มีความสุข มีผลของบุญ
นั่นคือ ไม่รู้จัก คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ ความเข้าใจ ในเหตุและผล ว่าเมื่อเหตุดี ผลก็ต้องดี ถ้าเหตุไม่ดี ผลก็ไม่ดี เท่านั้นเอง แต่ไม่มีความเข้าใจอะไรเลยทั้งสิ้นแม้ว่า จะได้พบ ได้เฝ้า แล้วก็ได้ทูลถาม
เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาค ก็ทรงแสดง ให้บุคคลนั้น รู้ ตามความเป็นจริง ว่า แม้ว่าจะ เป็นบุญ หรือว่าทำบุญ หรือว่าได้บุญ กันยังไง
ตามความคิด ความเข้าใจ แต่ก็ ไม่ได้ รู้จัก สภาพธัมมะ ตามความเป็นจริง ซึ่งการที่ สามารถจะ เข้าใจ สิ่งที่มี ในขณะนี้ ถูกต้อง ตามความเป็นจริงเป็น บุญ เหนือ บุญทั้งหลาย เพราะเหตุว่า บุญอื่นๆ นี่ค่ะ ไม่สามารถ ที่จะ ทำให้ มี ความเห็นที่ถูกต้อง ใน สิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้น ก็ต้องเข้าใจด้วย
บุญ คือ ธัมมะฝ่ายดี มีจริงๆ แต่ก็มีหลายประเภท
บุญขั้นทานก็มี ช่วยเหลือบุคคลอื่น ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น
บุญขั้นศีล ก็เห็นโทษของการที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน
เพราะว่า ไม่มีใคร ต้องการ การถูกเบียดเบียนเลยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เมื่อบุคคลใด ไม่ต้องการให้ถูกเบียดเบียน ก็ไม่เบียดเบียนใคร แล้วก็ยัง บางคน ก่อนครั้งพุทธกาล ก็มีปัญญา ที่เห็นถูกว่า วันหนึ่ง วันหนึ่ง จิตเป็นอกุศลมาก โอกาสที่จะช่วยเหลือคนอื่น หรือว่า ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น ก็เป็นเพียงบางครั้งบางคราว
เพราะฉะนั้น จิตที่เป็นอกุศลเนี่ย ใครๆ ก็รู้ว่า ไม่ดี แต่ไม่สามารถ ที่จะทำให้ อกุศล ซึ่งฝังรากลึกหมักหมมอยู่ในจิต ออกไปได้ เพราะเหตุว่า ไม่รู้ความจริง ไม่มีความเข้าใจในเหตุและผล ว่า ต้องเป็น ความเห็นถูก ในสิ่งที่มีจริง ซึ่งคิดเองไม่ได้เลย ต้องอาศัย ผู้ที่ทรงตรัสรู้ ทรงแสดง จึงสามารถ ค่อยๆ รู้ ความจริงได้
นี่ก็ เป็นบุญ ที่ ขณะใด เข้าใจ ความจริง แม้ในขณะนั้น ไม่ได้ให้ทาน ไม่ได้เบียดเบียนคนอื่น ก็ตามแต่ แต่ที่เคยเป็นอกุศลเนี่ย ก็สามารถจะเป็นกุศลได้
การฟังธัมมะ ก็พิจารณา ชีวิตของตัวเอง หรือว่า ความเข้าใจของตัวเอง หรือว่าจิตใจของตัวเอง ซึ่งใกล้ชิดที่สุด ใกล้กว่าจิตคนอื่น ใกล้กว่าเหตุการณ์อื่นๆ ทั้งหมด เพราะฉะนั้น ถ้าสามารถที่จะ เข้าใจ ความจริง ที่ตนเอง ก็สามารถ ที่จะ รู้ได้ว่า ไม่มีหนทางอื่นเลย ที่จะไปเข้าใจคนอื่น เท่ากับ เข้าใจตนเอง หรือว่า ใครคิดว่า จะเข้าใจคนอื่นได้ ดีกว่า เข้าใจตนเอง นี่ก็เป็นสิ่งที่ผิด แล้วก็คิดเอง มาแต่ต้น ผู้ที่ไม่มีปัญญานี่ค่ะ คิดสารพัดคิด แต่ว่า ความคิดนั้น จะถูกหรือจะผิด จะตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ ต้องอาศัย การได้ยินได้ฟัง เรื่องของสิ่งที่มีจริง แล้วก็เรื่องของจิต ทั้งกายวาจา ในชีวิตประจำวัน จึงสามารถ ที่จะรู้ได้ว่า เพียงบุญ แต่ว่า ไม่มีความเห็นถูก ไม่มีความเข้าใจถูก ในสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ ก็ไม่พอ เพราะเหตุว่า ยังไงๆ ก็ไม่รู้ค่ะ ขณะนี้ นะคะ เป็นอย่างนี้ เพราะอะไร
ด้วยความเคารพ จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาสำหรับกุศลทุกประการของทุกๆ ท่านค่ะ
ด้วยความเคารพ จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)
วันพระ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง -- ศุกร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗