ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๗๕
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรม จากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๗๕
~ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ผู้ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีที่จะตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่ทุกคนมีตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ไม่รู้ ให้เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง ละความไม่รู้ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอกุศลต่างๆ มากมายมหาศาล เพราะว่าเพิ่มขึ้นแต่ละวันที่ไม่รู้
~ เมื่อสามารถมีความเข้าใจถูกก็สามารถรู้ว่า สิ่งใดเป็นอกุศล สิ่งที่ไม่ดีและธรรมที่ตรงกันข้าม คือ ความดีนั้นคืออะไร ถ้ามีปัญญาเหมือนแสงสว่างก็จะนำไปสู่ทางของกุศล ห่างไกลจากอกุศลซึ่งเคยมีมากมาย แต่ว่าห่างทันทีไม่ได้เลย ค่อยๆ เป็นไปตามความเข้าใจ
~ กิเลสทั้งหมด มีหลายอย่าง โลภะ ความติดข้องก็เป็นกิเลส โทสะความขุ่นเคือง ไม่ชอบ ก็เป็นกิเลส สภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส ไม่ผ่องใสเป็นอกุศล เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี
~ หนทางในพระพุทธศาสนาคือละตลอด ละอกุศล ละกิเลส แต่กิเลสละยาก ต้องด้วยปัญญาจริงๆ
~ การฟังพระธรรมก็เป็นเรื่องของความอดทน การเห็นประโยชน์ มีความเพียร และตรงตามความเป็นจริง คือ สัจจะว่า ฟังเพื่อเข้าใจ
~ การศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพ ด้วยความไม่ประมาท ไม่เผินไม่คิดว่าเข้าใจแล้ว ก็จะทำให้ปัญญา ความเข้าใจ ความเห็นถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้เพิ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถมีความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
~ อกุศลทั้งหลายไม่มีทางที่จะนำสิ่งที่ดีมาให้ได้เลย และก็มีความมั่นใจมั่นคงว่า กุศลทั้งหลายซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ก็ต้องนำมาซึ่งสิ่งที่ดีได้ ถ้ามีความมั่นใจอย่างนี้ก็จะทำให้ทำความดีเพิ่มขึ้น
~ กำลังของกุศลเท่านั้น ที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ และกุศลก็ไม่ใช่เกิดวันนี้วันเดียว ที่เคยสะสมมามีความมั่นคง หรือมีความหวั่นไหวก็แล้วแต่การสะสม เพราะฉะนั้นต้องเป็นผู้เห็นประโยชน์ของคุณความดีทั้งหมดที่เป็นบารมี และเป็นผู้ที่มั่นคงด้วย บางคนก็บอกว่า พูดไม่จริงนิดๆ หน่อยๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย ใครก็ไม่เดือดร้อน บางทีเขาอาจจะสบายใจขึ้นด้วยซ้ำไป ถ้าเราจะไม่พูดความจริงอย่างนั้น แต่เราเป็นผู้มั่นคงในคำจริง ไม่พูดก็ได้ หรือ พูดคำอื่นซึ่งไม่ใช่คำไม่จริงก็ได้ ที่จะทำให้คนอื่นสบายใจขึ้นก็ได้
~ กิเลสมากมาย เหนียวแน่น หนาแน่น และติดแน่นด้วยอยู่ในจิตเลย ที่จะเอาออกไปได้ไม่ใช่วิสัยของอกุศล แต่ต้องเป็นปัญญาด้วยที่มีความเข้าใจถูกต้อง และอบรมคุณความดีทุกอย่าง
~ เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งจะจากโลกนี้ไปเมื่อไร ไม่มีสามารถจะรู้ได้ และตราบใดที่ยังหนักด้วยกิเลส เพราะสะสมไว้มากเหลือเกิน จมแน่ ไปไหน? อบายภูมิ
~ เรื่องของเคล็ดลับไม่มีในพระพุทธศาสนา ในพระพุทธศาสนา มีแต่ปัญญา คือ ความเข้าใจถูก ตั้งแต่ขั้นของการฟัง เพราะเหตุว่าผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่พระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ที่เป็นพุทธบริษัทตั้งแต่อัครสาวก คือ ท่านพระสารีบุตร เป็นต้นไป เป็นสาวก คือ ผู้ฟัง เพราะฉะนั้น พุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องเคล็ดลับ แต่เป็นเรื่องอบรมเจริญปัญญาด้วยการฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ถึง ๔๕ พรรษา เพราะฉะนั้น ต้องเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากทีเดียว อย่าคิดว่าพระธรรมที่ทรงแสดงนั้นไม่มีประโยชน์
~ สิ่งที่มี เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แต่ถ้าพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสรู้และไม่ทรงแสดง บุคคลอื่นย่อมไม่สามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้นๆ ได้เลย ทุกคนเกิดมามีขันธ์ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ หรือว่าจะกล่าวว่า มีร่างกาย มีจิตใจ แล้วก็ยึดถือรูปร่างกายทั้งหมดตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า และจิตใจ รวมทั้งความรู้สึกแต่ละขณะว่าเป็นเรา แต่ว่าสิ่งนั้นไม่ใช่เรา มี แต่ไม่ใช่เรา
~ ตรงต่อความเป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตน) ทุกคำ
~ แม้แต่คำเดียว ก็ประมาทไม่ได้
~ ไม่มีประโยชน์ถ้าจะกล่าวธรรมกับคนที่เขาไม่สนใจ
~ อวิชชา ไม่สวัสดี ไม่มีดีในอวิชชา ปัญญาเท่านั้นที่สวัสดี ทำให้พ้นจากทุกข์และกิเลสทั้งปวง
~ เกิดมาแล้วหลีกเลี่ยงได้ไหมที่จะพ้นจากการได้รับผลของกรรม
~ เวลาที่ใกล้จะจุติ คือ ก่อนจะตาย จะมีใครรู้ล่วงหน้าไหมว่า เป็นขณะไหน เพราะว่ามักจะมีคำถามเสมอว่า ก่อนจะตายจะทำอย่างไรดี จะเตรียมตัวเฉพาะตอนจะตาย เข้าใจว่าสามารถจะทำได้ ถ้าสามารถจะทำตอนตายได้ก็ทำเสียตอนนี้ไม่ดีหรือ ใช่ไหม ทำไมจะต้องคอย ตอนนี้ผลัดไป ไม่ทำๆ แล้วก็ไปทำตอนจะตาย ถ้าขณะนี้ทำไม่ได้ ตอนตายจะทำได้อย่างไร
~ ทำดีโดยไม่ต้องรั้งรอ ไม่ว่าจะเป็นปีเก่าหรือปีใหม่ก็ตาม
~ ก่อนจะจากโลกนี้ไปก็ขอให้ได้ฟังและเข้าใจความจริง.
ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๗๔
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของอ. คำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่งค่ะ
ก่อนจะจากโลกนี้ไปก็ขอให้ได้ฟังและเข้าใจความจริง.
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบเท้าบุชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
กราบท่านอาจารย์
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย ด้วยครับ
สาธุ..ขออนุโมทนาคะ
* พระอภิธรรมคือเดี๋ยวนี้^___^
* เห็นขณะนี้ก็เป็นอนัตตา.
* ไม่มีใครทำเห็นได้
* ไม่มีใครเป็นเจ้าของเห็น
* ปัญญาที่เกิดขึ้นแล้วไม่มีวันจะน้อยลงไป
* โลภะเป็นทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ คือ สั่งให้ชอบและชอบตามที่ทันที
* โลภะเปรียบเหมือนท้องฟ้าที่ครอบสัตว์โลกอยู่..จึงไม่รู้ตัวเลยว่าอยู่ภายใต้โลภะมานานแสนนาน
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์คะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา คุณหมอดวงทิพย์ พี่วันชัย และทุกๆ ท่านครับ