ขั้นปริยัติ และ ขั้นปฏิบัติ

 
chatchai.k
วันที่  17 ส.ค. 2557
หมายเลข  25324
อ่าน  2,333

จากหนังสือปรมัตถธรรมสังเขป

ขั้นปริยัติ หมายถึง ศึกษาพระธรรมวินัย

ขั้นปฏิบัติ หมายถึง เจริญธรรมเพื่อบรรลุธรรมที่ดับกิเลสดับทุกข์

การเจริญธรรม คืออย่างไรครับ ต้องอาศัยวิธีปฏิบัติ หรือ ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สาวก คือ ผู้สำเร็จได้จากการฟัง ฟังอะไร คือ ฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ เพื่ออะไร เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า การศึกษาต้องเป็นไปตามลำดับ คือ เริ่มจากความเข้าใจที่ถูกต้องคือ ปริยัติ เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็ย่อมนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง เมื่อปฏิบัติที่ถูกต้อง ก็ย่อมนำไปสู่ปฏิเวธ การบรรลุธรรม ดังนั้น จึงเป็น ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ซึ่งปริยัติ และปฏิบัติไมได้แยกจากกัน คือ เกี่ยวเนื่องกันไปครับ ถ้าไม่เข้าใจขั้นการฟัง จะปฏิบัติถูกไม่ได้เลยครับ แต่เพราะอาศัยคำสอนของพระพุทธเจ้า ขณะที่เข้าใจ ในขณะที่ศึกษา ในขณะที่ฟัง ขณะนั้นก็ปัญญาค่อยๆ เจริญแล้วจนถึงปัญญาที่รู้ความจริงในขณะนี้ ขณะนั้นก็เป็นปฏิบัติ ใครปฏิบัติ ธรรมปฏิบัติ คือ ปัญญาเกิดรู้ความจริงนั่นเองอันอาศัยปริยัติ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ดังนั้น เพราะอาศัย การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็ย่อมทำให้เข้าใจว่าปฏิบัติคืออะไร เพราะถ้าไม่ศึกษา จากพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง จะเข้าใจได้อย่างไรว่าปฏิบัติคืออะไร คำพูดใดของบุคคลใด ถูกหรือผิด แม้แต่คำว่าปฏิบัติ ก็เข้าใจเป็นการทำอะไรซักอย่าง ที่ยุคสมัยนี้เข้าใจว่า คือ การทำ การนั่งสมาธิคือการปฏิบัติ แต่ในความจริงแล้ว คำว่า ปฏิบัติ แปลความหมายแล้ว หมายถึง การถึงเฉพาะ ถึงเฉพาะซึ่งสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ครับ

ปฏิบัติธรรม จึงหมายถึง ถึงเฉพาะธรรม แต่ถ้าไม่ฟังให้เข้าใจก่อนขั้นการฟังให้ถูกต้องว่าธรรมคืออะไร แล้วจะไปหาธรรมอะไร ไปปฏิบัติธรรมอะไรในเมื่อยังไม่เข้าใจในสิ่งที่หาคือ ธรรม ครับ เพราะฉะนั้น ธรรมคือสิ่งที่มีจริงที่มีลักษณะ ที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคลที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม อันเป็น จิต เจตสิก รูป เช่น การเห็น เป็นจิต เป็นธรรม การได้ยินเป็นจิต เป็นธรรม คิด เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นจิต เป็นธรรม ความโกรธ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นเจตสิก เป็นธรรม เสียง เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นรูป เป็นธรรม จากที่กล่าวมา จะเห็นว่า ธรรมคือ สิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวัน
ดังนั้น การปฏิบัติธรรม หรือ ที่เรียกว่าปฏิบัติเพื่อรู้ตัวธรรมก็ต้องรู้สิ่งที่เป็นธรรมในชีวิตประจำวัน มีตอนอยู่ในห้องปฏิบัติใช่หรือไม่ ตัวธรรมมีตอนที่นั่งสมาธิหรือไม่ ครับ สำหรับธรรม หรือมีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมก็คือการรู้ความจริงในสิ่งที่มีในชีวิตประจำวันด้วยการฟังพระธรรมในเรื่องสภาพธรรมเรื่องสติปัฏฐาน จะเห็นครับว่าเพราะอาศัยการศึกษา ฟังพระธรรมที่ถูกต้องก็ย่อมเข้าใจว่าธรรมคืออะไรปฏิบัติคืออะไร ก็จะทำให้เป็นผู้เดินทางในหนทางที่ถูกด้วยการศึกษาพระธรรม นี่คือประโยชน์ของการศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมทำให้เห็นถูกและเข้าใจในสิ่งที่ถูกตามความเป็นจริง แม้แต่คำว่าธรรมและคำว่าปฏิบัติธรรม ครับ ประโยชน์ของการฟัง ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง จึงเป็นเบื้องต้นของการบรรลุธรรม ครับ สมดังพระพุทธพจน์ที่ว่าต้องอาศัยการฟังธรรมพิจารณาธรรมโดยแยบคาย และการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม คือ ปัญญาเกิด ในขณะที่ฟังธรรมนั่นเอง ย่อมถึงความเป็นพระโสดาบันครับ

[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ ๒๗๙

๕. ทุติยสาริปุตตสูตร

ว่าด้วยองค์ธรรมเครื่องบรรลุโสดา

[๑๔๒๗] ครั้งนั้นท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระสารีบุตรว่า ดูก่อนสารีบุตร ที่เรียกว่า โสตาปัตติยังคะๆ ดังนี้ โสตาปัตติยังคะเป็นไฉน.

[๑๔๒๘] ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ การคบสัตบุรุษ ๑ สัทธรรมสวนะ ฟังคำสั่งสอนของท่าน ๑ โยนิโสมนสิการ กระทำไว้ในใจโดยอุบายที่ชอบ ๑ ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑.

[๑๔๒๙] พ. ถูกละๆ สารีบุตร โสตาปัตติยังคะ คือ สัปปุริสสังเสวะ ๑ สัทธรรมสวนะ ๑ โยนิโสมนสิการ ๑ ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ๑. ฯลฯ

การเจริญธรรม ก็คือ การที่ธรรมที่ดีเกิดเจริญขึ้น คือ สติ และปัญญาเกิด เจริญเพิ่มขึ้นอันเกิดจากการฟังศึกษาพระธรรม ครับ ขออนุโมทนา

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติคืออะไร

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ที่ถูกต้องคืออย่างไร

การอบรมเจริญปัญญาขาดปริยัติไม่ได้ ไม่ใช่จะไปปฏิบัติเลย

ปัญญาต้องมาจากปริยัติธรรม - บ้านธัมมะ

การศึกษาปริยัติเกื้อกูลการปฏิบัติอย่างไร - บ้านธัมมะ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าหากว่า ไม่มีการศึกษาพระธรรมคำสอน ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่มีความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่มีทางที่จะมีปัญญาเจริญขึ้น ในขั้นต่อไป ที่เป็นขั้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง จนถึงขั้นประจักษ์แจ้งความจริงดับกิเลสตามลำดับขั้นได้เลย ถ้าหากว่าไม่ต้องเรียนปริยัติ ให้ไปทำอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้นมาเพื่อที่จะได้รู้ความจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คงไม่ต้องมีก็ได้ แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เพราะพระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรมแล้ว ทรงแสดงให้ผู้อื่นได้รู้ตามความเป็นจริง ทรงแสดงพระธรรมตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา ก็เพื่อประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง เพราะธรรมไม่ง่ายและไม่สามารถคิดธรรมเอาเองได้

พระอริยสงฆ์สาวกในอดีตเริ่มตั้งแต่พระอัญญาโกญฑัญญะ เป็นต้น ล้วนเป็นผู้ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วทั้งนั้น

ถ้ามี พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งแล้ว ก็จะไม่ว่างเว้นจากการศึกษาพระธรรม อรมเจริญปัญญาเลย ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ดำเนินตามหนทางที่พระอริยสงฆ์สาวกดำเนินแล้ว ซึ่งเป็นหนทางเดียว และเป็นหนทางเดิม คือ หนทางแห่งการอรมเจริญปัญญา เพระมีปริยัติที่ถูกต้อง ปฏิปัตติคือการถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏด้วยสติและปัญญาจึงมีได้ และเพราะมีปฏิปัตติที่ถูกต้อง ปฏิเวธ จึงมีได้ ซึ่งจะต้องมีรากฐานสำคัญ ตั้งแต่ในขั้นปริยัติ คือ การรอบรู้ในพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 18 ส.ค. 2557

เจริญธรรมก็คือเจริญกุศล มีกุศลเป็นที่พึ่งที่อาศัย เช่น มีศีล มีสติ มีวิริยะ คบกัลยาณมิตร เป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้ใคร่ในธรรม สนใจฟังธรรม พิจารณาธรรมะ ขยัน ไม่เกียจคร้าน สันโดษ มีปัญญา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Dechachot
วันที่ 18 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Dusita
วันที่ 17 มิ.ย. 2564

กราบ อนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Sea
วันที่ 25 พ.ย. 2564

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ