ความฉลาด

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  11 ต.ค. 2557
หมายเลข  25629
อ่าน  2,186

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอเรียนถามว่า “ความฉลาด” มีลักษณะ โดยปรมัตถธรรม คืออะไร เป็นอย่างไรบ้างค่ะ

ขออนุโมทนา และ ขอบพระคุณ เป็นอย่างยิ่ง สำหรับคำอธิบายค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความฉลาดที่ชาวโลกกล่าวกัน ที่คิดเก่ง มีเหตุผล ไม่ได้หมายถึงปัญญาเจตสิกปัญญาทางโลก ก็คือ ความฉลาดที่คิดเป็นเหตุเป็นผลความชำนาญในเรื่องราววิชาการต่างๆ นั่นเป็นความฉลาดทางโลก ที่ไม่ใช่ ปัญญาจริงๆ ที่เป็นปัญญาเจตสิก เพราะแม้คิดเป็นเหตุเป็นผลในทางโลกได้ แต่ขณะนั้นเป็นอกุศลจิต หรือขณะนั้นไม่ได้ตรงตามความเป็นจริงที่เป็นสัจจะ ดังนั้น ฉลาดด้วย วิตกมนสิการด้วย อกุศลจิต มีโลภะ เป็นต้นได้ครับ

แต่ความฉลาดที่เป็นปัญญาจริงๆ ที่เป็นปัญญาเจตสิกคือ ความเห็นถูกตามความเป็นจริง ตามสัจจะของธรรมชาติ เช่น ปัญญาที่เข้าใจในเรื่องกรรมและผลของกรรม ปัญญาที่เป็นการอบรมปัญญา เพื่อความเจริญขึ้นของสิ่งที่ดีคือ กุศลอันเป็นปัญญาที่เป็นสมถภาวนา หรือปัญญา คือ ความเห็นถูกที่เข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ตามความเป็นจริง ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์และเป็นอนัตตา ดังนั้น ปัญญาความฉลาดที่ถูกต้อง ที่เป็นปัญญาเจตสิก จึงเป็นกุศลธรรมและเป็นการเห็นทุกสิ่งถูกต้องตามความเป็นจริงครับ

พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 504

[๘๕๖] ธาตุกุสลตา เป็นไฉน

ธาตุ ๑๘ คือ

จักขุธาตุ

รูปธาตุ

จักขุวิญญาณธาตุ

โสตธาตุ

สัททธาตุ

โสตวิญญาณธาตุ

ฆานธาตุ

คันธธาตุ

ฆานวิญญาณธาตุ

ชิวหาธาตุ

รสธาตุ

ชิวหาวิญญาณธาตุ

กายธาตุ

โผฏฐัพพธาตุ

กายวิญญาณธาตุ

มโนธาตุ

ธัมมธาตุ

มโนวิญญาณธาตุ

ปัญญา กิริยาที่รู้ชัด ฯลฯ ความไม่หลงความวิจัยธรรม สัมมาทิฏฐิ อันเป็นเหตุฉลาดในธาตุแห่งธาตุทั้งหลายนั้นๆ อันใด นี้เรียกว่า ธาตุกุสลตา


จากข้อความในพระไตรปิฎก แสดงถึงความฉลาด ในสภาพธรรมที่มีจริง ที่รู้ตรงลักษณะในความเป็นธาตุ ไม่ใช่เรา นั่น คือ ปัญญาเจตสิก ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 11 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความฉลาดในทางโลก ความรู้ในเรื่องศาสตร์ต่างๆ วิชาการต่างๆ หรือ ความสามารถในด้านต่างๆ ล้วนเป็นการตรึกนึกคิด เป็นการสะสมมาที่จะสนใจ ใส่ใจในเรื่องนั้น จนมีความรู้ความชำนาญความสามารถในเรื่องนั้นๆ ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรม คือ จิต และ เจตสิก เลย แต่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ปัญญาในทางพระพุทธศาสนา เพราะปัญญาในทางพระพุทธศาสนา ต้องเป็นสภาพธรรมที่เข้าใจถูก เห็นถูกตามความเป็นจริงของสภาพธรรม

สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ เป็นที่พึ่งที่แท้จริง เป็นที่พึงให้ค่อยๆ ละคลายความติดข้อง ละคลายความไม่รู้ และละคลายอกุศลธรรมประการต่างๆ ไม่ใช่ความฉลาดในทางโลก ไม่ใช่ความสามารถในทางโลกแต่ต้องเป็นปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกที่ค่อยๆ เจริญขึ้น จากการได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทำให้เป็นผู้ฉลาดในธรรม คือ เข้าใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง และผลสูงสุดของความเป็นผู้ฉลาดในธรรม คือ สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้นจนกระทั่งไม่เหลือเลย ห่างไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง ครับ

ขอเชิญคลิกฟังและอ่านคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่นี่่ครับ

วิชาทางโลก-วิชาทางธรรม

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 11 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 13 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 16 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 14 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ