ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๗๔

 
khampan.a
วันที่  21 ธ.ค. 2557
หมายเลข  25937
อ่าน  1,591

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรม จากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๗๔

พระพุทธศาสนาเป็นพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งผู้ที่เป็นสาวก คือ ผู้ฟังพระธรรมของพระองค์ จะต้องพิจารณาให้เกิดปัญญา ของตัวเอง เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด โดยไม่ใช่ปัญญา ไม่ใช่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง อันนั้นจะไม่ใช่การประพฤติปฏิบัติตามคำ สอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย แม้แต่เรื่องที่เข้าใจว่า เล็กๆ น้อยๆ คือเรื่องกุศล ก็ต้องพิจารณาจริงๆ ว่า เป็นกุศลหรือเปล่า หรือเข้าใจว่าเป็นกุศล แต่ว่าความจริงไม่ใช่กุศล

ถ้าเป็นกุศล แล้วก็เป็นเรื่องขัดเกลา เป็นเรื่องอบรมเจริญปัญญา เพื่อที่จะดับ กิเลสเป็นสมุจเฉทอย่างถูกต้อง

แต่ละบุคคลก็มีอัธยาศัยต่างๆ กัน พุทธบริษัทก็มีทั้งที่เป็นบรรพชิต และเป็น คฤหัสถ์ เพราะฉะนั้น สะสมมาอย่างไร สภาพธรรมเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยอย่างไร ก็พิจารณาเพื่อที่จะรู้ในลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล

เรื่องกุศลไม่ควรจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ว่าเป็นเรื่องความเห็นถูกจริงๆ ท่านที่เคยติดในขนบธรรมเนียมใด ต้องพิจารณาหาเหตุผลให้ได้ ถึงจะเป็นปัญญา แต่ถ้ายังเพียงทำไปๆ ด้วยความไม่รู้ ในขณะนั้นก็สติเกิดระลึกรู้ได้ทันทีว่า ในขณะ นั้นไม่ใช่กุศล เป็นความสงสัย เป็นความไม่รู้ เป็นความติดข้อง

คนไม่พูด นิ่งๆ ในใจคิดร้ายต่อคนอื่น ได้ไหม คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ดี แม้ว่าจะเป็นผู้ที่พูดน้อยจริง แต่ว่าขาดเมตตาในบุคคลอื่น หรือว่าอาจจะเห็นว่า การไม่พูดกับคนอื่น เพราะว่าคนอื่นไม่ดี ก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นการกระทำกุศลอย่างหนึ่งอย่างใด อย่าทำเพียงตามขนบ ธรรมเนียมประเพณี แต่ต้องเข้าใจในเหตุผลนั้นด้วยว่า ขนบธรรมเนียมประเพณี อย่างนั้นๆ เพื่อกุศลจิตเกิด หรือว่าเพื่อความไม่รู้ ไม่เข้าใจ

บุญกิริยาวัตถุ เป็นไปในทาน เป็นไปในศีล สมถะและวิปัสสนา เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เป็นในเรื่องของทาน ก็จะต้องพิจารณาว่า เป็นไปในเรื่องของศีลหรือเปล่า การนอบน้อม การระลึกถึงคุณของบุคคลอื่น ขณะใดที่จิตใจอ่อนโยน ไม่แข่งดี และก็ไม่ดูหมิ่น แต่ว่าคิดถึงคุณของคนอื่น แม้ว่ายังไม่ได้เอาอาหารไปให้ แต่ใน ขณะที่จิตใจอ่อนโยนนอบน้อม ในขณะนั้นก็เป็นกุศล แม้ว่าจะยังไม่แสดงความ นอบน้อมโดยการไหว้ แต่ว่าจิตใจในขณะที่อ่อนโยนและก็คิดถึงคุณของบุคคล อื่น ในขณะนั้นก็เป็นกุศล

เรื่องของจิตใจก็เป็นเรื่องที่ละเอียดจริงๆ ว่า การขัดเกลากิเลสไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องเป็นเรื่องพิจารณาสภาพของจิตโดยละเอียดจริงๆ พร้อมทั้งเหตุผลด้วยว่า กุศลต้องเป็นกุศล แต่ถ้าขณะใดมีอย่างอื่นเกิดแทรก ขณะนั้นก็เป็นอกุศล

ที่ไม่มีการให้ทาน ไม่มีการทำบุญประการต่างๆ ก็เพราะขาดศรัทธา เพราะฉะนั้น ขณะใดที่มีการให้ทาน และมีกุศลกรรมต่างๆ ขณะนั้นก็แสดงว่าเพราะมีศรัทธา ซึ่งจะประสบทรัพย์ที่เป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจอันมโหฬาร และจะยังประโยชน์ ตนประโยชน์ผู้อื่นนั่นแหละให้ถึงพร้อมด้วยบุญนั้น แต่บุญเหล่านั้นจะไม่อำนวย ประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแก่ผู้ไม่มีศรัทธาเลย

แม้ว่าบางคนจะไม่พูดส่อเสียด จะไม่พูดคำไม่จริง หรือว่าไม่พูด คำหยาบคาย แต่ว่าแม้คำพูดเหน็บแนมเล็กๆ น้อย ก็เป็นเพราะอกุศลจิต

การที่มิตรจะแหนงหน่าย หรือคลายความสนิทสนม ก็เพราะเสียงหรือ เพราะวาจาได้ เพราะฉะนั้น นี่ก็เป็นการเตือนให้เห็นสิ่งที่มีและก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ อย่างเสียงหรือวาจา ถ้าใช้ในทางกุศล ก็เป็นประโยชน์ แต่ว่าเป็นไปในทางอกุศล ย่อมทำให้แม้มิตรก็แหนงหน่าย หรือว่าคลายความสนิทสนม

แต่ละคนก็สะสมมาที่จะมีอัธยาศัยต่างๆ กัน ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลจริงๆ ความเห็นผิดเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง เป็นปรมัตถธรรม เป็นอกุศลเจตสิก เพราะ ฉะนั้น ก็มีปัจจัยที่จะเกิด ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับเป็นสมุจเฉท แม้พระผู้มีพระภาค จะทรงแสดงพระธรรมโดยละเอียดด้วยประการต่างๆ แต่ว่าคนที่สะสมมาที่จะเข้า ใจผิด เห็นผิด ปฏิบัติผิด ก็ย่อมจะต้องเข้าใจผิด เห็นผิด และปฏิบัติผิด ตามการ สะสมของบุคคลนั้นๆ

ถูก คือ ถูก ผิดคือผิด ไม่ต้องไปหวั่นเกรง ความดี คือ ดี ความไม่ดี คือ ไม่ดี ก็ไม่ต้องไปหวั่นไหวที่จะไม่ดีตามไปหรือผิดตามไป มิฉะนั้นแล้วไม่มีอะไร เป็นที่พึ่งเลย ยังคงมีความไม่รู้ความจริง คือ สิ่งที่กำลังปรากฏ แล้วจะพ้นจาก อบายภูมิได้อย่างไร

ถ้าไม่มีความเข้าใจในแต่ละคำ แล้วจะรอบรู้ในพระธรรมได้อย่างไร

ฟังพระธรรม เท่าที่จะฟังได้

มีแต่ธรรม ไม่มีเรา ไม่มีเขา

ไม่มีการฟังธรรม พอ.

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๗๓

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 21 ธ.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

@ คิดจะทำดี เป็นคนดี ค่อยๆ เป็นคนดี ก็เป็นตัวตนที่แทรกอยู่ละเอียดที่ไม่ใช่หนทาง ดับกิเลส และเป็นการคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว แต่หนทางถูกคือ เข้าใจในกุศล อกุศล ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา

@ ถ้าไม่รู้จักตัณหา ไม่รู้จักทิฏฐิ จะละตัณหา ทิฏฐิได้ไหม ให้ไปจับผู้ร้าย แต่ไม่รู้จัก ผู้ร้ายเลย จะจับได้ไหม คะ

@ มั่นคงว่าธรรมเป็นธรรมะ

@ ฟังธรรมอย่างเดียวเท่านั้น เข้าใจธรรมว่าเป็นธรรม

@ ห้ามคิดไม่ได้ เพราะขณะนี้เห็น ไม่มีเฉพาะเห็น เห็นแล้วคิดแล้ว

@ ไม่ใช่เราไปติดข้อง แต่ติดข้องเกิดแล้ว เพราะมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้นกำลังปรากฎ และขณะนี้กำลังติดข้องเดี๋ยวนี้เองก็ไม่รู้ แต่เมื่อได้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น ก็เข้าใจถูกว่า ตัณหา ความติดข้อง เป็นแต่เพียงธรรมใช่เรา

@ คนที่บอกคนนั้น คนนี้ มีปัญญา คนนั้นจะต้องมีปัญญาด้วย ถึงจะรู้คนอื่นๆ ได้

@ เมื่อได้เข้าใจธรรมมากขึ้น ย่อมเห็นคุณของพระรัตนตรัยมากขึ้น

@ ฟังแล้วเข้าใจอย่างเดียวค่ะ เพราะเข้าใจ คือ ปัญญา เข้าใจอะไร คะ เข้าใจสิ่งที่ กำลังปรากฏว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา

@ ฟังเพื่อเข้าใจจนกว่าจะเข้าใจถูกว่าธรรมเป็นธรรม

@ ไม่มีตัวตนที่จะไม่คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว และไม่มาถึง สำคัญ คือ เข้าใจถูกว่า สิ่งที่ดับไปแล้ว คำนึงทำไม เพราะดับไปแล้ว ไม่กลับมาอีก

@ เป็นผู้ที่มั่นคงเข้าใจถูกว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา

@ บางคนเห็นว่าคนนั้นอยากเป็นคนดี อยากทำดี แต่ ถ้าไม่เข้าใจ ไม่ฟังธรรม จะเป็น ด้วยความอยากได้ไหม คะ

@ แล้วถ้าไม่สนทนาเลย จะเข้าใจธรรมได้ไหม

@ การศึกษาธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียด จุดประสงค์ก็เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่ไม่ใช่ สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ตามความเป็นจริง ถ้าไม่อาศัยการฟัง ไม่อาศัยการ ศึกษาอย่างต่อเนื่องด้วยความละเอียดรอบคอบแล้ว ย่อมไม่สามารถเข้าใจตามความ เป็นจริงได้ ดังนั้น จึงต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อความเข้าใจ ที่ถูกต้องยิ่งขึ้นไปตามลำดับ

@ การเข้าใจธรรมไม่ใช่เพียงเข้าใจเล็กน้อย แล้วอยากดับกิเลส เป็นไปได้อย่างไร ต้องเป็นปัญญา ที่ละเอียดและรู้จริง การอบรมเจริญอริยมัคค มีองค์ ๘ สามารถที่จะ รู้ยิ่งในสภาพธรรมที่ปรากฏทั้งหมดว่า เป็นธรรมะตามความเป็นจริง จึงจะดับอนุสัย กิเลสที่เกิดยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ เพราะความจริงไม่ใช่สิ่งหนึ่ง สิ่งใดเลย เพียงแค่ปรากฏก็หมดแล้ว

@ เมื่อรู้ว่าจะต้องตายแน่ๆ แล้วจะทำอย่างไร

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paew_int
วันที่ 21 ธ.ค. 2557

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 21 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pulit
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

กราบเท้าบูชาคุุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย อ.เผดิม ยี่สมบุญ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
siraya
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
jaturong
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
napachant
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ศิริษา
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

ไม่มีโอกาสไปฟังพระธรรมที่มูลนิธิค่ะแต่อาศัยอ่านจาก www.dhammahome.com ของมูลนิธิ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ ที่ทำให้มีโอกาสได้ฟังพระธรรมและศึกษาพระธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
khampan.a
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณศิริษา และทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 22 ธ.ค. 2557

สาธุ อนุโมทนา และ ขอบพระคุณ เป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
raynu.p
วันที่ 23 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 23 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย และ อ.เผดิม ยี่สมบุญ ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
เมตตา
วันที่ 23 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย และ อ.เผดิม ยี่สมบุญ ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
ปวีร์
วันที่ 23 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
นิตยา
วันที่ 23 ธ.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
ch.
วันที่ 25 ธ.ค. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
เจียมจิต
วันที่ 9 ธ.ค. 2562

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ