ลมหายใจ คือจิตชรูป
กราบเรียน อาจารย์ ทุกท่าน
ได้ฟังท่านอาจารย์สุจินต์ บรรยาย ในเรื่องของอาณาปานสติ ซึ่งได้ทราบว่า ลมหายใจเกิดจาก จิต ซึ่งเป็นจิตชรูป ไม่ได้เกิดจาก อุตุ หรือ กรรม เป็นปัจจัย. เลยเริ่มต้นพิจารณา ในเรื่องของความละเอียดอ่อน ของแต่ละขณะจิต ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีลมหายใจปรากฏ นั้นเกิดขึ้นจากจิต และรวดเร็วมาก แทบจะเรียกได้ว่า ไม่รู้สึกตัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งจากการฟังนี้ก็มีคำถามมาเรียนถามครับ
- เมื่อลมหายใจ เกิดขึ้นจาก จิตเป็นสมุฎฐาน ขณะที่กำลังหลับสนิท ลมหายใจที่เกิดขึ้น ยังจะมีจิตเป็นสมุฎฐานอยู่หรือไม่ครับ? หรือเกิดขึ้นจากอุตุ หรือ กรรม ครับ? สาเหตุที่สงสัยเพราะขณะที่หลับสนิท ไม่รู้อารมณ์ของโลกทางตา หู จมูก ลิ้น และ กาย แม้แต่ใจก็ไม่รู้อารมณ์
และขอความอนุเคราะห์ อาจารย์ ทุกท่าน อีกคำถามครับ ซึ่งยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ชื่อเรียกของปัญญาครับ หากว่า ปัญญา ที่ รู้ว่า นามคือนาม นามไม่ใช่ รูป และรูปคือรูป ไม่ใช่นาม และไม่มีความเข้าใจผิดว่า รูปเป็นนาม หรือ นามเป็นรูป ปัญญา ระดับขั้นนี้เรียกว่า นามรูปปริจเฉทญาณ
- แต่หากปัญญา รู้ความห่างกัน ระหว่าง เสียงที่ได้ยิน ที่ดับไปแล้ว รู้ว่ามีภวังค์คั่น ถึงจะนึกคิดต่อ รู้ว่าสภาพรู้ เกิดขึ้นคนละขณะกัน ชัดเจน รวมๆ คือรู้ชัด ว่า ได้ยินดับไปก่อนถึงจะเป็นนึกคิด หรือ เห็นเกิดขึ้นและดับไปก่อน จึงจะเป็นนึกคิด ได้กลิ่น, ลิ้มรส, รู้โผฏฐัพพะ ฯลฯ และในขณะนั้นปัญญาก็รู้ว่าไม่มีเรา ที่ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้โผฏฐัพพะ . ปัญญา ระดับขั้นนี้มีชื่อเรียกเป็นภาษาบาลี หรือไม่ อย่างไรครับ?
ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-ธรรม ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง และไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันเลย แม้กล่าวถึงรูปที่เกิดจากจิต ก็เป็นธรรมในขณะนี้ จะหาความละเอียดของความจริงได้ ก็ต้องได้อาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ในขณะที่หลับสนิท จิตเป็นภวังค์ ซึ่งก็ต้องมั่นคงว่า ภวังคจิต ก็รู้อารมณ์ (จิตทุกขณะ ต้องรู้อารมณ์ตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ ) แต่อารมณ์ของภวังคจิต ไม่ได้ปรากฏ ไม่ใช่อารมณ์ของโลกนี้ โลกนี้ไม่ปรากฏเลยในขณะที่หลับสนิท ในขณะที่นอนหลับ ก็มีรูปที่เกิดจากจิต ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงรูปที่เกิดจากจิต ก็ต้องมีจิตเป็นสมุฏฐาน
ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
จิตตชรูปเกิดแม้ในขณะที่นอนหลับ
ลมหายใจเป็นรูปที่เกิดจากจิตหรือจิตตชรูป
-ปัญญา ซึ่งเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก มีหลายระดับขั้น ในเบื้องต้นที่พอจะเข้าใจได้คือ ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก นั้น เข้าใจถูกเห็นถูกในอะไร? ก็ต้องเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงๆ กิจหน้าที่ของปัญญา คือ ความเข้าใจถูกตามความเป็นจริง ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง จากข้อความที่คุณพีระพลได้กล่าวมา ก็พอที่จะเข้าใจได้ว่า ไม่ได้สำคัญอยู่ที่การเรียกชื่อ แต่ก็สามารถที่จะพิจารณาได้ว่า ปัญญาจะเจริญขึ้นไปตามลำดับได้ ต้องไม่ขาดปัญญาในขั้นของการฟัง (สุตมยปัญญา) ต้องได้ฟังและเข้าใจตามความเป็นจริง ไม่คิดเอาเอง ไม่เข้าใจผิดจากความเป็นจริงของธรรม แต่ยังไม่ถึงขั้นที่เป็นการระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรม ซึ่งเมื่อระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นสติปัฏฐาน ก็ตรงตามที่ได้ยินได้ฟังทุกประการ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...