พระที่มีวิชาโหราศาสตร์ติดตัวมา ดูหมอผิดวินัยหรือไม่

 
เจริญในธรรม
วันที่  29 พ.ค. 2557
หมายเลข  24914
อ่าน  6,996

ดูใช้หลักวิชาโหราศาสตร์ใช้วันเดือนปีเกิดหรือดูไพ่ยิปซี


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 29 พ.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระภิกษุเป็นเพศที่สละทุกอย่างดั่งเช่นคฤหัสถ์และประพฤติขัดเกลายิ่งเพื่อดับกิเลสโดยส่วนเดียว เพราะฉะนั้น การดูหมอ ย่อมไม่สมควรโดยประการทั้งปวงกับเพศบรรพชิต พระภิกษุ และ ทำให้ท่านต้องอาบัติได้ ครับ

พระภิกษุที่ท่านมีพฤติกรรมอย่างนั้น เป็นผู้มีความประพฤติที่เสียหาย เป็นผู้มีการเลี้ยงชีพในทางที่ผิด เป็นผู้ไม่ดำรงอยู่ศีลของพระภิกษุ เป็นผู้ทำลายพระศาสนาบิดเบือนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเป็นผู้เสื่อมคุณความดีที่จะพึงมีพึงได้จากการเข้ามาสู่พระธรรมวินัยนี้ เมื่อกระทำแต่สิ่งที่ไม่เหมาะอยู่เรื่อยๆ แล้วภพหน้าจะเป็นอย่างไร? โทษย่อมเกิดแก่ท่านเหล่านั้นโดยส่วนเดียว ทำให้เห็นถึงการสะสมมาของแต่ละบุคคล ว่า เป็นไปตามการสะสมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ถ้าหากว่าไม่ได้ศึกษาพระธรรม หรือ ศึกษาอย่างผิวเผินไม่ได้เข้าใจอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง โอกาสที่จะประพฤติปฏิบัติผิด นั้น ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

มหาศีล

(๑๑๔) ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉาน-วิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายฟ้าผ่าเป็นต้น ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู

[เล่มที่ 11] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 316

เป็นหมอยาพิษ เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกา เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกัน ลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 29 พ.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การดูหมอ ดูดวง ดูไพ่ เป็นต้น ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า เดรัจฉานวิชา เป็นวิชาที่ขัดขวางทางสวรรค์และมรรคผล ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม มีแต่ทำให้เกิดความลุ่มหลง ทำให้เสื่อมจากคุณความดีที่จะเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และ ไม่ควรสนับสนุนด้วย ยิ่งเป็นเพศบรรพชิตแล้วยิ่งจะต้องขัดเกลากิลส ด้วยความเป็นผู้จริงใจในการที่จะศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ น้อมประพฤติปฏิบัติเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง และเมื่อเข้าใจพระธรรมวินัยอย่างถูกต้อง นอกจากจะเป็นประโยชน์สำหรับตนเองแล้วยังสามารถเกื้อกูลให้ผู้อื่นมีความเข้าใจถูกเห็นถูกได้ด้วย เพราะสิ่งที่ควรเรียน ควรศึกษาให้เข้าใจจริงๆ คือ พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลสำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง ไม่นำความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้เลยแม้แต่น้อย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 30 พ.ค. 2557

หน้าที่ของพระภิกษุมี 2 อย่าง คือ การศึกษาธรรม การเจริญสติปัฏฐาน นอกจากนั้นไม่ใช่กิจของพระภิกษุ และ ที่สำคัญการดูดวงผิดพระวินัยเป็นอาบัติ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 2 มิ.ย. 2557

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Chutimon3033
วันที่ 7 ก.ค. 2564

มีพระบางท่านตีความว่า หากไม่ได้รับปัจจัยหรือเลี้ยงชีพ แต่ดูดวงเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมแบบนี้ควรหรือไม่คะ โดยส่วนตัวเคยเจอพระที่หลายๆ คนต่างบอกว่าท่านมีหูทิพย์ ตาทิพย์ ทักอะไรแม่นยำ เจอหน้าใครก็ทักได้เลยเหมือนตาเห็น ท่านเคยทักเราให้เกิดความกลัดกลุ้มไม่สบายใจ เลยสงสัยว่า อนาคตสามารถเปลี่ยนได้หรือไม่ และการที่พระทักดวงชะตาให้คนจิตตก แม้ไม่ได้เลี้ยงชีพหรือหวังลาภ แบบนี้ถือว่ากระทำได้หรือไม่คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
สิริพรรณ
วันที่ 7 ก.ค. 2564

อันตรายของการไม่ได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริง มีโทษมากมาย ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นที่ได้รับฟังคำพูดจากความเห็นผิด ความไม่รู้น้้นด้วย เป็นการไม่เคารพต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สะสมเหตุไม่ดีให้สืบต่อให้มีกำลังมากขึ้น ด้วยกิเลสที่สะสมหมักหมมอย่างยาวนานในภพชาติที่นับจำนวนไม่ได้ ความยินดีติดข้องในความเป็นเรา จึงทำทุกอย่างเพื่อเรา แม้อยู่ในเพศที่ควรประพฤติตามพระธรรมวินัยตามที่ได้ปฏิญาณเมื่อกล่าวคำของบวช แต่ไม่ได้ศึกษาจึงไม่รู้ว่ากล่าวคำอะไร ได้แต่พูดตามๆ กัน แล้วก็ทำผิดทุกวันเพิ่มขึ้นๆ โดยไม่ทำกิจหน้าที่ของนักบวชคือการศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา และขัดเกลากิเลส แต่กลับไปทำกิจที่พระธรรมวินัยห้ามไว้ เป็นการทำลายตนเองทำลายผู้อื่นยังไม่พอ ยังเป็นการทำลายพระศาสนาด้วย โดยไม่รู้ว่ามีโทษถึงกับไปอบายภูมิได้ แม้การกล่าวว่าได้หูทิพย์ตาทิพย์ก็เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อยังมีความประพฤติที่เป็นอกุศล การหลอกลวงก็เป็นโทษ จึงน่าสงสารมาก ผู้ที่เป็นฆาราวาสที่ได้ศึกษาพระธรรมรู้โทษนี้แล้ว อนุเคราะห์ให้ผู้นั้นได้รู้ อีกทั้งไม่สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้นั้นทำผิดมากขึ้น ก็เท่ากับเป็นผู้เคารพพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และช่วยกันรักษาพระศาสนาให้ดำรงต่อไปสำหรับคนรุ่นหลัง การศึกษาพระธรรมจะทำให้มั่นคงในเหตุและผลค่ะ เหตุดีผลย่อมเป็นไปตามเหตุ ไม่ได้อยู่ที่ใครมาบอกให้เชื่อ ไม่ได้ขึ้นกับดวงดาวใดๆ เพราะดวงดาวเป็นรูป ไม่รู้อะไร ทำอะไรไม่ได้ จึงไม่ถูกหลองลวง และ ไปทำอะไรต่างๆ ในสิ่งที่ไม่ใช่เหตุไม่ใช่ผล
ขออนุโมทนาค่ะ

ศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกที่

ผู้ทำให้พระสัทธรรมเสื่อมและมั่นคง

หน้าที่ของภิกษุและสามเณร

ศาสนกิจของพระภิกษุ

กิจของพระภิกษุในพระธรรมวินัย คือ อบรมเจริญปัญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 7 ก.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 7 ก.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Chutimon3033
วันที่ 8 ก.ค. 2564

ขอบคุณมากค่ะ สาธุค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ