เรื่องของลิงในชาดก โยนิโสมนสิการของพระโพธิสัตว์

 
chatchai.k
วันที่  20 ส.ค. 2557
หมายเลข  25344
อ่าน  2,312

เคยได้ฟังชาดกเรื่องหนึ่งมีคติเตือนใจที่ดีมาก คือ เรื่องเกี่ยวกับลิงตัวหนึ่งทิ้งถั่วทั้งกำมือ พระสูตรนี้ชื่อว่าอะไรครับ กรุณาช่วยค้นและทำลิงค์ให้ได้รับฟังครับ

ชาดกคงไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นอย่างนิทานในปัจจุบัน กรุณาช่วยให้ความหมายของ "ชาดก" ครับ และกรุณาช่วยสรุปสาระของชาดกเรื่องนี้เพื่อเป็นคติเตือนใจ ชาดกทุกเรื่องที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น ที่จริงก็เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดดับ เป็นเพียงจิตเจตสิกรูปที่เกิดดับสืบต่ออย่างไม่ขาดสาย ตราบใดที่ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ใช่ไหมครับ กรุณาช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 20 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตนำคำบรรยายของท่าอาจารย์สุจินต์ที่อธิบาย สรุปไว้ดีแล้วในเรื่องนี้ ดังนี้ น่าอ่านมากครับ

ในพระราชอุทยานใกล้ที่ประทับของพระราชา มีลิงตัวหนึ่งลงจากต้นไม้ฉวยเอาถั่วที่ทหารม้าเอามาใส่ไว้ในราง ใส่ปากจนเต็ม แล้วยังคว้าติดมือไปอีก กระโดดขึ้นไปนั่งบนต้นไม้ เริ่มจะกิน เมื่อมันจะกิน ถั่วเม็ดหนึ่งหลุดจากมือ ตกลงไปบนดิน มันจึงทิ้งถั่วทั้งหมด ทั้งที่อยู่ในปาก และที่มือ ลงจากต้นไม้ มองหาถั่วที่ตกนั้น ครั้นไม่เห็นจึงกลับขึ้นต้นไม้ ไปนั่งเศร้าโศกเสียใจ หน้าซึมอยู่บนกิ่งไม้ เหมือนแพ้คดีไปสัก ๑,๐๐๐ คดี

จบแค่นี้หรือเปล่าคะ ถ้าคนที่ไม่คิด ไม่พิจารณา จะไม่มีโยนิโสมนสิการอะไรเลยแต่ผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์จะพิจารณาทุกอย่างที่เห็นด้วยโยนิโสมนสิการ ซึ่งคนธรรมดาเห็นแล้วก็ผ่านไป เพียงลิงตัวหนึ่งลงจากต้นไม้ ฉวยเอาถั่วกำหนึ่งใส่ปากจนเต็ม แล้วก็คว้าติดมือไป กระโดดขึ้นไป พอเริ่มจะกิน ถั่วตกไปเม็ดเดียว ก็ทิ้งหมดทั้งที่มือและที่ปาก ลงจากต้นไม้มองหาถั่วที่ตกนั้น ครั้นไม่เห็น ก็กลับขึ้นต้นไม้ไปนั่งเศร้าโศกเสียใจหน้าซึมอยู่บนกิ่งไม้ ถ้าใครจะมองดูก็คงเห็นเพียงเท่านี้ แต่ว่าพระโพธิสัตว์ซึ่งในครั้งนั้นเป็นอำมาตย์ผู้สอนธรรมของพระราชา คือ เป็นธัมมานุสาสก ได้กราบทูลพระราชาว่า

ผู้โง่เขลา ไร้ปัญญา ไม่มองถึงของมาก มองแต่ของน้อย ลิงผู้เที่ยวหาอาหารตามกิ่งไม้นี้ โง่เขลายิ่งนัก ปัญญาของมันก็ไม่มี มันสาดถั่วทั้งกำเสียหมดสิ้น แล้วเที่ยวค้นหาถั่วเมล็ดเดียวที่ตกลงยังพื้นดิน

ต้องทูลพระราชาไหมคะ เพียงเท่านี้ แต่ว่าถ้าเปรียบกับมนุษย์ อย่าลืมนะคะ การกระทำของลิง และเปรียบกับมนุษย์ พระโพธิสัตว์ทูลว่า

ข้าแต่พระราชา พวกเราก็ดี ชนเหล่าอื่นที่โลภจัดก็ดี จะต้องละทิ้งของมากเพราะของน้อย เปรียบเหมือนวานรเสื่อมจากถั่วทั้งหมด เพราะถั่วเมล็ดเดียว ฉะนั้น

กำลังเป็นอย่างนี้หรือเปล่า นี่คือโยนิโสมนสิการ ที่จะได้จากการพิจารณาว่า เริ่มพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างด้วยโยนิโสมนสิการอย่างพระโพธิสัตว์หรือเปล่า

ข้าแต่พระราชา พวกเราก็ดี ชนเหล่าอื่นที่โลภจัดก็ดี จะต้องละทิ้งของมากเพราะของน้อย เปรียบเหมือนวานรเสื่อมจากถั่วทั้งหมด เพราะถั่วเมล็ดเดียว ฉะนั้น

ทุกคนทิ้งประโยชน์ใหญ่ คือ กุศลทุกขั้น จนถึงมรรคผลนิพพาน เพราะของน้อย คือ ความพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ เพียงชั่วขณะหนึ่งๆ ที่กำลังปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เปรียบกับลิงได้ไหมคะ ทิ้งของมาก ทิ้งประโยชน์ใหญ่ เพราะต้องการเพียงถั่วเม็ดเดียว ถั่วเม็ดเดียว คือ ของเล็กน้อยของรูปที่กำลังปรากฏทางตา เสียงที่กำลังปรากฏทางหู กลิ่นที่กำลังปรากฏทางจมูก รสที่กำลังปรากฏทางลิ้น โผฏฐัพพะที่ปรากฏทางกาย ชั่วขณะเดียวที่สั้นมาก ที่เกิดขึ้นแล้วดับไป ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด กุศลไม่เกิด นั่นคือผู้ที่โลภจัด และก็หลงไป ติดไปด้วยกำลังของอกุศลในสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ถ้าเปรียบกับลิงแล้วรู้สึกอย่างไรคะ เหมือนกัน หรือว่าอยากจะพ้นจากสภาพซึ่งเป็นเพียงลิง

นี่คือ โยนิโสมนสิการของพระโพธิสัตว์

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 20 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป "อรรถกถา กฬายมุฏฐิชาดก"

(ลิงทิ้งถั่ว)

ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอำมาตย์ผู้สอนธรรมของพระเจ้าพรหมทัตในเมืองพาราณสี ต่อมาในฤดูฝนมีกบฎเกิดขึ้นที่ชายแดน พระราชาจะยกทัพไปปราบปรามจึงตั้งค่ายไว้ที่พระราชอุทยานเตรียมที่จะเสด็จออกไป โพธิสัตว์ก็ได้อยู่ใกล้ๆ พระราชา ขณะนั้นพวกทหารได้นำถั่วดำอาหารม้ามาใส่ไว้ในรางมีลิงตัวหนึ่งลงมาจากต้นไม้ฉวยเอาถั่วดำจากรางนั้นใส่จนเต็มปาก แล้วยังคว้าติดมือมาอีกกำหนึ่งกระโดดขึ้นต้นไม้ไปหวังจะนั่งกิน บังเอิญมีถั่วดำเม็ดหนึ่งหลุดจากมือมันล่วงลงบนพื้นดิน มันได้ทิ้งถั่วดำทั้งหมดทั้งที่อยู่ในปากและที่มือลงจากต้นไม้มาหาถั่วดำเม็ดนั้น เมื่อไม่เห็นก็กระโดดขึ้นต้นไม้นั่งซึมเศร้าเสียใจอยู่บนกิ่งไม้นั้น

พระราชาทอดพระเนตรเห็นอากัปกิริยาของลิงทั้งหมดแล้วตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า ลิงตัวนี้ทำอะไร

พระโพธิสัตว์จึงได้กราบทูลว่า ลิงผู้เที่ยวหาอาหารตามกิ่งไม้นี้ โง่เขลายิ่งนัก ปัญญาของมันก็ไม่มี มันสาดถั่วทั้งกำเสียหมดสิ้น แล้วเที่ยวค้นหาถั่วเมล็ดเดียวที่ตกลงยังพื้นดิน แล้วได้กล่าวทูลต่อพระราชา ด้วยการกล่าวเป็นคาถาว่า

ข้าแต่พระราชา พวกเราก็ดี ชนเหล่าอื่นที่โลภจัดก็ดี จะต้องละทิ้งของมากเพราะของน้อย เปรียบเหมือนวานรเสื่อมจากถั่วทั้งหมด เพราะถั่วเมล็ดเดียวฉะนั้น

พระราชาสดับถ้อยคำนั้นแล้วกลับได้สติจึงรับสั่งให้เลิกขบวนทัพเสด็จกลับเข้าเมืองพาราณสีไป ฝ่ายพวกโจรเข้าใจว่าพระราชาเสด็จออกจากเมืองมาปราบปรามก็ได้พากันหลบหนีไปเอง

พระราชาในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระอานนท์ ส่วนอำมาตย์ผู้สอนธรรมให้กับพระราชา ได้มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ดังนั้น ชาดก จึงไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้น แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นไปในอดีต เป็นความประพฤติเป็นไปของบุคคลต่างๆ มีพระโพธิสัตว์ เป็นต้น ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมที่เป็นนามธรรม และ รูปธรรม จึงมีการกล่าวหมายรู้ว่าเป็นคนนั้น เป็นคนนี้ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 20 ส.ค. 2557

ทิ้งถั่วทั้งกำมือเดียว เพียงเพื่อถั่วเม็ดเดียว ท่านเปรียบเหมือน เราทิ้งประโยชน์ใหญ่ คือ การไม่ฟังธรรม ไม่สนใจธรรมะ เพียงเพื่อต้องการดูทีวี ดูตลก หรือฟังเพลง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nopwong
วันที่ 20 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ